Agricultural burning in Southeast A

Agricultural burning in Southeast Asia often creates a haze. In 2003 Thailand ratified the ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution to reduce the haze from forest fires, but issues throughout the region are still common.[15] Wildfires are started by local farmers during the dry season in northern Thailand for a variety of purposes,[16][17] with February and March as the two months when conditions are at their worst.[18][19] In research conducted between 2005 and 2009 in Chiang Mai, average PM10 rates during these months were found to be well above the country's safety level of 120 μg/m3,[20] peaking at 383 μg/m3 on 14 March 2007.[21] They are the main cause of the intense air pollution in the Thai highlands[22] and contribute to the floods in the country by completely denuding the undergrowth of the woods.[23] The dry forest soil leads to lower water intake for trees to extract when the rains arrive

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกษตรเขียนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มักจะสร้างหมอกควัน ใน 2003 ประเทศไทยให้สัตยาบันต่อข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษหมอกควันลดหมอกควันจากไฟป่า แต่ปัญหาทั่วทั้งภูมิภาคจะยังคงร่วมกัน [15] กล่าวคือเริ่มต้น โดยเกษตรกรในช่วงฤดูแล้งในภาคเหนือสำหรับความหลากหลายของวัตถุประสงค์, [16] [17] กุมภาพันธ์และมีนาคมเป็นเดือนสองเมื่อเงื่อนไขเป็นที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขา [18] [19] ในงานวิจัยที่ดำเนินการระหว่าง 2005 และ 2009 เชียงใหม่ ราคา PM10 เฉลี่ยในช่วงเดือนเหล่านี้พบจะดีกว่าของประเทศความปลอดภัยระดับ 120 μ/m3, [20] จุดที่ 383 μ/m3 ใน 14 2550 มีนาคม [21]เป็นสาเหตุหลักของมลพิษทางอากาศที่รุนแรงในไฮไทย [22] และนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมในประเทศ โดยสมบูรณ์ denuding ชิมของป่า [23] ดินป่าแห้งไปสู่ล่างน้ำบริโภคสำหรับต้นไม้การแยกเมื่อฝนมาถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเผาไหม้การเกษตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มักจะสร้างหมอกควัน ในปี 2003 ประเทศไทยให้​​สัตยาบันความตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนเพื่อลดหมอกควันจากไฟไหม้ป่า แต่ประเด็นที่ทั่วทั้งภูมิภาคจะยังคงร่วมกัน. [15] ไฟป่าจะเริ่มต้นโดยเกษตรกรในท้องถิ่นในช่วงฤดู​​แล้งในภาคเหนือของประเทศไทยสำหรับความหลากหลายของวัตถุประสงค์ [16] [17] กับเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมเป็นเดือนที่สองเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขา. [18] [19] ในการวิจัยดำเนินการระหว่างปี 2005 และ 2009 ในเชียงใหม่อัตราค่า PM10 เฉลี่ยในช่วงเดือนนี้พบว่ามีดีกว่าระดับความปลอดภัยของประเทศของ 120 ไมโครกรัม / m3, [20] จุดที่ 383 ไมโครกรัม / m3 ที่ 14 มีนาคม 2007 [21] พวกเขาเป็นสาเหตุหลักของมลพิษทางอากาศที่รุนแรงในที่ราบสูงไทย [22] และนำไปสู่​​ภาวะน้ำท่วมในประเทศโดยสมบูรณ์ denuding พุ่มของป่า. [23] ดินป่าแห้งนำไปสู่​​การลดการบริโภคน้ำสำหรับต้นไม้ที่จะดึงเมื่อฝนมาถึง