Adam and Eve, according to the crea

Adam and Eve, according to the creation myth of the Abrahamic religions,[1][2][3][4][5] were the first man and woman and the ancestors of all humans.[6] The story of Adam and Eve is central to the belief that YHWH created human beings to live in a paradise on earth, although they fell away from that state and formed the present world full of suffering and injustice. It provides the basis for the belief that humanity is in essence a single family, with everyone descended from a single pair of original ancestors.[7] It also provides much of the scriptural basis for the doctrines of the fall of man and original Sin, important beliefs in Christianity, although not generally shared by Judaism or Islam.[8][9]

In the Book of Genesis of the Hebrew Bible, chapters one through five, there are two creation narratives with two distinct perspectives. In the first, Adam and Eve are not mentioned (at least not mentioned by name). Instead, Elohim created humankind in God's image and instructed them to multiply and to be stewards over everything else that God had made. In the second narrative, God fashions Adam from dust and places him in the Garden of Eden. Adam is told that he can till the ground and eat freely of all the trees in the garden, except for a tree of the knowledge of good and evil. Subsequently, Eve is created from one of Adam's ribs to be Adam's companion. However, a serpent deceives Eve into eating fruit from the forbidden tree, and she gives some of the fruit to Adam. This act opens their eyes and they realize themselves. God later curses the serpent and the ground. God prophetically tells the woman and the man what will be the consequences of their sin of disobeying God. Then he banishes 'the human' from the Garden of Eden. Now Adam and Eve have to work hard everyday, just to get the food to eat so they could survive.

The story underwent extensive elaboration in later Abrahamic traditions, and it has been extensively analyzed by modern biblical scholars. Interpretations and beliefs regarding Adam and Eve and the story revolving around them vary across religions and sects; for example, the Islamic version of the story holds that Adam and Eve were equally responsible for their sins of hubris, instead of Eve being the first one to be unfaithful. The story of Adam and Eve is often depicted in art, and it has had an important influence in literature and poetry. The story of the Fall of Adam is often understood to be a symbolical allegory.

There is no physical evidence that Adam and Eve ever literally existed, and their literal existence is incompatible with human evolutionary genetics. However, there is in some countries a large discrepancy between the scientific consensus and popular opinion; a 2014 poll reports that 56% of Americans believe that "Adam and Eve were real people," and 44% believe so with strong or absolute certainty. [10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาดัมและอีฟ ตามสร้างตำนานของศาสนาอับราฮัม, [1] [2] [3] [4] [5] ได้คนแรก และผู้หญิง และบรรพบุรุษของมนุษย์ทั้งหมด [6] เรื่องราวของอาดัมและเอวาเป็นศูนย์กลางความเชื่อที่ว่า YHWH สร้างมนุษย์อาศัยอยู่ในสวรรค์บนดิน แม้ว่าพวกเขาตกอยู่ห่างจากรัฐ และเกิดโลกปัจจุบัน เต็มไป ด้วยความทุกข์ทรมานและความอยุติธรรม มีพื้นฐานความเชื่อที่ว่า มนุษย์เป็นสำคัญครอบครัวเดียว กับทุกคนที่สืบเชื้อสายจากบรรพบุรุษเดิมคู่เดียว [7]มีของพื้นฐานว่าสำหรับคำสอนของฤดูใบไม้ร่วงของมนุษย์และต้นฉบับความบาป ความเชื่อที่สำคัญในศาสนาคริสต์ แม้ว่าโดยทั่วไปจะไม่ร่วมศาสนายูดายหรือศาสนาอิสลามด้วย [8] [9]ในหนังสือปฐมกาลของพระคัมภีร์ฮิบรู บทที่หนึ่งถึงห้า มีการสร้างเรื่องเล่าสอง มีสองมุมมองที่แตกต่างกัน ในครั้งแรก อาดัมและเอวาไม่กล่าวถึง (ที่ไม่ได้กล่าวถึงชื่อ) แทน Elohim สร้างมนุษย์ในรูปของพระเจ้า และรับคำแนะนำพวกเขาคูณ และจะ เป็นผู้พิทักษ์ดูแลทุกอย่างอื่นที่พระเจ้าได้ทำ ในเล่าเรื่องสอง พระเจ้าแฟชั่น Adam จากฝุ่น และวางเขาใน Eden ของสวน อดัมจะบอกว่า เขาสามารถจนถึงพื้นดิน และกินได้อย่างอิสระของต้นไม้ในสวน ยกเว้นต้นไม้ความรู้ดี และความชั่วร้าย ต่อมา Eve ถูกสร้างขึ้นจากซี่โครงของอาดัมเป็น คู่หูของอาดัม อย่างไรก็ตาม งู deceives วันไปกินผลไม้จากต้นไม้ต้องห้าม และเธอให้ของผลไม้กับ Adam พระราชบัญญัตินี้เปิดตาของพวกเขา และพวกเขาตระหนักถึงตัวเอง พระเจ้าจึงสาปแช่งภายหลังพญานาคและพื้นดิน พระเจ้า prophetically บอกผู้หญิงและผู้ชายจะเป็นผลของบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า แล้ว เขา banishes 'มนุษย์' จาก Eden ของสวน ตอนนี้ อาดัมและเอวาได้ทำงานหนักในชีวิตประจำวัน เพียงเพื่อให้ได้อาหารที่กินเพื่อให้พวกเขาสามารถเอาตัวรอดผ่านเรื่องราวรายละเอียดอย่างละเอียดในภายหลังอับราฮัมประเพณี และมันยังถูกอย่างกว้างขวางวิเคราะห์ โดยนักวิชาการพระคัมภีร์ไบเบิลสมัยใหม่ การตีความและความเชื่อเกี่ยวกับอาดัม และอีฟ และเรื่องราวที่หมุนรอบตัวพวกเขาแตกต่างกันในศาสนาและมัซฮับ เช่น เรื่องราวรุ่นอิสลามถือว่า อาดัมและเอวาที่รับผิดชอบเท่า ๆ กันสำหรับความบาปของความ แทนที่วันแรกที่จะนอกใจ มักจะมีการถ่ายทอดเรื่องราวของอาดัมและเอวาในศิลปะ และมันมีอิทธิพลสำคัญในวรรณคดีและบทกวี มักมีเข้าใจเรื่องราวของการตกของอาดัมเป็น ชาวฟ symbolicalมีไม่มีหลักฐานทางกายภาพที่อดัม และเอวาจริง ๆ เคยอยู่ และตายสัญพจน์ไม่เข้ากันกับพันธุศาสตร์วิวัฒนาการมนุษย์ อย่างไรก็ตาม มีในบางประเทศความขัดแย้งใหญ่ระหว่างฉันทามติทางวิทยาศาสตร์และความคิดเห็นยอดนิยม การสำรวจ 2014 รายงานว่า 56% ของชาวอเมริกันที่เชื่อว่า "อาดัมและเอวาคนจริง", และ 44% เชื่อนั้นอาจกล่าวแข็ง หรือสัมบูรณ์ [10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาดัมและอีฟตามที่สร้างตำนานของศาสนาอับราฮัม, [1] [2] [3] [4] [5] เป็นผู้ชายคนแรกและหญิงและบรรพบุรุษของมนุษย์ทั้งหมด. [6] เรื่องราวของอาดัมและ อีฟเป็นศูนย์กลางของความเชื่อที่ว่า YHWH สร้างมนุษย์จะอาศัยอยู่ในสวรรค์บนดินแม้ว่าพวกเขาลดลงไปจากรัฐที่และรูปแบบที่โลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและความอยุติธรรม มันมีพื้นฐานสำหรับความเชื่อที่ว่ามนุษย์เป็นสาระสำคัญในครอบครัวเดียวกับทุกคนที่สืบเชื้อสายมาจากคู่ของบรรพบุรุษเดิม. [7] นอกจากนี้ยังมีมากพื้นฐานคัมภีร์คำสอนของฤดูใบไม้ร่วงของมนุษย์และบาปเดิม ความเชื่อที่สำคัญในศาสนาคริสต์ถึงแม้จะไม่ใช้ร่วมกันโดยยูดายหรือศาสนาอิสลามโดยทั่วไป. [8] [9] ในพระธรรมปฐมกาลของฮีบรูไบเบิลบทหนึ่งถึงห้ามีสองเรื่องเล่าการสร้างที่มีมุมมองที่แตกต่างกันสอง ในครั้งแรกที่อาดัมและอีฟไม่ได้กล่าวถึง (อย่างน้อยก็ไม่ได้กล่าวถึงชื่อ) แต่พระเจ้าสร้างมนุษย์ในภาพของพระเจ้าและสั่งให้พวกเขาในการคูณและจะเป็นเสนาบดีมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าได้ทรงสร้าง ในการเล่าเรื่องที่สองของพระเจ้าอดัมแฟชั่นจากฝุ่นละอองและสถานที่ที่เขาอยู่ในสวนเอเดน อดัมบอกว่าเขาสามารถทำไร่ไถนาและกินได้อย่างอิสระของต้นไม้ทุกต้นในสวนยกเว้นต้นไม้แห่งความรู้ดีและความชั่วร้าย ต่อจากนั้นอีฟถูกสร้างขึ้นจากหนึ่งของกระดูกซี่โครงของอาดัมจะเป็นสหายของอดัม แต่งูหลอกอีฟเข้ามากินผลไม้จากต้นไม้ต้องห้ามและเธอก็ทำให้บางส่วนของผลไม้ที่จะอดัม การกระทำนี้จะเปิดตาของพวกเขาและพวกเขาตระหนักถึงตัวเอง พระเจ้าสาปแช่งต่อมางูและพื้นดิน พระเจ้าพยากรณ์บอกว่าผู้หญิงและผู้ชายคนนั้นสิ่งที่จะเป็นผลของความบาปของพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า จากนั้นเขาก็ขับไล่ 'มนุษย์' จากสวนเอเดน ตอนนี้อดัมและอีฟต้องทำงานอย่างหนักในชีวิตประจำวันเพียงเพื่อให้ได้อาหารที่จะกินเพื่อให้พวกเขาสามารถอยู่รอดได้. เรื่องราวเปลี่ยนไปทำอย่างประณีตอย่างกว้างขวางในประเพณีอับบราฮัมต่อมาและได้รับการวิเคราะห์อย่างกว้างขวางโดยนักวิชาการพระคัมภีร์ที่ทันสมัย การตีความและความเชื่อเกี่ยวกับอดัมและอีฟและเรื่องราวที่หมุนรอบตัวพวกเขาแตกต่างกันในศาสนาและนิกาย; ตัวอย่างเช่นรุ่นอิสลามของเรื่องถือได้ว่าอาดัมและอีฟมีความรับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกันสำหรับความผิดของพวกเขาจากความโอหังแทนอีฟเป็นคนแรกที่จะนอกใจ เรื่องราวของอดัมและอีฟมักจะเป็นภาพในงานศิลปะและมันมีอิทธิพลสำคัญในวรรณคดีและบทกวี เรื่องราวของการล่มสลายของอาดัมมักจะเข้าใจกันว่าเป็นสัญลักษณ์ชาดก. ไม่มีหลักฐานทางกายภาพที่อาดัมและอีฟเคยมีอยู่อย่างแท้จริงคือการดำรงอยู่และตัวอักษรของพวกเขาไม่เข้ากันกับพันธุศาสตร์วิวัฒนาการของมนุษย์ แต่มีในบางประเทศที่มีขนาดใหญ่ความแตกต่างระหว่างฉันทามติทางวิทยาศาสตร์และความคิดเห็นที่นิยม; 2014 โพลรายงานว่า 56% ของชาวอเมริกันเชื่อว่า "อดัมและอีฟเป็นคนจริง" และ 44% เชื่อว่าเพื่อให้มีความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งหรือแน่นอน [10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อดัมและอีฟ ตามการสร้างตำนานของศาสนาอับราฮัม , [ 1 ] [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ] เป็นผู้ชายและผู้หญิง และบรรพบุรุษของมนุษย์ทั้งหมด [ 6 ] เรื่องราวของอาดัมและอีฟเป็นศูนย์กลางความเชื่อที่ว่ายะโฮวาสร้างมนุษย์ ที่จะอยู่ใน สวรรค์บนดิน แม้ว่าจะอยู่ห่างจาก รัฐ และสร้างโลกปัจจุบันเต็มไปด้วยความอยุติธรรม มันมีพื้นฐานความเชื่อที่ว่า มนุษย์เป็นแก่นแท้ของครอบครัวเดียว กับทุกคนสืบเชื้อสายมาจากคู่เดียวของบรรพบุรุษเดิม [ 7 ] นอกจากนี้ยังมีมากของพื้นฐานพระคัมภีร์ในลัทธิของฤดูใบไม้ร่วงของมนุษย์และบาปเดิม ความเชื่อที่สำคัญในศาสนาคริสต์ แต่ไม่โดยทั่วไปที่ใช้ร่วมกันโดยยูดายและศาสนาอิสลาม [ 8 ] [ 9 ]ในพระธรรมปฐมกาลของฮีบรูไบเบิลบทหนึ่งถึงห้า มี สอง การสร้างเรื่องเล่ากับสองแตกต่างมุมมอง ในตอนแรก อาดัมและอีฟไม่ได้กล่าวถึง ( อย่างน้อยก็ไม่เอ่ยชื่อ ) แทน พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ในรูปของพระเจ้าและคำสั่งพวกเขาคูณและเป็นผู้ดูแลมากกว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น ในเรื่องที่สอง พระเจ้าแฟชั่นอดัมจากฝุ่นและสถานที่ที่เขาอยู่ในสวนเอเดน อดัมบอกว่าเขาจะถึงพื้นดิน และกินอย่างอิสระของต้นไม้ทั้งหมดในสวน ยกเว้นต้นไม้แห่งความรู้ดีและความชั่วร้าย ต่อมาอีฟถูกสร้างขึ้นจากหนึ่งของอดัม อดัม ซี่โครง ให้เพื่อน แต่งูหลอกลวงอีฟไปกินผลไม้จากต้นไม้ต้องห้าม เธอช่วยให้บางส่วนของผลไม้ที่อดัม พระราชบัญญัตินี้เปิดตาของพวกเขาและพวกเขารู้ว่าตัวเอง พระเจ้าภายหลังคำสาปงูและพื้นดิน พระเจ้า prophetically บอกผู้หญิง และ ผู้ชายอะไรจะได้รับผลของบาปของพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า แล้วเขา banishes " มนุษย์ " จากสวนแห่งอีเดน ตอนนี้ อดัม และ อีฟ ต้องทำงานหนักทุกวัน แค่เอาอาหารให้กินเพื่อให้พวกเขาสามารถอยู่รอดได้เรื่องได้รับคู่มืออย่างละเอียดในประเพณีอับราฮัมในภายหลัง และมันได้ถูกอย่างกว้างขวางวิเคราะห์โดยนักวิชาการสมัยใหม่ การตีความและความเชื่อเกี่ยวกับอาดัมและอีฟ และ เรื่องราว ที่หมุนเวียนอยู่รอบ ๆแตกต่างกันในศาสนาและนิกาย ; ตัวอย่างเช่นรุ่นของอิสลามเรื่องถือว่าอดัมกับอีฟอย่างเท่าเทียมกันรับผิดชอบบาปของความโอหัง แทนอีฟเป็นคนแรกที่จะนอกใจ เรื่องราวของอดัมและอีฟ มักปรากฎในงานศิลปะ และมีอิทธิพลในวรรณกรรมและบทกวี เรื่องราวของการล่มสลายของอดัม มักเข้าใจกันว่าเป็นสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมาย .ไม่มีหลักฐานทางกายภาพที่อาดัมและอีฟเคยมีอยู่จริง และตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาคือเข้ากันไม่ได้กับพันธุศาสตร์วิวัฒนาการมนุษย์ อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศในความแตกต่างใหญ่ระหว่างการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ และความคิดเห็นที่ได้รับความนิยม , 2014 รายงานว่า 56% ของชาวอเมริกันเชื่อว่า " อดัมและอีฟเป็นคนจริงๆ และร้อยละ 44 เชื่อว่าด้วยความแข็งแรงหรือสมบูรณ์แน่นอน [ 10 ]