The FDA sets a maximum of 140 dB fo

The FDA sets a maximum of 140 dB for an MR imaging system and a maximum of 99 dB for a patient with hearing protection (35). The majority of MR imaging unit noise originates from gradient coils because they are subject to rapid changes in current, which in turn interact with the main magnetic field through Lorentz forces. Pulse sequences that are gradient intensive, such as echo-planar imaging, are the loudest, but even these usually fall under the required maximum (36). Temporary hearing loss has been documented in patients who underwent routine MR imaging examinations without protective devices (37). It is common practice to require that patients use passive noise control, typically disposable earplugs or over-the-ear headphones, which can reduce noise levels by 10–30 dB. Newer-generation systems reduce noise levels by use of additional passive noise shields and active techniques such as noise-minimizing “silent” or
“quiet” pulse sequences (38).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

FDA กำหนดสูงสุด 140 dB สำหรับระบบภาพ MR และสูงสุด 99 dB สำหรับผู้ป่วยที่มีอุปกรณ์ป้องกันเสียง (35) บัญญัติหน่วยเสียงส่วนใหญ่มาจากขดลวดไล่ระดับเนื่องจากอาจ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ซึ่งจะโต้ตอบกับสนามแม่เหล็กหลักผ่านแรงลอเรนซ์ ลำดับชีพจรที่ไล่ระดับมาก เช่นภาพสะท้อนระนาบ มีดังที่สุด แต่แม้เหล่านี้มักจะตกอยู่ภายใต้สูงสุดที่จำเป็น (36) สูญเสียการได้ยินชั่วคราวได้รับการรับรองในผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจถ่ายภาพนายประจำไม่ มีอุปกรณ์ป้องกัน (37) เป็นการทั่วไปจะต้องการให้ผู้ป่วยใช้ควบคุมเสียงแฝง อุดหูทิ้งปกติ หรือหู ฟังมากกว่าหู ซึ่งสามารถลดระดับเสียงได้ 10-30 dB รุ่นใหม่ระบบลดเสียงรบกวน โดยใช้โล่เสียงแฝงเพิ่มเติมและเทคนิคการใช้งานเช่นการลดเสียงรบกวน "เงียบ" หรือ"เงียบสงบ" พัลส์ลำดับ (38)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

องค์การอาหารและยากำหนดสูงสุดถึง 140 เดซิเบลสำหรับระบบการถ่ายภาพ ม.ร.ว. และสูงสุดไม่เกิน 99 เดซิเบลสำหรับผู้ป่วยที่มีการป้องกันการได้ยินได้ (35) ส่วนใหญ่ของการถ่ายภาพ MR หน่วยเสียงมาจากขดลวดลาดเพราะพวกเขาอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันซึ่งในทางกลับกันมีปฏิสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กหลักผ่านแรงลอเรนซ์ ลำดับพัลส์ที่มีการไล่ระดับสีอย่างเข้มข้นเช่นการถ่ายภาพก้องภาพถ่ายเป็นดัง แต่แม้เหล่านี้มักจะตกอยู่ภายใต้สูงสุดที่จำเป็น (36) การสูญเสียการได้ยินชั่วคราวได้รับการรับรองในผู้ป่วยที่เข้ารับการสอบประจำ MR ถ่ายภาพโดยไม่ต้องอุปกรณ์ป้องกัน (37) มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องว่าผู้ป่วยที่ใช้ควบคุมเสียงเรื่อย ๆ โดยทั่วไปที่อุดหูทิ้งหรือมากกว่าที่หูฟังซึ่งสามารถลดระดับเสียง 10-30 เดซิเบล ระบบรุ่นใหม่กว่าลดระดับเสียงรบกวนจากการใช้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โล่เสียงและเทคนิคการใช้งานเช่นการลดเสียงรบกวน "เงียบ" หรือ
"เงียบ" ชีพจรลำดับ (38)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

องค์การอาหารและยาชุดสูงสุด 140 dB สำหรับคุณภาพของระบบและสูงสุด 99 dB สำหรับผู้ป่วยป้องกันการได้ยิน ( 35 ) ส่วนใหญ่ของคุณภาพเสียงมาจากหน่วยลาดม้วนเพราะพวกเขาอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ซึ่งจะโต้ตอบกับสนามแม่เหล็กหลักผ่านทางลอเรนซ์กําลัง ชีพจรลำดับที่ลาดอย่างเข้มข้น เช่น สะท้อนภาพในแนวระนาบ จะดัง แต่เหล่านี้มักจะตกอยู่ภายใต้ความต้องการสูงสุด ( 36 ) สูญเสียการได้ยินชั่วคราวได้รับการบันทึกไว้ในผู้ป่วยที่เข้ารับการสอบคุณภาพตามปกติ โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน ( 37 ) มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องให้ผู้ป่วยใช้ควบคุมเสียงเรื่อยๆ มักจะทิ้งที่อุดหูหรือมากกว่าหูฟังหู , ซึ่งสามารถลดระดับเสียง โดย 10 – 30 dB รุ่นที่ใหม่กว่าระบบลดระดับเสียงโดยการใช้เพิ่มเติมเรื่อยๆ เสียงเกราะและเทคนิคการใช้งาน เช่น เสียงรบกวน ลด " เงียบ " หรือ" เงียบ " ชีพจรลำดับ ( 38 )