AbstractOver 500 million people int

Abstract

Over 500 million people interact daily with Facebook. Yet, whether Facebook use influences subjective well-being over time is unknown. We addressed this issue using experience-sampling, the most reliable method for measuring in-vivo behavior and psychological experience. We text-messaged people five times per day for two-weeks to examine how Facebook use influences the two components of subjective well-being: how people feel moment-to-moment and how satisfied they are with their lives. Our results indicate that Facebook use predicts negative shifts on both of these variables over time. The more people used Facebook at one time point, the worse they felt the next time we text-messaged them; the more they used Facebook over two-weeks, the more their life satisfaction levels declined over time. Interacting with other people “directly” did not predict these negative outcomes. They were also not moderated by the size of people's Facebook networks, their perceived supportiveness, motivation for using Facebook, gender, loneliness, self-esteem, or depression. On the surface, Facebook provides an invaluable resource for fulfilling the basic human need for social connection. Rather than enhancing well-being, however, these findings suggest that Facebook may undermine it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อกว่า 500 ล้านคนทำงานทุกวันกับ Facebook ยัง ว่าใช้ Facebook มีผลต่อตามอัตวิสัยเวลาผ่านไปไม่รู้จัก เราระบุปัญหานี้โดยใช้ประสบการณ์สุ่มตัวอย่าง วิธีการเชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับวัดพฤติกรรมใน vivo และประสบการณ์ทางจิตใจ เราข้อ messaged คนห้าครั้งต่อวันในสัปดาห์ที่สองเพื่อตรวจสอบวิธีใช้อิทธิพลของ Facebook คณะตามอัตวิสัยสอง: วิธีคนรู้สึกช่วงเวลาช่วงเวลาและพอใจว่าพวกเขาจะ มีชีวิต ผลของเราระบุว่า Facebook ใช้ทำนายกะลบในตัวแปรเหล่านี้ทั้งสองช่วงเวลา คนที่ใช้ Facebook ที่จุดเวลาหนึ่ง ที่แย่จะรู้สึกว่าครั้งต่อไปเราข้อความ-messaged นั้น ยิ่งจะใช้ Facebook ผ่านสองสัปดาห์ มากกว่าระดับความพึงพอใจชีวิตของพวกเขาปฏิเสธช่วงเวลา โต้ตอบกับผู้อื่น "โดยตรง" ไม่ได้ทายผลเหล่านี้เป็นค่าลบ พวกเขาก็ยังไม่มีควบคุมตามขนาดของเครือข่าย Facebook ของคน การรับรู้ supportiveness แรงจูงใจในการใช้ Facebook เพศ ความเหงา นับถือตนเอง หรือภาวะซึมเศร้า บนพื้นผิว Facebook ให้เป็นทรัพยากรล้ำค่าการตอบสนองพื้นฐานมนุษย์จำเป็นต้องเชื่อมต่อสังคม แทนที่จะเสริมสร้างสุขภาพ ไร ผลการวิจัยเหล่านี้แนะนำว่า Facebook อาจทำลายมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อกว่า 500 ล้านคนมีปฏิสัมพันธ์ทุกวันด้วย Facebook แต่ไม่ว่าจะเป็น Facebook ใช้อิทธิพลอัตนัยเป็นอยู่ที่ดีในช่วงเวลาที่ไม่เป็นที่รู้จัก เราที่อยู่ปัญหานี้โดยใช้ประสบการณ์การสุ่มตัวอย่างวิธีการที่เชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับการวัดในร่างกายพฤติกรรมและประสบการณ์ทางด้านจิตใจ เราข้อความ messaged คนห้าครั้งต่อวันเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อตรวจสอบวิธีการใช้ Facebook ที่มีอิทธิพลต่อทั้งสองส่วนของอัตนัยเป็นอยู่ที่ดี: วิธีคนรู้สึกขณะที่ช่วงเวลาและวิธีการที่พวกเขามีความพึงพอใจกับชีวิตของพวกเขา ผลของเราแสดงให้เห็นว่าการใช้ Facebook คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในทางลบต่อทั้งสองตัวแปรเหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนจำนวนมากที่ใช้ Facebook ที่จุดเวลาหนึ่งที่เลวร้ายยิ่งพวกเขารู้สึกว่าครั้งต่อไปเราข้อความ messaged พวกเขา; มากกว่าที่พวกเขาใช้ Facebook กว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมามากกว่าระดับความพึงพอใจของชีวิตของพวกเขาลดลงเมื่อเวลาผ่านไป มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ "โดยตรง" ไม่ได้คาดการณ์ผลเชิงลบเหล่านี้ พวกเขายังไม่ได้มีการตรวจสอบตามขนาดของเครือข่าย Facebook ของผู้คน, เอื้อต่อการรับรู้ของพวกเขาแรงจูงใจในการใช้ Facebook, เพศ, ความเหงา, ความภาคภูมิใจในตนเองหรือภาวะซึมเศร้า บนพื้นผิวที่ Facebook มีทรัพยากรที่ทรงคุณค่าเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์สำหรับการเชื่อมต่อสังคม มากกว่าการเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดี แต่การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่า Facebook อาจทำลายมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม

500 ล้านคนโต้ตอบรายวันกับ Facebook แต่ไม่ว่าจะ Facebook ใช้อิทธิพลความอยู่ดีมีสุขตลอดเวลา ไม่รู้จัก เราแก้ไขปัญหานี้โดยใช้ตัวอย่างประสบการณ์ วิธีการที่เชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับปี 2544 วัดพฤติกรรมและประสบการณ์ทางจิตเราข้อความ messaged คนห้าครั้งต่อวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบวิธีการที่ Facebook ใช้อิทธิพลสององค์ประกอบของความอยู่ดีมีสุข : วิธีการที่คนรู้สึกว่านาทีแล้วพอใจพวกเขาด้วยชีวิต ผลของเราระบุว่า Facebook ใช้ทำนายกะลบทั้งของตัวแปรเหล่านี้ในช่วงเวลา ผู้คนใช้ Facebook ณจุดเวลาหนึ่งแย่กว่าที่พวกเขารู้สึกว่าครั้งหน้าเราจะข้อความ messaged พวกเขา ยิ่งพวกเขาใช้ Facebook มากกว่าสองสัปดาห์ มากกว่าชีวิตของพวกเขา ระดับความพึงพอใจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป การมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น " โดยตรง " ไม่ทำนายผลเชิงลบเหล่านี้ พวกเขาก็ยังไม่ทำให้ขนาดของเครือข่าย Facebook ของผู้คน , การรับรู้ของพวกเขา supportiveness แรงจูงใจสำหรับการใช้ Facebook , เพศความเหงา ความวิตกกังวล หรือซึมเศร้า บนพื้นผิว , Facebook มีทรัพยากรที่ทรงคุณค่าเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ต่อสังคม แทนที่จะส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า Facebook อาจทำลายมัน