• Returns the position after the la

• Returns the position after the last transformed element in the destination range (the first element that is not overwritten with a result). • The caller must ensure that the destination range is big enough or that insert iterators are used. • sourceBeg and destBeg maybe identical. Thus, as with for_each(), youcan usethis algorithm to modify elements inside a sequence. See the comparison with the for_each() algorithm (Section 11.2.2, page 509) for this kind of use. • To replace elements matching a criterion with a particular value, use the replace() algorithms (see Section 11.6.6, page 571). • Complexity: linear (numElems calls of op()). The following program demonstrates how to use this kind of transform

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

•กลับตำแหน่งหลังจากแปรรูปองค์สุดท้ายช่วงปลาย (first องค์ประกอบที่ไม่ได้ถูกเขียนทับ ด้วยผล) •ผู้เรียกต้องแน่ใจว่า ช่วงปลายมีขนาดใหญ่เพียงพอ หรือที่แทรกใช้ iterators • sourceBeg และ destBeg บางทีเหมือนกัน ดังนั้น เช่นเดียวกับ for_each(), usethis youcan อัลกอริทึมในการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบภายในลำดับงาน ดูเปรียบเทียบกับ for_each() อัลกอริทึม (ส่วน 11.2.2 หน้า 509) สำหรับชนิดนี้ใช้ •การเปลี่ยนองค์ประกอบที่ตรงกับเงื่อนไขที่ มีค่าเฉพาะ ใช้อัลกอริทึม replace() (ดูส่วน 11.6.6 หน้า 571) •ความซับซ้อน: เชิงเส้น (เรียก numElems ของ op()) โปรแกรมต่อไปนี้สาธิตวิธีการใช้ชนิดของการแปลงนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

•คืนตำแหน่งหลังจากเปลี่ยนองค์ประกอบสุดท้ายในช่วงปลายทาง (องค์ประกอบแรกที่ไม่ได้เขียนทับด้วยผล) •โทรต้องให้แน่ใจว่าช่วงปลายทางมีขนาดใหญ่พอหรือว่าใส่ iterators ถูกนำมาใช้ • sourceBeg และ destBeg อาจจะเหมือนกัน ดังนั้นเช่นเดียวกับ for_each () useThis Youcan ขั้นตอนวิธีการในการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบในลำดับ ดูการเปรียบเทียบกับ for_each () ขั้นตอนวิธีการ (มาตรา 11.2.2, หน้า 509) สำหรับประเภทของการใช้งานนี้ •การเปลี่ยนองค์ประกอบที่ตรงกับเกณฑ์ที่มีค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ใช้แทน () ขั้นตอนวิธีการ (ดูมาตรา 11.6.6, หน้า 571) •ซับซ้อน: เชิงเส้น (สาย numElems ของสหกรณ์ ()) โปรแกรมต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้ชนิดของการแปลงนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- ค่าตำแหน่งหลังจากครั้งสุดท้ายที่เปลี่ยนธาตุในช่วงปลายทาง ( จึงตัดสินใจเดินทางองค์ประกอบที่ไม่ได้เขียนทับด้วยผล ) แต่ละสายจะต้องมั่นใจว่าช่วงปลายมีขนาดใหญ่พอ หรือใส่ iterators ใช้ และบริการ sourcebeg destbeg บางทีเหมือนกัน ดังนั้น ด้วย for_each() คุณสามารถใช้ขั้นตอนวิธีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบในลำดับดูเปรียบเทียบกับ for_each() ขั้นตอนวิธี ( มาตรา 11.2.2 หน้า 509 ) ชนิดนี้ใช้ - แทนที่องค์ประกอบที่ตรงกับเกณฑ์กับค่าเฉพาะ ใช้ replace() อัลกอริทึม ( ดูมาตรา 11.6.6 หน้า 571 ) - ความซับซ้อน : เชิงเส้น ( numelems โทร op() ) รายการต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีที่จะใช้ชนิดของแปลง