พระเจดีย์เงิน เหตุที่เรียกว่า พระเจ

พระเจดีย์เงิน เหตุที่เรียกว่า พระเจดีย์เงิน เพราะว่า พื้นของอาคารปูลาดด้วยแผ่นเงินกว่า 5,000 แผ่น แต่ละแผ่นหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 5 ตัน แต่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม "วัดพระแก้ว" ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของกัมพูชา จึงห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด สมเด็จพระนโรดมทรงสร้างเจดีย์เงินนี้ขึ้นในปี 1892 หลังผ่านพ้นไปราวกึ่งศตวรรษจึงได้มีการขยายต่อเติมออกไปในรัชกาลสมเด็จพระสีหนุ ในปี 1962 วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานอยู่สององค์คือ พระแก้วมรกตสมัยศตวรรษที่ 17 และพระพุทธรูปทองที่หล่อด้วยทองคำบริสุทธิ์ 90 กิโลกรัม ประดับด้วยเพชร 9,548 เม็ด เม็ดที่ใหญ่ที่สุดหนักถึง 25 กะรัต

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พระเจดีย์เงินเหตุที่เรียกว่าพระเจดีย์เงินเพราะว่าพื้นของอาคารปูลาดด้วยแผ่นเงินกว่า 5000 แผ่นแต่ละแผ่นหนักมากกว่า 1 กิโลกรัมรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 5 ตันแต่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม "วัดพระแก้ว" ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของกัมพูชาจึงห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด ค.ศ. 1892 หลังผ่านพ้นไปราวกึ่งศตวรรษจึงได้มีการขยายต่อเติมออกไปในรัชกาลสมเด็จพระสีหนุพระแก้วมรกตสมัยศตวรรษที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานอยู่สององค์คือในปี 1962 17 ประดับด้วยเพชร 90 กิโลกรัม 9548 เม็ดเม็ดที่ใหญ่ที่สุดหนักถึง 25 กะรัต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระเจดีย์เงินเหตุที่เรียกว่าพระเจดีย์เงินเพราะว่าพื้นของอาคารปูลาดด้วยแผ่นเงินกว่า 5,000 แผ่นแต่ละแผ่นหนักมากกว่า 1 กิโลกรัมรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 5 ตัน แต่คนใหญ่รู้จักกัน "วัดพระแก้ว" ส่วนในนาม จึงห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด 1892 ในปี 1962 พระแก้วมรกตสมัยศตวรรษที่ 17 90 กิโลกรัมประดับด้วยเพชร 9,548 เม็ดเม็ดที่ใหญ่ที่สุดหนักถึง 25 กะรัต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระเจดีย์เงินเหตุที่เรียกว่าพระเจดีย์เงินเพราะว่าพื้นของอาคารปูลาดด้วยแผ่นเงินกว่า 5000 แผ่นแต่ละแผ่นหนักมากกว่า 1 กิโลกรัมรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 5 ตันแต่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม " วัดพระแก้ว " ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของกัมพูชาจึงห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาดค.ศ. 1892 หลังผ่านพ้นไปราวกึ่งศตวรรษจึงได้มีการขยายต่อเติมออกไปในรัชกาลสมเด็จพระสีหนุสามารถวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานอยู่สององค์คือพระแก้วมรกตสมัยศตวรรษที่ 1790 กิโลกรัมประดับด้วยเพชร 9แต่เม็ดเม็ดที่ใหญ่ที่สุดหนักถึง 25 กะรัต