Background/Aims: Early intervention

Background/Aims: Early intervention with nutritional
supplementation has been shown to halt malnutrition
and may improve outcome in some patients
with colorectal cancer. The aim of this study was to
investigate whether dietary counseling, oral nutrition
and megestrol acetate during chemotherapy
affected nutritional status and survival in patients
with advanced disease. Methodology: Six hundred
and twenty-eight patients with colorectal cancer advanced
disease were included in the study from January
2000 through December 2009 and divided into
one of two groups. Group I consisted of 315 patients
who were monitored prospectively and were given
nutritional support. Group II included 313 patients
without nutritional counseling and support. After
the completion of chemotherapy all patients were
evaluated (BMI, NST, Appetite Loss Scale and ECOG).
Results: After the completion of chemotherapy, there
were lower proportions of patients in Group I with a
BMI

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง/จุดมุ่งหมาย: แทรกแซงต้น ด้วยโภชนาการได้รับการแสดงแห้งเสริมหย่าขาดสารอาหารและอาจปรับปรุงผลลัพธ์ในผู้ป่วยบางโรคมะเร็งลำไส้ จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการตรวจสอบว่าอาหารโภชนาการให้คำปรึกษา ช่องปากและ megestrol acetate ระหว่างเคมีบำบัดโภชนาการที่ได้รับผลกระทบและการอยู่รอดในผู้ป่วยกับโรคขั้นสูง วิธีการ: หกร้อยและผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ขั้นสูงยี่สิบแปดโรครวมอยู่ในการศึกษามกราคม2000 ถึง 2009 ธันวาคม และแบ่งหนึ่งในกลุ่มที่สอง กลุ่มที่ผมประกอบด้วยผู้ป่วย 315ผู้ติดตาม prospectively และได้รับหรือไม่การสนับสนุนทางโภชนาการ กลุ่ม II รวม 313 ผู้ป่วยไม่ มีคุณค่าทางโภชนาการให้คำปรึกษาและสนับสนุน หลังจากความสมบูรณ์ของเคมีบำบัดผู้ป่วยทั้งหมดได้ประเมิน (BMI, NST อัตราการสูญเสียความอยากอาหาร และ ECOG)ผลลัพธ์: หลังจากเสร็จสิ้นการเคมีบำบัด มีมีสัดส่วนที่ต่ำกว่าของผู้ป่วยในกลุ่มฉันด้วยการBMI < 20, NST≥5 สูญเสียความอยากอาหารและน้ำหนักลดลงไม่รับ ให้คำปรึกษาทางโภชนาการและอาหารเสริมชั่วคราวหยุดการสูญเสียน้ำหนักและความอยากอาหารดีขึ้นปรับปรุงนี้อาจมีผลกระทบในผู้ป่วยอยู่รอด ผู้ป่วยที่ มีโภชนาการสนับสนุนช่วงอาศัยเดือน 19.1 ในขณะที่ผู้ป่วยในการควบคุมกลุ่มมีความอยู่รอดของเดือน 12.4 (p = 0.022) บทสรุป:การศึกษานี้แสดงว่าเกิดขึ้นพร้อมกันจำนวนอาหารสำหรับผู้ให้คำปรึกษา และโภชนาการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงโภชนาการจึง lessening morbidity เกิดจากเคมีบำบัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง / จุดมุ่งหมาย: การแทรกแซงที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
อาหารเสริมได้รับการแสดงที่จะหยุดการขาดสารอาหาร
และอาจปรับปรุงผลในผู้ป่วยบางราย
ที่มีโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการ
ตรวจสอบว่าการให้คำปรึกษาการบริโภคอาหารโภชนาการในช่องปาก
และอะซิเตท megestrol ระหว่างเคมีบำบัด
ได้รับผลกระทบภาวะโภชนาการและความอยู่รอดในผู้ป่วย
ที่มีโรคขั้นสูง วิธีการ: หกร้อย
และยี่สิบแปดผู้ป่วยที่มีโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ขั้นสูง
โรคถูกรวมอยู่ในการศึกษาตั้งแต่เดือนมกราคม
2000 ถึงเดือนธันวาคม 2009 และแบ่งออกเป็น
หนึ่งในสองกลุ่ม กลุ่มที่ประกอบด้วย 315 ผู้ป่วย
ที่ได้รับการตรวจสอบทันทีและได้รับ
การสนับสนุนทางโภชนาการ กลุ่มที่สองรวม 313 ผู้ป่วย
โดยไม่ต้องให้คำปรึกษาด้านโภชนาการและการสนับสนุน หลังจาก
เสร็จสิ้นการรักษาด้วยเคมีบำบัดผู้ป่วยทุกรายได้รับการ
ประเมินผล (BMI, NST, เครื่องชั่งน้ำหนักการสูญเสียความอยากอาหารและ ECOG).
ผลการศึกษา: หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาด้วยเคมีบำบัดที่มี
เป็นสัดส่วนที่ลดลงของผู้ป่วยในกลุ่มที่มี
ค่าดัชนีมวลกาย <20 NST≥5การสูญเสียของ ความอยากอาหารและน้ำหนักลดลง
กำไร การให้คำปรึกษาทางด้านโภชนาการและการให้อาหารเสริม
ชั่วคราวหยุดการสูญเสียน้ำหนักและความกระหายที่ดีขึ้น.
ปรับปรุงนี้อาจมีผลกระทบต่อ
ความอยู่รอดของผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มีการสนับสนุนทางโภชนาการต้น
อาศัยอยู่ 19.1 เดือนในขณะที่ผู้ป่วยที่อยู่ในการควบคุม
ของกลุ่มมีความอยู่รอดของ 12.4 เดือน (p = 0.022) สรุป:
การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าพร้อมกัน
ให้คำปรึกษารายบุคคลและการบริโภคอาหารโภชนาการ
การสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงภาวะโภชนาการ
จึงลดการเจ็บป่วยยาเคมีบำบัดที่เกิดขึ้น