Introduction to Financial RatiosWhe

Introduction to Financial Ratios

When computing financial ratios and when doing other financial statement analysis always keep in mind that the financial statements reflect the accounting principles. This means assets are generally not reported at their current value. It is also likely that many brand names and unique product lines will not be included among the assets reported on the balance sheet, even though they may be the most valuable of all the items owned by a company.

These examples are signals that financial ratios and financial statement analysis have limitations. It is also important to realize that an impressive financial ratio in one industry might be viewed as less than impressive in a different industry.

Our explanation of financial ratios and financial statement analysis is organized as follows:

Balance Sheet
General discussion
Common-size balance sheet
Financial ratios based on the balance sheet
Income Statement
General discussion
Common-size income statement
Financial ratios based on the income statement
Statement of Cash Flows
Note: To assist you in understanding financial ratios, we developed business forms for computing 24 popular financial ratios. They are included in AccountingCoach PRO.

New! We just released our 29-page Managerial & Cost Accounting Insights. This PDF document is designed to deepen your understanding of topics such as product costing, overhead cost allocations, estimating cost behavior, costs for decision making, and more. It is only available when you join AccountingCoach PRO.

General Discussion of Balance Sheet

The balance sheet reports a company's assets, liabilities, and stockholders' equity as of a specific date, such as December 31, 2015, March 31, 2015, etc.

The accountants' cost principle and the monetary unit assumption will limit the assets reported on the balance sheet. Assets will be reported

(1) only if they were acquired in a transaction, and
(2) generally at an amount that is not greater than the asset's cost at the time of the transaction.

This means that a company's creative and effective management team will not be listed as an asset. Similarly, a company's outstanding reputation, its unique product lines, and brand names developed within the company will not be reported on the balance sheet. As you may surmise, these items are often the most valuable of all the things owned by the company. (Brand names purchased from another company will be recorded in the company's accounting records at their cost.)

The accountants' matching principle will result in assets such as buildings, equipment, furnishings, fixtures, vehicles, etc. being reported at amounts less than cost. The reason is these assets are depreciated. Depreciation reduces an asset's book value each year and the amount of the reduction is reported as Depreciation Expense on the income statement.

While depreciation is reducing the book value of certain assets over their useful lives, the current value (or fair market value) of these assets may actually be increasing. (It is also possible that the current value of some assets—such as computers—may be decreasing faster than the book value.)

Current assets such as Cash, Accounts Receivable, Inventory, Supplies, Prepaid Insurance, etc. usually have current values that are close to the amounts reported on the balance sheet.

Current liabilities such as Notes Payable (due within one year), Accounts Payable, Wages Payable, Interest Payable, Unearned Revenues, etc. are also likely to have current values that are close to the amounts reported on the balance sheet.

Long-term liabilities such as Notes Payable (not due within one year) or Bonds Payable (not maturing within one year) will often have current values that differ from the amounts reported on the balance sheet.

Stockholders' equity is the book value of the company. It is the difference between the reported amount of assets and the reported amount of liabilities. For the reasons mentioned above, the reported amount of stockholders' equity will therefore be different from the current or market value of the company.

By definition the current assets and current liabilities are "turning over" at least once per year. As a result, the reported amounts are likely to be similar to their current value. The long-term assets and long-term liabilities are not "turning over" often. Therefore, the amounts reported for long-term assets and long-term liabilities will likely be different from the current value of those items.

The remainder of our explanation of financial ratios and financial statement analysis will use information from the following balance sheet:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำอัตราส่วนทางการเงินเมื่อคำนวณอัตราส่วนทางการเงิน และ เมื่อทำการวิเคราะห์งบการเงินอื่น ๆ เสมอมาได้ว่า งบการเงินสะท้อนถึงหลักการบัญชี ซึ่งหมายความว่า สินทรัพย์โดยทั่วไปไม่มีรายงานที่ค่าปัจจุบันของพวกเขา มันยังมีแนวโน้มว่า หลายแบรนด์และสินค้าเฉพาะจะไม่รวมอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่รายงานในงบดุล แม้ว่าพวกเขาอาจจะดีที่สุดของรายการทั้งหมดที่เป็นเจ้าของบริษัทตัวอย่างเหล่านี้คือ สัญญาณว่า อัตราส่วนทางการเงินและวิเคราะห์งบการเงินมีข้อจำกัด เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะรู้ว่า ความประทับใจทางการเงินในอุตสาหกรรมหนึ่งอาจจะดูที่น้อยกว่าในอุตสาหกรรมแตกต่างกันอธิบายวิเคราะห์งบการเงินและอัตราส่วนทางการถูกจัดเป็นดังนี้:งบดุลการสนทนาทั่วไปงบดุลขนาดทั่วไปอัตราส่วนทางการเงินตามงบดุลงบกำไรขาดทุนการสนทนาทั่วไปงบกำไรขาดทุนขนาดทั่วไปอัตราส่วนทางการเงินตามงบกำไรขาดทุนงบกระแสเงินสดหมายเหตุ: เพื่อช่วยในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราส่วนทางการเงิน เราพัฒนาแบบฟอร์มทางธุรกิจสำหรับการคำนวณอัตราส่วนทางการเงินยอดนิยม 24 รวมอยู่ใน AccountingCoach PROใหม่! เราเพิ่งเปิดตัวเราหน้า 29 Managerial และข้อมูลเชิงลึกในการลงบัญชีต้นทุน เอกสารนี้ถูกออกแบบมาอย่างลึกซึ้งความเข้าใจของหัวข้อต่าง ๆ เช่นผลิตภัณฑ์คำนวณต้นทุน ค่าใช้จ่ายปันส่วนต้นทุน ประเมินพฤติกรรมต้นทุน ต้นทุนสำหรับการตัดสินใจ และอื่น ๆ มันมีเท่านั้นเมื่อคุณเข้าร่วม AccountingCoach PROการสนทนาทั่วไปของงบดุลงบดุลรายงานของบริษัทสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นของวันเฉพาะเจาะจง เช่น 31 ธันวาคม 2015, 31 มีนาคม 2015 ฯลฯต้นทุนของบัญชีหลัก และสมมติฐานทางการเงินหน่วยจะจำกัดสินทรัพย์ที่รายงานในงบดุล จะรายงานสินทรัพย์(1) เฉพาะในกรณีที่สินทรัพย์ในธุรกรรม และ(2) โดยทั่วไปในจำนวนที่ไม่เกินกว่าต้นทุนของสินทรัพย์ในเวลาของธุรกรรมซึ่งหมายความ ว่า ทีมผู้บริหารสร้างสรรค์ และมีประสิทธิภาพของบริษัทจะไม่ถูกแสดงเป็นสินทรัพย์ ในทำนองเดียวกัน ชื่อเสียงโดดเด่นของบริษัท สินค้าเฉพาะ และแบรนด์ที่พัฒนาภายในบริษัทจะไม่มีรายงานในงบดุล ตามที่คุณอาจคาดการณ์ รายการเหล่านี้มักมีคุณค่าทุกสิ่งที่เป็นของบริษัท (แบรนด์ที่ซื้อจากบริษัทอื่นจะถูกบันทึกในบันทึกทางบัญชีของบริษัทที่ทุน)หลักการจับคู่ของนักบัญชีจะส่งผลให้สินทรัพย์เช่นอาคาร อุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่ง ยานพาหนะ ฯลฯ การรายงานที่ยอดเงินน้อยกว่าต้นทุน เหตุผลคือ สินทรัพย์เหล่านี้ ลดค่าเสื่อมราคามูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์แต่ละปี และจำนวนการลดเป็นรายงานเป็นค่าเสื่อมราคาค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนในขณะที่ค่าเสื่อมราคาคือการลดมูลค่าของสินทรัพย์บางช่วงชีวิตที่มีประโยชน์ มูลค่าปัจจุบัน (หรือมูลค่าตลาดยุติธรรม) ของสินทรัพย์เหล่านี้อาจจริงจะเพิ่มขึ้น (เป็นไปได้ที่มูลค่าปัจจุบันของสินทรัพย์บาง — เช่นคอมพิวเตอร์ — อาจลดลงได้เร็วกว่ามูลค่าได้)สินทรัพย์หมุนเวียนเช่นเงินสด ลูกหนี้ สินค้าคงคลัง อุปกรณ์ เงินประกัน ฯลฯ มักจะมีค่าปัจจุบันที่ใกล้เคียงยอดเงินในรายงานในงบดุลหนี้สินหมุนเวียนเช่นเจ้าหนี้ตั๋วเงิน (ภายในหนึ่งปี), บัญชีเจ้าหนี้ เจ้า หนี้ค่าจ้าง ดอกเบี้ยจ่าย รายได้ราย ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มจะมีค่าปัจจุบันที่ใกล้ยอดเงินในรายงานในงบดุลหนี้สินระยะยาวเช่นพันธบัตรหนี้ (ไม่สุกภายในหนึ่งปี) หรือบันทึกเจ้าหนี้ (ไม่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี) มักจะมีค่าปัจจุบันที่แตกต่างจากยอดเงินในรายงานในงบดุลส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นมูลค่าตามบัญชีของบริษัท มันเป็นความแตกต่างระหว่างรายงานยอดสินทรัพย์และหนี้สินจำนวนรายงาน เหตุผลดังกล่าวข้างต้น จำนวนหุ้นของผู้ถือหุ้นรายงานดังนั้นจะแตกต่างจากปัจจุบันหรือมูลค่าตลาดของบริษัทโดยความหมาย สินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียนจะ "เปลี่ยนผ่าน" อย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปี เป็นผล ยอดที่รายงานมีแนวโน้มที่จะคล้ายกับค่าปัจจุบันของพวกเขา สินทรัพย์ระยะยาวและหนี้สินระยะยาวจะไม่ "เปลี่ยนผ่าน" มักจะ ดังนั้น รายงานยอดเงินสำหรับสินทรัพย์ระยะยาว และหนี้สินระยะยาวอาจจะแตกต่างจากมูลค่าของสินค้าส่วนที่เหลือของอธิบายอัตราส่วนทางการเงินและวิเคราะห์งบการเงินจะใช้ข้อมูลจากงบดุลต่อไปนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอัตราส่วนทางการเงิน

เมื่อการคำนวณอัตราส่วนทางการเงินและเมื่อทำการวิเคราะห์งบการเงินอื่น ๆ มักจะเก็บไว้ในใจว่างบการเงินดังสะท้อนให้เห็นถึงหลักการบัญชีที่กิจการ ซึ่งหมายความว่าสินทรัพย์ที่มักจะไม่ได้รายงานในมูลค่าปัจจุบันของพวกเขา นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่หลายแบรนด์และสายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำกันจะไม่ถูกรวมอยู่ในหมู่สินทรัพย์ที่มีการรายงานในงบดุลถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะมีคุณค่ามากที่สุดของรายการทั้งหมดที่เป็นเจ้าของโดย บริษัท .

ตัวอย่างเหล่านี้เป็นสัญญาณว่าอัตราส่วนทางการเงินและ การวิเคราะห์งบการเงินมีข้อ จำกัด ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักว่าอัตราส่วนทางการเงินที่น่าประทับใจในอุตสาหกรรมหนึ่งอาจจะถูกมองว่าเป็นน้อยกว่าที่น่าประทับใจในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน.

คำอธิบายของเราอัตราส่วนทางการเงินและการวิเคราะห์งบการเงินมีการจัดระเบียบดังนี้

งบดุล
อภิปรายทั่วไป
สมดุลทั่วไปขนาดแผ่น
การเงิน อัตราส่วนขึ้นอยู่กับที่ในงบดุล
งบกำไรขาดทุน
อภิปรายทั่วไป
ทั่วไปขนาดงบกำไรขาดทุน
อัตราส่วนทางการเงินขึ้นอยู่กับงบกำไรขาดทุน
งบกระแสเงินสด
หมายเหตุ: ในการช่วยคุณในการทำความเข้าใจอัตราส่วนทางการเงินที่เราได้พัฒนารูปแบบธุรกิจสำหรับการคำนวณ 24 อัตราส่วนทางการเงินที่ได้รับความนิยม พวกเขาจะรวมอยู่ใน AccountingCoach PRO.

ใหม่! เราเพียงแค่เปิดตัว 29 หน้าข้อมูลเชิงลึกของการบริหารจัดการและการบัญชีต้นทุนของเรา เอกสาร PDF นี้ถูกออกแบบมาเพื่อความเข้าใจของคุณในหัวข้อดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ต้นทุนการจัดสรรต้นทุนค่าใช้จ่ายประมาณพฤติกรรมต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับการตัดสินใจและอื่น ๆ มันจะใช้ได้เฉพาะเมื่อคุณเข้าร่วม AccountingCoach PRO.

สนทนาทั่วไปงบดุล

งบดุลรายงานสินทรัพย์ของ บริษัท หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่เฉพาะเจาะจงเช่น 31 ธันวาคม 2015, 31 มีนาคม 2015 เป็นต้น

หลักการบัญชีค่าใช้จ่ายและสมมติฐานหน่วยเงินตราจะ จำกัด สินทรัพย์ที่มีการรายงานในงบดุล สินทรัพย์จะมีการรายงาน

(1) แต่ถ้าพวกเขาได้รับมาในการทำธุรกรรมและ
(2) โดยทั่วไปเป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายของสินทรัพย์ในช่วงเวลาของการทำธุรกรรมด้วย.

ซึ่งหมายความว่าทีมผู้บริหารที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ บริษัท ฯ จะ ไม่ได้รับการจดทะเบียนเป็นสินทรัพย์ ในทำนองเดียวกันชื่อเสียงของ บริษัท ที่โดดเด่นสายผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์และชื่อแบรนด์พัฒนาภายใน บริษัท จะไม่ได้รับการรายงานในงบดุล ขณะที่คุณอาจคาดการณ์รายการเหล่านี้มักจะมีค่ามากที่สุดของทุกสิ่งที่เป็นเจ้าของโดย บริษัท (ชื่อยี่ห้อที่ซื้อมาจาก บริษัท อื่นจะได้รับการบันทึกไว้ในการบันทึกบัญชีของ บริษัท ที่ค่าใช้จ่ายของพวกเขา.)

หลักการจับคู่บัญชี 'จะส่งผลให้สินทรัพย์เช่นอาคารอุปกรณ์ตกแต่ง, ติดตั้งยานพาหนะและอื่น ๆ มีการรายงานในปริมาณที่น้อยกว่าค่าใช้จ่าย . เหตุผลก็คือสินทรัพย์เหล่านี้จะคิดค่าเสื่อมราคา ค่าเสื่อมราคาลดมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์แต่ละปีและจำนวนเงินที่ลดลงมีรายงานเป็นค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาในงบกำไรขาดทุน.

ในขณะที่คิดค่าเสื่อมราคาลดมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์บางอายุการใช้งานของพวกเขามูลค่าปัจจุบัน (หรือมูลค่าตลาดยุติธรรม) ของเหล่านี้ สินทรัพย์จริงอาจจะเพิ่มขึ้น (นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่ามูลค่าปัจจุบันของสินทรัพย์บางส่วนเช่นคอมพิวเตอร์อาจจะลดลงได้เร็วขึ้นกว่ามูลค่าตามบัญชี.)

สินทรัพย์หมุนเวียนเช่นเงินสด, ลูกหนี้, สินค้าคงคลัง, อุปกรณ์, ประกันเติมเงิน ฯลฯ มักจะมีค่าในปัจจุบันว่า ใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่มีการรายงานในงบดุล.

หนี้สินหมุนเวียนเช่นหมายเหตุเจ้าหนี้ (ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี) เจ้าหนี้การค้าเจ้าหนี้ค่าจ้างชําระดอกเบี้ยรายได้รอตัดบัญชีและอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีค่าในปัจจุบันที่มีความใกล้เคียงกับ จำนวนเงินที่แสดงในงบดุล.

หนี้สินระยะยาวเช่นหมายเหตุเจ้าหนี้ (ไม่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี) หรือพันธบัตรเจ้าหนี้ (ไม่สุกภายในหนึ่งปี) มักจะมีค่าปัจจุบันที่แตกต่างจากจำนวนเงินที่มีการรายงานในงบดุล.

ถือหุ้น ทุนเป็นมูลค่าตามบัญชีของ บริษัท มันเป็นความแตกต่างระหว่างจำนวนเงินที่รายงานของสินทรัพย์และจำนวนเงินที่รายงานของหนี้สิน ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจำนวนเงินที่รายงานของส่วนของผู้ถือหุ้นจึงจะแตกต่างจากมูลค่าปัจจุบันหรือการตลาดของ บริษัท .

ตามคำนิยามของสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียนจะ "พลิก" อย่างน้อยปีละครั้ง เป็นผลให้จำนวนที่มีแนวโน้มที่จะคล้ายกับมูลค่าปัจจุบันของพวกเขา สินทรัพย์ระยะยาวและหนี้สินระยะยาวไม่ได้ "พลิก" บ่อยครั้ง ดังนั้นจำนวนเงินที่รายงานสินทรัพย์ระยะยาวและหนี้สินระยะยาวมีแนวโน้มที่จะแตกต่างจากมูลค่าปัจจุบันของรายการเหล่านั้น.

ส่วนที่เหลือของคำอธิบายของอัตราส่วนทางการเงินและการวิเคราะห์งบการเงินจะใช้ข้อมูลจากงบดุลของเราต่อไป: