In sorting through these diverse ap

In sorting through these diverse approaches, I have found it useful to place them
into several broad categories, and, using these categories, I created a conceptual map that
I have presented in workshops and courses. This map enables us to compare apples to
oranges, so to speak. It can help answer numerous basic questions: What makes a
Waldorf school different from a progressive school? In what ways does “unschooling”
work well for some children but not as well for others? How much adult authority is
appropriate or necessary to allow children to achieve specific learning goals? With this
map, we can take the twenty or thirty different educational orientations and group them
into six basic clusters: the transmission model, freedom-based learning, social
constructivism, critical pedagogy, spiritual developmentalism, and integral or
holistic education. A particular school or learning situation might contain elements from
two or more of these groups, making it difficult for us to classify perfectly, but the map still helps us understand the issues and variables that we need to consider when we
compare and evaluate educational approaches.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการเรียงลำดับโดยใช้วิธีที่หลากหลายเหล่านี้ ฉันได้พบมันมีประโยชน์ทำให้
กว้างหลายประเภท และ การใช้งานประเภทเหล่านี้ สร้างแผนที่แนวคิดที่
ฉันได้นำเสนอในการประชุมเชิงปฏิบัติการและหลักสูตร แผนที่นี้ช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบแอปเปิ้ลไป
ส้ม เพื่อการพูด ช่วยตอบคำถามพื้นฐานมากมาย: สิ่งที่ทำให้การ
โรงเรียนวอลดอร์ฟที่แตกต่างจากโรงเรียนก้าวหน้า ในวิธีใดไม่ "unschooling"
ทำงานดี สำหรับเด็กบาง แต่ไม่ดี สำหรับคนอื่นหรือไม่ จัดเก็บจำนวนผู้ใหญ่
ที่เหมาะสม หรือจำเป็นให้เด็กเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ นี้
แผนที่ ที่เราสามารถใช้ที่ยี่สิบ หรือสามสิบต่าง ๆ ศึกษาแนว และจัดกลุ่ม
เป็น 6 คลัสเตอร์พื้นฐาน: รุ่นเกียร์ เรียนรู้อิสระ สังคม
ศิลปะเค้าโครง ศึกษาศาสตร์สำคัญ developmentalism จิตวิญญาณ และทฤษฎีบูรณาการ หรือ
การศึกษาแบบองค์รวม โรงเรียนเฉพาะหรือสถานการณ์การเรียนรู้อาจประกอบด้วยองค์ประกอบจาก
หรือมากกว่าของกลุ่มเหล่านี้ ทำให้ยากสำหรับเราที่จะจัดประเภทอย่างสมบูรณ์ แต่แผนที่ยังช่วยให้เราเข้าใจปัญหาและตัวแปรที่เราต้องพิจารณาเมื่อเรา
เปรียบเทียบ และประเมินแนวทางการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการเรียงลำดับผ่านวิธีการที่แตกต่างกันเหล่านี้ฉันได้พบมันมีประโยชน์ที่จะวางไว้
เป็นหมวดหมู่ในวงกว้างหลายและใช้ประเภทเหล่านี้ผมสร้างแผนที่ความคิดที่
ผมได้นำเสนอในการประชุมเชิงปฏิบัติการและหลักสูตร แผนที่นี้ช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบแอปเปิ้ล
ส้มจึงจะพูด ที่จะสามารถช่วยตอบคำถามพื้นฐานจำนวนมาก: สิ่งที่ทำให้
โรงเรียนวอลดอร์ที่แตกต่างจากโรงเรียนโปรเกรสซีฟ ในสิ่งที่วิธีไม่ "unschooling"
ทำงานได้ดีสำหรับเด็กบางคน แต่ไม่ได้เป็นอย่างดีสำหรับคนอื่น วิธีผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจมากเป็น
ที่เหมาะสมหรือจำเป็นที่จะต้องให้เด็กเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ที่เฉพาะเจาะจง กับ
แผนที่เราสามารถใช้เวลายี่สิบหรือสามสิบหมุนการศึกษาที่แตกต่างกันและพวกเขากลุ่ม
ออกเป็นหกกลุ่มพื้นฐานรูปแบบการส่งผ่านการเรียนรู้เสรีภาพตามสังคม
constructivism, สอนที่สำคัญ developmentalism จิตวิญญาณและหนึ่งหรือ
การศึกษาแบบองค์รวม โรงเรียนหรือการเรียนรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ที่อาจมีองค์ประกอบจาก
สองคนหรือมากกว่าของกลุ่มเหล่านี้ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะจัดอย่างสมบูรณ์ แต่แผนที่ยังคงช่วยให้เราเข้าใจปัญหาและตัวแปรที่เราจำเป็นที่จะต้องพิจารณาเมื่อเรา
เปรียบเทียบและประเมินวิธีการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการเรียงลำดับผ่านวิธีการที่หลากหลายเหล่านี้ ฉันได้พบว่ามีประโยชน์ที่จะวางไว้
เป็นหมวดหมู่ในวงกว้างหลาย และ การใช้ประเภทเหล่านี้ , ฉันสร้างแผนที่แนวคิดที่นำเสนอในการประชุมเชิงปฏิบัติการและ
ฉันมีหลักสูตร แผนที่นี้จะช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบแอปเปิ้ลกับส้ม
เพื่อที่จะพูด ช่วยตอบหลายคำถามพื้นฐาน : สิ่งที่ทำให้
โรงเรียนวอลดอร์ฟที่แตกต่างจากโรงเรียนก้าวหน้ายังไงก็ " unschooling "
ทำงานได้ดีสำหรับเด็กบางคน แต่ไม่ดีสำหรับคนอื่น ๆ ? อำนาจของผู้ใหญ่เท่าไหร่
เหมาะสมหรือจำเป็นเพื่อให้เด็กเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ที่เฉพาะเจาะจง กับแผนที่นี้
, เราสามารถใช้ยี่สิบหรือสามสิบทิศทางการศึกษาที่แตกต่างกันและกลุ่มพวกเขา
ออกเป็นหกกลุ่มพื้นฐาน : รูปแบบการส่งเรียนอิสระตามแนวคอนสตสังคม
,ที่สำคัญการสอนทางจิตวิญญาณ developmentalism และบูรณาการหรือ
การศึกษาแบบองค์รวม โรงเรียนโดยเฉพาะหรือสถานการณ์การเรียนรู้อาจประกอบด้วยองค์ประกอบจาก
2 หรือมากกว่าของกลุ่มเหล่านี้ ทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะแยกแยะอย่างสมบูรณ์ แต่แผนที่ยังช่วยให้เราเข้าใจปัญหาและตัวแปรที่เราต้องพิจารณาเมื่อเรา
เปรียบเทียบและประเมินแนวทางการศึกษา