For the bulk of human history, peop

For the bulk of human history, people used renewable energy.
They burned plant material, usually wood to create fires for light, warmth, and cooking.
Following the birth of agriculture 10,000 years ago, animals and human muscle power was used to plow fields, carry burdens, and pull up water from wells.
Only much later, with the Industrial Revolution, people began to exploit non-renewable fossil fuels, such coal, and later, oil and gas.
These concentrated energy sources made the creation of modern civilization possible, and today we have become energy addicts consuming more and more as the world develops.
However, this cannot continue.
People may debate how much oil coal is left under the ground or sea, but one thing is certain: the supply of fossil fuels is finite.
We may not know when this energy sources will run out, but one day it will, and the impact is likely to be terrible.
We need a transition for in the way we obtain and use energy.
But how are we to do it? Some suggest we should turn to nuclear energy as a virtually inexhaustible energy source.
They claim that nuclear energy is clean and produces no greenhouse gases.
This might be true, but the risk of an accident along the lines of Chernobyl and Fukushima or the spread of nuclear materials to a terrorist organization or state make our Reliance on nuclear power unacceptable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับจำนวนมากของประวัติศาสตร์มนุษย์ คนที่ใช้พลังงานทดแทนพวกเขาเผาวัสดุจากพืช มักจะไม้สร้างไฟไฟ ความอบอุ่น และทำอาหารเกิดการเกษตร 10,000 ปีที่ผ่านมา สัตว์ และพลังกล้ามเนื้อมนุษย์ใช้ไถเขต ดำเนินภาระ และดึงน้ำจากบ่อเดียวต่อมา การปฏิวัติอุตสาหกรรม ท่านก็เริ่มที่จะใช้ประโยชน์หมุนเวียนเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่นถ่าน หิน และหลัง น้ำมัน และก๊าซเหล่านี้เข้มข้นแหล่งพลังงานได้สร้างอารยธรรมทันสมัย และวันนี้เราได้กลายเป็นติดยาเสพติดของพลังงานที่บริโภคขึ้นและพัฒนาโลกอย่างไรก็ตาม นี้ไม่สามารถดำเนินการท่านอาจอภิปรายเหลือเท่าใดถ่านหินน้ำมันใต้พื้นดินหรือทะเล แต่สิ่งหนึ่งคือนอน: มีการจัดหาเชื้อเพลิงฟอสซิลเราไม่อาจรู้ว่าเมื่อแหล่งพลังงานนี้จะทำ แต่วันหนึ่งมันจะ และผลกระทบจะเป็นน่ากลัวเราต้องการเปลี่ยนแปลงสำหรับในทางเราขอรับ และใช้พลังงานแต่เราจะทำได้หรือไม่ บางคนแนะนำเราควรเปิดให้พลังงานนิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงานแหล่งแทบพวกเขาเรียกร้องพลังงานนิวเคลียร์ที่สะอาด และก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกไม่นี้อาจเป็นจริง แต่ความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุตามเส้นของฟ้า และฟุกุชิมะหรือการแพร่กระจายของวัสดุนิวเคลียร์ในการก่อการร้ายองค์กรหรือรัฐให้เราพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ไม่สามารถยอมรับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับกลุ่มของประวัติศาสตร์ของมนุษย์คนใช้พลังงานทดแทน.
พวกเขาเผาวัสดุจากพืชมักจะไม้เพื่อสร้างไฟแสง, ความอบอุ่น, การทำอาหารและ.
หลังจากให้กำเนิดการเกษตร 10,000 ปีที่ผ่านมา, สัตว์และพลังงานของกล้ามเนื้อของมนุษย์ถูกใช้ในการไถนา, แบกและดึงน้ำจากบ่อ.
มากเท่านั้นต่อมามีการปฏิวัติอุตสาหกรรมคนเริ่มที่จะใช้ประโยชน์จากเชื้อเพลิงที่ไม่หมุนเวียนฟอสซิลเช่นถ่านหินและต่อมาน้ำมันและก๊าซ.
เหล่านี้แหล่งพลังงานเข้มข้นทำให้การสร้างอารยธรรมสมัยใหม่ที่เป็นไปได้ และในวันนี้เราได้กลายเป็นติดยาเสพติดพลังงานการบริโภคมากขึ้นในขณะที่โลกพัฒนา.
แต่นี้ไม่สามารถดำเนินการต่อ.
คนอาจจะอภิปรายถึงวิธีถ่านหินน้ำมันที่เหลืออยู่ภายใต้พื้นดินหรือน้ำทะเล แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ: อุปทานของเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็น จำกัด .
เราอาจไม่ทราบว่าเมื่อแหล่งพลังงานนี้จะวิ่งออกไป แต่วันหนึ่งมันจะและผลกระทบมีแนวโน้มที่จะแย่.
เราจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่เราได้รับและการใช้พลังงาน.
แต่วิธีการที่เราจะทำมัน ? บางคนคิดว่าเราควรจะหันไปใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงานที่ไม่รู้จักเหนื่อยแทบ.
พวกเขาอ้างว่าพลังงานนิวเคลียร์มีความสะอาดและผลิตไม่มีก๊าซเรือนกระจก.
นี้อาจจะเป็นจริง แต่มีความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุตามสายของเชอร์โนบิลและฟุกุชิมะหรือการแพร่กระจายของที่ วัสดุนิวเคลียร์เพื่อเป็นองค์กรก่อการร้ายหรือรัฐทำให้การพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ที่ยอมรับไม่ได้