The design, architecture and decora

The design, architecture and decoration of a Khmer temple were modeled according to
a series of magical and religious beliefs. Devotees moved from the mundane world to a
spiritual one by walking along one of the four axes, each of which has a different
astrological value. East, the direction of the rising sun, was auspicious, representing life
and the sexual prowess of the male. Most of the Khmer temples were built with the
entrance to the east, as this was the formal approach to most Hindu shrines. In general,
however, west is considered inauspicious and represents death, impurity and the setting
sun. North is also auspicious, while South has a neutral value. The Khmers adhered to
the Hindu belief that a temple must be built correctly according to a mathematical system
in order for it to function in harmony with the universe. [11] The sanctuary or the abode
of gods was built in the center of the city to imitate Mount Meru which the Khmers
believed to be the center of the universe. The town layout, a square-shape,
corresponded with the Mandala concept, arising from Hindu beliefs, which indicated the
boundary of the universe. [12]

All temples in the early period of the establishment of Ayutthaya were clearly Khmer
styled, consisting primary of laterite structures (instead of sandstone) and bricks,
enhanced with stucco. Wat Maha That consisted basically of a large central prang
surrounded by four subsidiary prangs at the four inter-cardinal points, standing on a
raised square platform. The quincunx was surrounded by a courtyard and a roofed
gallery, lined with a row of Buddha images. Typically for the Ayutthaya period is that
often the gallery was penetrated by a monastic structure, being an ordination or an
assembly hall, or even sometimes both. An exception to this was Wat Phutthai Sawan.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีจำลองการออกแบบ สถาปัตยกรรม และการตกแต่งของวัดเขมรตามชุดของความเชื่อทางศาสนา และขลัง เลือกสรรค์ย้ายจากโลกโลกีย์ที่เป็นจิตวิญญาณทีเดินไปตามแกนสี่ ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างใดอย่างหนึ่งค่าโหราศาสตร์ ตะวันออก ทิศทางของอาทิตย์ เป็นมงคล แสดงชีวิตและศักดาทางเพศของชาย ส่วนใหญ่วัดเขมรถูกสร้างขึ้นด้วยการเข้าชมฝั่งตะวันออก นี้เป็นวิธีอย่างเป็นทางการมากที่สุดของชาวฮินดู ทั่วไปอย่างไรก็ตาม ตะวันตกถือว่าเป็น inauspicious และแสดงถึงตาย มลทิน และการตั้งค่าดวงอาทิตย์ เหนือเป็นมงคล ในขณะที่ใต้มีค่าเป็นกลาง Khmers การปฏิบัติตามความเชื่อศาสนาฮินดูซึ่งต้องสร้างวัดได้อย่างถูกต้องตามระบบทางคณิตศาสตร์เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับจักรวาล [11] การแซงหรือพักอาศัยของพระเจ้าถูกสร้างขึ้นในศูนย์กลางของเมืองจำลองเขาพระสุเมรุซึ่ง Khmersเชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เมืองโครงร่าง เป็นรูปสี่เหลี่ยมcorresponded กับมันดาลา เกิดจากความเชื่อในศาสนาฮินดู ที่ระบุในขอบเขตของจักรวาล [12]วัดทั้งหมดในระยะแรก ๆ ของการก่อตั้งกรุงศรีอยุธยาได้ชัดเจนเขมรสไตล์ การประกอบหลักของโครงสร้างศิลาแลง (แทนหินทราย) และอิฐปรับปรุง ด้วยปูนปั้น พระปรางค์วัดมหาธาตุที่ประกอบด้วยศูนย์กลางขนาดใหญ่โดยทั่วไปล้อมรอบ ด้วยสี่บริษัทศรีอยุธยาจุดสี่ระหว่างเชิง ยืนอยู่บนการraised square platform. The quincunx was surrounded by a courtyard and a roofedgallery, lined with a row of Buddha images. Typically for the Ayutthaya period is thatoften the gallery was penetrated by a monastic structure, being an ordination or anassembly hall, or even sometimes both. An exception to this was Wat Phutthai Sawan.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การออกแบบสถาปัตยกรรมและการตกแต่งของวัดเขมรถูกจำลองตามชุดของความเชื่อที่มีมนต์ขลังและศาสนา วิหคย้ายจากโลกมนุษย์ไปยังจิตวิญญาณหนึ่งโดยเดินไปตามหนึ่งในสี่แกนซึ่งแต่ละที่แตกต่างกันมีค่าทางโหราศาสตร์ ตะวันออกทิศทางของดวงอาทิตย์ขึ้นเป็นมงคลที่เป็นตัวแทนของชีวิตและความกล้าหาญทางเพศของผู้ชาย ส่วนใหญ่ของเขมรวัดถูกสร้างขึ้นด้วยทางเข้าทางทิศตะวันออกเช่นนี้เป็นวิธีการอย่างเป็นทางการเพื่อศาลเจ้าในศาสนาฮินดูมากที่สุด โดยทั่วไปแต่ทางทิศตะวันตกถือว่าเป็นมงคลและแสดงให้เห็นถึงความตายบริสุทธิ์และการตั้งค่าดวงอาทิตย์ นอร์ทยังเป็นมงคลในขณะที่ภาคใต้มีค่าเป็นกลาง เขมรยึดติดกับความเชื่อในศาสนาฮินดูที่วัดจะต้องสร้างขึ้นอย่างถูกต้องตามระบบทางคณิตศาสตร์เพื่อให้มันทำงานให้สอดคล้องกับจักรวาล [11] วิหารหรือพำนักของพระเจ้าถูกสร้างขึ้นในใจกลางเมืองที่จะเลียนแบบเขาพระสุเมรุซึ่งเขมรที่เชื่อว่าจะเป็นศูนย์กลางของจักรวาล รูปแบบเมืองที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมตรงกับแนวคิดจักรวาลที่เกิดจากความเชื่อในศาสนาฮินดูซึ่งระบุขอบเขตของจักรวาล [12] วัดทั้งหมดในช่วงเริ่มต้นของการจัดตั้งอยุธยาได้อย่างชัดเจนเขมรสไตล์ประกอบด้วยโครงสร้างหลักของศิลาแลง (แทนหินทราย) และอิฐเพิ่มขึ้นด้วยปูนปั้น วัดมหาธาตุประกอบด้วยพื้นของพระปรางค์ขนาดใหญ่กลางล้อมรอบด้วยสี่องค์มี บริษัท ย่อยที่สี่จุดระหว่างพระคาร์ดินัลยืนอยู่บนแพลตฟอร์มยกตาราง quincunx ถูกล้อมรอบด้วยสวนขนาดใหญ่และหลังคาแกลเลอรี่ที่เรียงรายไปด้วยแถวของภาพพระพุทธรูป โดยทั่วไปสำหรับสมัยอยุธยาก็คือมักจะแกลเลอรี่ที่ถูกเจาะโดยโครงสร้างวัดเป็นอุปสมบทหรือห้องประชุมหรือแม้กระทั่งบางครั้งทั้งสอง มีข้อยกเว้นนี้เป็นวัดพุทธไทยนครสวรรค์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การออกแบบสถาปัตยกรรมและการตกแต่งของเขมรวัด เป็นแบบตาม
ชุดของเวทมนตร์และศาสนาความเชื่อ ผู้ที่ย้ายจากโลกโลกีย์ไป
หนึ่งวิญญาณเดินตามหนึ่งใน 4 แกน ซึ่งแต่ละคนมีแตกต่างกัน
7 ค่า ตะวันออก , ทิศทางของดวงอาทิตย์ เป็นมงคลของชีวิต
และความกล้าหาญทางเพศของชายที่สุดของเขมรวัดถูกสร้างขึ้นด้วย
ทางเข้าทิศตะวันออก นี้เป็นวิธีการอย่างเป็นทางการส่วนใหญ่ชาวฮินดู ศาลเจ้า ในทั่วไป ,
แต่ตะวันตกถือว่าเป็นอัปมงคล และแสดงถึงความตาย ความสกปรกและ
ยามอาทิตย์อัสดง เหนือยังเป็นมงคล ในขณะที่ภาคใต้มีมูลค่าเป็นกลาง ศึกษาปฏิบัติตาม
ชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นวัดที่ต้องสร้างขึ้นอย่างถูกต้องตาม
ระบบคณิตศาสตร์เพื่อให้ฟังก์ชันในความกลมกลืนกับจักรวาล [ 11 ] วิหารหรือ abode
ของพระเจ้าถูกสร้างขึ้นในกลางของเมืองที่จะเลียนแบบเขาพระสุเมรุซึ่งเขมร
เชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เมืองเค้าโครงรูปร่างสี่เหลี่ยม สอดคล้องกับแนวคิด
Mandala ,