Civil conflicts within oil-rich sta

Civil conflicts within oil-rich states tend to last longer but are less likely to be mediated and end in a peace agreement. This implies that oil-funded conflict is less likely to end through a mediated settlement, despite offering a greater opportunity for peaceful resolution. This article builds on this puzzle, focusing on the following research question: to what extent does the presence of non-lootable natural resources impact on the onset and outcome of civil war mediation? I argue that oil wealth raises the relative capacity of the incumbent, making it more challenging for insurgents to force mediation and gain the guarantees against defection that are needed to resolve the problem of credible commitment. This theory is tested on 319 civil conflict episodes between 1946 and 2004. The results support the argument that non-lootable natural resources exert a strong negative effect on both the onset and outcome of mediation. The analysis also reveals that the negative effect of petroleum wealth increases relative to a state’s hydrocarbon revenue (per capita). This is an important contribution to conflict research focused on natural resources that has previously overlooked the relationship between resource wealth and civil conflict management efforts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความขัดแย้งของพลเรือนในอเมริกาอุดมไปด้วยน้ำมันมักจะ นาน แต่มีแนวโน้มจะเป็น mediated และสิ้นสุดในข้อตกลงสันติภาพ หมายความว่าข้อขัดแย้งได้รับการสนับสนุนน้ำมันน้อยน่าจะจบผ่านการชำระเงิน mediated แม้มีการนำเสนอโอกาสมากขึ้นสำหรับการแก้ปัญหาที่ดี บทความนี้สร้างบนนี้ปริศนา เน้นคำถามวิจัยดังต่อไปนี้: การใดไม่แสดงผลกระทบของทรัพยากรธรรมชาติไม่ใช่ lootable เริ่มมีอาการและผลของสงครามกลางเมืองกาชาด โต้แย้งว่า น้ำมันอีกมากมายให้เพิ่มกำลังการผลิตสัมพันธ์ของ incumbent ทำให้ท้าทายมากสำหรับพวกก่อการร้ายเพื่อบังคับให้กาชาด และได้รับการค้ำประกันกับ defection ที่จำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาของความมุ่งมั่นน่าเชื่อถือ ทฤษฎีนี้มีทดสอบบนความขัดแย้งของพลเรือนจำนวนตอนที่ 319 ระหว่าง 1946 และ 2004 ผลสนับสนุนอาร์กิวเมนต์ที่ไม่ lootable ธรรมชาติแรงผลกระทบแรงเริ่มมีอาการและผลลัพธ์ของกาชาด การวิเคราะห์ยังพบว่า ผลกระทบของทรัพย์สินปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับรายได้ของรัฐเป็นไฮโดรคาร์บอน (capita ต่อ) มีส่วนร่วมวิจัยในทรัพยากรธรรมชาติที่มีก่อนหน้านี้มองข้ามความสัมพันธ์ระหว่างทรัพยากรให้เลือกมากมายและความพยายามจัดการความขัดแย้งของพลเรือน ขัดอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความขัดแย้งภายในรัฐโยธาอุดมไปด้วยน้ำมันมีแนวโน้มที่จะนาน แต่มีโอกาสน้อยที่จะได้รับการไกล่เกลี่ยและสิ้นสุดในข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งหมายความว่ามีความขัดแย้งน้ำมันได้รับการสนับสนุนเป็นโอกาสน้อยที่จะยุติการตั้งถิ่นฐานผ่านสื่อกลางแม้จะนำเสนอโอกาสมากขึ้นสำหรับการแก้ปัญหาอย่างสันติ บทความนี้สร้างขึ้นบนปริศนานี้มุ่งเน้นไปที่คำถามการวิจัยต่อไปนี้: สิ่งที่ขอบเขตไม่ปรากฏตัวของการไม่ lootable ทรัพยากรธรรมชาติผลกระทบต่อการโจมตีและผลของการไกล่เกลี่ยสงครามกลางเมือง? ผมยืนยันว่าความมั่งคั่งของน้ำมันจะเพิ่มกำลังการผลิตของญาติของผู้ดำรงตำแหน่งที่ทำให้มันมีความท้าทายมากขึ้นสำหรับการก่อความไม่สงบที่จะบังคับให้ไกล่เกลี่ยและได้รับการค้ำประกันกับเอาใจที่มีความจำเป็นในการแก้ปัญหาของความมุ่งมั่นที่น่าเชื่อถือ ทฤษฎีนี้มีการทดสอบใน 319 ตอนความขัดแย้งระหว่างปี 1946 และปี 2004 ผลที่สนับสนุนข้อโต้แย้งที่ว่าทรัพยากรที่ไม่ lootable ธรรมชาติออกแรงผลกระทบอย่างมากต่อทั้งสองเริ่มมีอาการและผลของการไกล่เกลี่ย การวิเคราะห์ยังแสดงให้เห็นว่าผลกระทบเชิงลบของความมั่งคั่งปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้ไฮโดรคาร์บอนของรัฐ (ต่อหัว) นี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะมีส่วนร่วมในการวิจัยมุ่งเน้นไปที่ความขัดแย้งทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีการมองข้ามก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างความมั่งคั่งของทรัพยากรและความพยายามในการจัดการความขัดแย้งทางแพ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความขัดแย้งภายในรัฐมักจะแพ่งริชนานแต่มีโอกาสน้อยที่จะเป็นคนกลาง และสิ้นสุดในข้อตกลงสันติภาพ นอกจากนี้ น้ำมันจากความขัดแย้งมีโอกาสน้อยที่จะสิ้นสุดผ่านคนกลาง ที่แม้จะมีการเสนอโอกาสมากขึ้นสำหรับความสงบ บทความนี้สร้างปริศนานี้ เน้นการวิจัย คำถามต่อไปนี้ :สิ่งที่ขอบเขตมันมีไม่ lootable ทรัพยากรธรรมชาติผลกระทบต่อการโจมตีและผลของสงครามนี้ ผมยืนยันว่า ความร่ำรวยน้ำมันเพิ่มความจุของญาติผู้ทำให้มันท้าทายมากขึ้นเพื่อก่อความไม่สงบ เพื่อบังคับให้ไกล่เกลี่ย และได้รับการการันตีจากข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไขปัญหาความน่าเชื่อถือทฤษฎีนี้ถูกทดสอบบนความขัดแย้งทางแพ่งระหว่าง 1946 และ 319 ตอนปี 2004 ผลการสนับสนุนอาร์กิวเมนต์ที่ไม่ใช่ lootable ทรัพยากรธรรมชาติออกแรงผลกระทบเชิงลบที่แข็งแกร่งทั้งในการโจมตีและผลลัพธ์ของการไกล่เกลี่ย การวิเคราะห์ยังพบว่าผลกระทบของความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นเทียบกับรายได้ปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนของรัฐ ( ต่อหัว )นี้เป็นส่วนที่สำคัญในการวิจัยความขัดแย้งเน้นทรัพยากรธรรมชาติที่เคยมองข้ามความสัมพันธ์ระหว่างความมั่งคั่งของทรัพยากรและความพยายามในการจัดการความขัดแย้งทางแพ่ง