An analysis of energy performance a

An analysis of energy performance and supply potential was performed to evaluate molasses utilization for fuel ethanol in Thailand. The Thai government recently has set up a production target of 1.925 million litres a day of sugar-based ethanol. The molasses-based ethanol (MoE) system involves three main segments: sugar cane cultivation, molasses generation, and ethanol conversion. Negative net energy value found for MoE is a consequence of not utilizing system co-products (e.g. stillage and cane trash) for energy. Taking into account only fossil fuel or petroleum inputs in the production cycle, the energy analysis provides results in favour of ethanol. A positive net energy of 5.95 MJ/L which corresponds to 39% energy gain shows that MoE is efficient as far as its potential to replace fossil fuels is concerned. Another encouraging result is that each MJ of petroleum inputs can produce 6.12 MJ of ethanol fuel. Regarding supply potential, if only the surplus molasses is utilized for ethanol, a shift of 8–10% sugar cane produce to fuel ethanol from its current use in sugar industry could be a probable solution.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิเคราะห์ประสิทธิภาพพลังงานและศักยภาพอุปทานที่ดำเนินการประเมินการใช้ประโยชน์กากน้ำตาลสำหรับเชื้อเพลิงเอทานอลในประเทศไทย รัฐบาลไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ตั้งเป้าหมายการผลิตของ 1.925 ล้านลิตรต่อวันตามน้ำตาลเอทานอล ระบบใช้กากน้ำตาลเอทานอล (หมอ) เกี่ยวข้องกับเซ็กเมนต์หลักสาม: ปลูกอ้อย กากน้ำตาลรุ่น และเอทานอลแปลง พลังงานสุทธิเป็นค่าลบค่าพบหมออยู่เวรไม่ใช้ระบบร่วมผลิตภัณฑ์ (เช่น stillage และไม้ถังขยะ) พลังงาน การบัญชีเฉพาะเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือปิโตรเลียมอินพุตในวงจรการผลิต การวิเคราะห์พลังงานแสดงผลลงเอทานอล พลังงานสุทธิบวก 5.95 MJ/L ที่ตรงกับกำไร 39% พลังงานแสดงว่า หมอมีประสิทธิภาพเป็นที่เกี่ยวข้องศักยภาพแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ผลอื่นนิมิตเป็น MJ แต่ละของปัจจัยการผลิตปิโตรเลียมสามารถผลิต MJ 6.12 เชื้อเพลิงเอทานอล เกี่ยวกับอุปทานศักยภาพ ถ้าเฉพาะส่วนเกินที่ใช้ประโยชน์สำหรับเอทานอล กะ 8 – 10% อ้อยกากน้ำตาลผลิต เชื้อเพลิงเอทานอลจากการใช้ปัจจุบันในอุตสาหกรรมน้ำตาลอาจแก้ไขปัญหาน่าเป็นการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและศักยภาพในการจัดหากำลังดำเนินการในการประเมินผลการใช้กากน้ำตาลเอทานอลน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทย รัฐบาลไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการจัดตั้งเป้าหมายการผลิต 1,925,000 ลิตรต่อวันของเอทานอลที่ใช้น้ำตาล เอทานอลที่ใช้กากน้ำตาล (โมเอะ) ระบบที่เกี่ยวข้องกับสามส่วนหลักคือการเพาะปลูกอ้อยน้ำตาลรุ่นกากน้ำตาลและเอทานอลแปลง ค่าพลังงานสุทธิติดลบพบโมเอะที่เป็นผลมาจากการไม่ได้ใช้ระบบร่วมผลิตภัณฑ์ (เช่นกากส่าและถังขยะอ้อย) สำหรับพลังงาน คำนึงถึงเพียงเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือปัจจัยการผลิตปิโตรเลียมในวงจรการผลิต, วิเคราะห์การใช้พลังงานให้ผลในความโปรดปรานของเอทานอล พลังงานสุทธิบวก 5.95 MJ / L ซึ่งสอดคล้องกับพลังงานที่ได้รับ 39% แสดงให้เห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการจะมีประสิทธิภาพเท่าที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นห่วง อีกผลให้กำลังใจคือ MJ ของปัจจัยการผลิตปิโตรเลียมแต่ละคนจะสามารถผลิต 6.12 MJ น้ำมันเชื้อเพลิงเอทานอล เกี่ยวกับการที่มีศักยภาพอุปทานถ้าเพียงกากน้ำตาลส่วนเกินที่ใช้เอทานอล, การเปลี่ยนแปลงของอ้อย 8-10% ผลิตเชื้อเพลิงเอทานอลจากการใช้งานปัจจุบันในอุตสาหกรรมน้ำตาลอาจจะเป็นทางออกที่น่าจะเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและการจัดหาที่มีการประเมินการใช้กากน้ำตาลสำหรับเชื้อเพลิงเอทานอลในประเทศไทย รัฐบาลเพิ่งมีการตั้งค่าการผลิตเป้าหมายของ 1.925 ล้านลิตรต่อวัน น้ำตาล เอทานอล ตาม ใช้กากเอทานอล ( โมเอะ ) ระบบที่เกี่ยวข้องกับสามกลุ่มหลัก : ปลูกอ้อย รุ่นกากน้ำตาลและการแปลงเอทานอลลบค่าพลังงานสุทธิพบว่าโม เป็นผลพวงของผลิตภัณฑ์ Co ไม่ใช้ระบบ ( เช่น stillage และถังขยะอ้อย ) พลังงาน ถ่ายลงในบัญชีเพียงเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์หรือปัจจัยการผลิตปิโตรเลียมในรอบการผลิต การวิเคราะห์พลังงานที่ให้ผลลัพธ์ในความโปรดปรานของเอทานอล พลังงานสุทธิบวก 595 MJ / ลิตร ซึ่งสอดคล้องกับ 39 % พลังงานได้รับแสดงให้เห็นว่าโมเอะมีประสิทธิภาพเท่าที่ศักยภาพที่จะแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เกี่ยวข้อง อื่นสนับสนุนผลที่แต่ละแบบของปัจจัยการผลิตปิโตรเลียมสามารถผลิต 6.12 MJ ของเชื้อเพลิงเอทานอล เกี่ยวกับศักยภาพอุปทาน ถ้าเกินก็ใช้กากเอทานอลกะ 8 – 10 % อ้อยผลิตเอทานอลเป็นเชื้อเพลิง จากปัจจุบันใช้ในอุตสาหกรรมน้ำตาล อาจเป็นทางออกที่น่าจะเป็นไปได้