Starting in the 1990s, a new stage

Starting in the 1990s, a new stage of marketing emerged called relationship marketing. The focus of relationship marketing is on a long-term relationship that benefits both the company and the customer.[13] The relationship is based on trust and commitment, and both companies tend to shift their operating activities to be able to work more efficiently together.[14] One of the most prominent reasons for relationship marketing comes from Kotler's idea that it costs about five times more to obtain a new customer than to maintain the relationship with an existing customer.[15]

Sales in relationship marketing should encompass the following: open communication, employee empowerment, customers and the planning process, and teamwork.[14] First, communication is essential in figuring out what the customers need and determining how the firm can satisfy those needs. With open communication, both sides can express what they are trying to do and can work out a way to make it work together. Second, employee empowerment is important so that the employees are able to satisfy customer needs. Without empowerment, they may be limited in their solutions and cannot creatively satisfy needs. Third, customers must be involved in the planning process. Customer input is invaluable, as the customer is the one who will be using the product. If the customer is not satisfied from the beginning, there is no way to gain approval after the product is incorporated. Lastly, relationship marketing must emphasize teamwork. Several people who can help solve customer problems should work together and use their talents to best serve the customers.[14]

While relationship marketing is largely held as the most recent stage of marketing, there is speculation that we are now entering into a new era of marketing called the social/mobile marketing era where companies are connected to customers 24/7.[13]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เริ่มต้นในปี 1990 ขั้นใหม่ของตลาดออกมาเรียกความสัมพันธ์ทางการตลาด จุดเน้นของการตลาดความสัมพันธ์บนความสัมพันธ์ระยะยาวที่เป็นประโยชน์ทั้งบริษัทและลูกค้าได้ [13] ความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจและความมุ่งมั่น และบริษัททั้งสองมีแนวโน้มที่จะ เปลี่ยนการทำกิจกรรมของพวกเขาเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ [14] ที่สุดสาเหตุหนึ่งในการตลาดความสัมพันธ์มาจากความคิดของ Kotler ที่ว่า ค่าใช้จ่ายประมาณห้าครั้งเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่กว่าเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบัน [15]ขายในตลาดความสัมพันธ์ควรรอบต่อไปนี้: เปิดการสื่อสาร อำนาจพนักงาน ลูกค้า และการวางแผนกระบวนการ และทำงานเป็นทีม [14] ครั้งแรก การสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็นในการหาสิ่งต้องการของลูกค้า และกำหนดว่าบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้น มีการสื่อสาร เปิดทั้งสองด้านสามารถแสดงสิ่งที่พวกเขากำลังทำ และสามารถทำงานออกแบบเพื่อให้ทำงานร่วมกัน สอง อำนาจพนักงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พนักงานสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้า โดยไม่มีอำนาจ พวกเขาอาจจำกัดในการแก้ไขปัญหา และสร้างสรรค์ไม่สามารถตอบสนองความต้องการ ที่สาม ลูกค้าต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผน ค่ามีราคาสูง เป็นลูกค้า หนึ่งคนจะใช้ผลิตภัณฑ์ ถ้าลูกค้าไม่พอใจตั้งแต่เริ่มต้น คุณจะต้องได้รับอนุมัติหลังจากรวมผลิตภัณฑ์ สุดท้าย ความสัมพันธ์ทางการตลาดต้องเน้นทำงานเป็นทีม หลายคนที่สามารถช่วยแก้ปัญหาลูกค้าควรทำงานร่วมกัน และใช้พรสวรรค์ของพวกเขาเพื่อให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุด [14]ในขณะที่ส่วนใหญ่มีจัดความสัมพันธ์ทางการตลาดเป็นระยะล่าสุดของตลาด มีการเก็งกำไรที่เรามีตอนนี้เข้ายุคใหม่ของการตลาดที่เรียกว่ายุคการตลาดสังคม/มือถือที่บริษัทได้เชื่อมต่อกับลูกค้า 24/7 [13]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เริ่มต้นในปี 1990 เป็นเวทีใหม่ของการตลาดที่เรียกว่าเกิดการตลาดเชิงสัมพันธ์ มุ่งเน้นการตลาดเชิงสัมพันธ์ที่อยู่ในความสัมพันธ์ระยะยาวที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง บริษัท และลูกค้า. [13] ความสัมพันธ์อยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจและความมุ่งมั่นและทั้งสอง บริษัท มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนการดําเนินงานของพวกเขาจะสามารถที่จะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ . [14] หนึ่งในเหตุผลที่โดดเด่นที่สุดสำหรับการตลาดสัมพันธ์มาจากความคิดที่ Kotler ที่มีค่าใช้จ่ายประมาณห้าครั้งที่จะได้รับลูกค้าใหม่มากกว่าที่จะรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่. [15] ยอดขายในตลาดเชิงสัมพันธ์ควรครอบคลุมต่อไปนี้ :. การสื่อสารเปิดเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานลูกค้าและขั้นตอนการวางแผนและการทำงานเป็นทีม [14] ครั้งแรกที่การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญในการหาสิ่งที่ลูกค้าต้องการและกำหนดวิธีการที่ บริษัท สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ด้วยการสื่อสารที่เปิดกว้างทั้งสองฝ่ายสามารถแสดงสิ่งที่พวกเขากำลังพยายามที่จะทำและสามารถทำงานออกวิธีที่จะทำให้การทำงานร่วมกัน ประการที่สองการเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พนักงานสามารถที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยไม่ต้องเพิ่มขีดความสามารถที่พวกเขาอาจถูก จำกัด ในการแก้ปัญหาของพวกเขาและสร้างสรรค์ไม่สามารถตอบสนองความต้องการ ประการที่สามลูกค้าจะต้องมีส่วนร่วมในขั้นตอนการวางแผน การป้อนข้อมูลของลูกค้าเป็นที่ทรงคุณค่าเป็นลูกค้าคือคนที่จะได้รับในการใช้ผลิตภัณฑ์ หากลูกค้าไม่พอใจจากจุดเริ่มต้นที่มีวิธีการที่จะได้รับการอนุมัติหลังจากที่ผลิตภัณฑ์เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งไม่มี สุดท้ายการตลาดเชิงสัมพันธ์ต้องเน้นการทำงานเป็นทีม หลายคนที่สามารถช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าควรจะทำงานร่วมกันและใช้ความสามารถของพวกเขาเพื่อให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุด. [14] ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางการตลาดที่จัดขึ้นส่วนใหญ่เป็นขั้นตอนล่าสุดของการตลาดมีการคาดเดาว่าตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ของการตลาดที่เรียกว่าสังคม / การตลาดมือถือยุคที่ บริษัท มีการเชื่อมต่อกับลูกค้า 24/7. [13]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เริ่มต้นในปี 1990 , เวทีใหม่ของการตลาดซึ่งเรียกว่าการตลาดความสัมพันธ์ เน้นการตลาดความสัมพันธ์ในความสัมพันธ์ระยะยาวที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งบริษัทและลูกค้า . [ 13 ] ความสัมพันธ์บนพื้นฐานของความไว้วางใจและความมุ่งมั่น และทั้งสอง บริษัท มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนกิจกรรมการดำเนินงานของตน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยกัน[ 14 ] หนึ่งในเหตุผลที่โดดเด่นที่สุดสำหรับการตลาดความสัมพันธ์ที่มาจากความคิด” นั่นมันค่าใช้จ่ายประมาณห้าครั้งเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่มากกว่าที่จะรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่ . [ 15 ]

ขายในการตลาดความสัมพันธ์ควรจะประกอบด้วยต่อไปนี้ : การเปิดการสื่อสาร พนักงาน ลูกค้า และกระบวนการ การวางแผนและการทำงานเป็นทีม [ 14 ] ก่อนการสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็นในการหาสิ่งที่ลูกค้าต้องการและกำหนดวิธีการที่ บริษัท สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้น กับการเปิดการสื่อสาร ทั้งสองฝ่ายสามารถแสดงสิ่งที่พวกเขากำลังทำอะไรและสามารถทำงานออกวิธีที่จะทำให้มันทำงานด้วยกัน ประการที่สอง การเสริมสร้างพลังอำนาจของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พนักงานสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยการเสริมสร้างพลังอำนาจพวกเขาอาจถูก จำกัด ในการแก้ไขปัญหาของตนเอง และไม่สร้างสรรค์ ตอบสนองความต้องการ ประการที่สาม ลูกค้าจะต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผน การป้อนข้อมูลลูกค้ามีประโยชน์มาก เช่น ลูกค้าจะเป็นผู้ที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ ถ้าลูกค้าไม่พอใจตั้งแต่แรก ก็ไม่มีทางที่จะได้รับการอนุมัติหลังจากผลิตภัณฑ์ที่จัดตั้งขึ้น ท้ายนี้การตลาดความสัมพันธ์ต้องเน้นการทำงานเป็นทีม หลายคนที่สามารถช่วยแก้ปัญหาลูกค้าควรจะทำงานร่วมกัน และใช้ความสามารถของพวกเขาเพื่อให้บริการลูกค้า [ 14 ]

ตอนที่ความสัมพันธ์ทางการตลาด ส่วนใหญ่เป็นบริษัทล่าสุดที่เวทีของการตลาดมีการคาดเดาว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของการตลาดเรียกว่าสังคมยุคการตลาดมือถือที่ บริษัท จะเชื่อมต่อกับลูกค้า 24 / 7 [ 13 ]