he demand for organic food in Thail

he demand for organic food in Thailand has been rising over the past decades. Thai consumers
now have to choose from several types of product labels which convey organic quality.
The purpose of this research is to study the willingness to pay for organic food, that has
been affixed with different types of labels. 72 representative Thai consumers were recruited
to participate in the experiment, in which they had to bid for jasmine rice, carrots, and eggs, under
the random nth-price auction technique. The results showed that when compared to the normal
label, Thai consumers were willing to pay premiums of 28%, 29%, and 17% respectively for jasmine
rice, carrots, and eggs that were affixed with the certified “Organic Thailand” labels. Organic food has
the credence quality amongst Thai consumers, who appear to trust organic certification as certifying
such quality. These premiums were statistically higher than premiums for Safe Food labels, which
commanded premiums of 20% for jasmine rice, 12% for carrots, and 10% for eggs. Self-proclaimed
organic food did not receive additional premiums, since consumers were indifferent when noncertified
organic labels were attached. In addition, providing consumers additional information about organic
food and certification had the effect of raising price premiums for organic food. The findings suggest
that policy makers should set an unambiguous and unified policy on food labeling, and aggressively
communicate the benefits of organic certification to the general public.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความต้องการอาหารอินทรีย์ในประเทศไทยเขาได้ถูกเพิ่มขึ้นกว่าทศวรรษ ผู้บริโภคชาวไทยตอนนี้ มีให้เลือกหลายชนิดของป้ายชื่อสินค้าที่ถ่ายทอดคุณภาพเกษตรอินทรีย์วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้จะศึกษายินดีที่จะจ่ายสำหรับอินทรีย์ อาหารที่มีการติดอยู่กับป้ายชนิดต่าง ๆ ผู้บริโภคชาวไทยพนักงาน 72 ได้พิจารณาเข้าร่วมการทดลอง พวกเขาเสนอราคาข้าวหอมมะลิ แครอท และ ไข่ ภายใต้เทคนิคการประมูลราคาสุ่ม ผลพบว่าเมื่อเปรียบเทียบกับปกติป้ายชื่อ ผู้บริโภคไทยก็ยินดีที่จะจ่ายค่าจ้างพิเศษ 28%, 29% และ 17% ตามลำดับสำหรับมะลิข้าว แครอท และไข่ที่อยู่ติดกับป้ายชื่อ "เกษตรอินทรีย์ไทย" ได้รับการรับรอง อาหารอินทรีย์ได้คุณภาพเห็นเหมือนหมู่ไทย ผู้บริโภคจะเชื่อถือใบรับรองเกษตรอินทรีย์เป็นการได้รับการรับรองคุณภาพดังกล่าว ค่าจ้างพิเศษเหล่านี้ได้ทางสถิติสูงกว่าค่าจ้างพิเศษสำหรับป้ายอาหารปลอดภัย ซึ่งสั่งเบี้ย 20% สำหรับข้าวหอมมะลิ 12% สำหรับแครอท และ 10% สำหรับไข่ ประกาศตนเองอาหารอินทรีย์ไม่ได้รับค่าจ้างพิเศษเพิ่มเติม เนื่องจากผู้บริโภคสนใจเมื่อ noncertifiedมีแนบป้ายชื่ออินทรีย์ นอกจากนี้ ให้ผู้บริโภคข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์อาหารและการออกใบรับรองมีผลของการเพิ่มราคาค่าจ้างพิเศษสำหรับอาหารอินทรีย์ ผลการศึกษาแนะนำผู้กำหนดนโยบายควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจน และรวมการติดฉลากอาหาร และอุกอาจสื่อสารประโยชน์ของการรับรองเกษตรอินทรีย์แก่ประชาชนทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขามีความต้องการอาหารอินทรีย์ในประเทศไทยได้รับการเพิ่มขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ผู้บริโภคชาวไทยในขณะนี้มีให้เลือกหลายประเภทของฉลากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพซึ่งถ่ายทอดอินทรีย์. วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการศึกษาความเต็มใจที่จะจ่ายสำหรับอาหารอินทรีย์ที่ได้รับการติดอยู่กับชนิดของป้าย 72 ตัวแทนผู้บริโภคชาวไทยได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมในการทดลองในการที่พวกเขาจะต้องเสนอราคาสำหรับข้าวหอมมะลิ, แครอทและไข่ภายใต้เทคนิคการประมูลที่ n ราคาแบบสุ่ม ผลการศึกษาพบว่าเมื่อเทียบกับปกติฉลากผู้บริโภคชาวไทยมีความเต็มใจที่จะจ่ายค่าเบี้ยประกัน 28%, 29% และ 17% ตามลำดับสำหรับดอกมะลิข้าวแครอทและไข่ที่ได้รับการติดอยู่กับการได้รับการรับรอง"อินทรีย์ประเทศไทย" ฉลาก อาหารอินทรีย์มีคุณภาพเชื่อถือในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความไว้วางใจปรากฏรับรองอินทรีย์ได้รับการรับรองคุณภาพเช่น พรีเมี่ยมเหล่านี้เป็นสถิติที่สูงกว่าพรีเมี่ยมสำหรับป้ายอาหารปลอดภัยซึ่งได้รับคำสั่งพรีเมี่ยม 20% สำหรับข้าวหอมมะลิ 12% สำหรับแครอทและ 10% สำหรับไข่ ประกาศตัวเองอาหารอินทรีย์ไม่ได้รับพรีเมี่ยมที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคไม่แยแสเมื่อ noncertified ฉลากอินทรีย์ติด นอกจากนี้ยังให้ผู้บริโภคข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินทรีย์อาหารและการรับรองมีผลของการเพิ่มเบี้ยประกันราคาอาหารอินทรีย์ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการติดฉลากอาหารและอุกอาจสื่อสารประโยชน์ของการได้รับการรับรองอินทรีย์ให้กับประชาชนทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาความต้องการอาหารอินทรีย์ในประเทศไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวไทย
ตอนนี้มีให้เลือกหลายประเภทของผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลากอินทรีย์คุณภาพ .
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือ ศึกษาความเต็มใจที่จะจ่ายสำหรับอาหารอินทรีย์ที่มี
ถูกติดอยู่กับชนิดของป้ายชื่อ 72 ตัวแทนผู้บริโภคชาวไทย /
มีส่วนร่วมในการทดลองซึ่งพวกเขาได้ประมูลขายข้าว , แครอท , ไข่ , ภายใต้
สุ่มแลกราคาประมูล ) ผลการศึกษาพบว่า เมื่อเทียบกับป้ายปกติ
, ผู้บริโภคเต็มใจที่จะจ่ายเบี้ย 28 และ 29 เปอร์เซ็นต์ และ 17% ตามลำดับสำหรับดอกมะลิ
ข้าว , แครอท , ไข่ที่ติดอยู่กับ " ประเทศไทยได้รับการรับรองอินทรีย์ " ฉลาก อาหารอินทรีย์มี
ส่วนการคุณภาพในหมู่ผู้บริโภคไทย ใครจะเชื่อการรับรองอินทรีย์เป็นรับรอง
คุณภาพเช่น ค่าจ้างพิเศษเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าเบี้ยป้ายอาหารปลอดภัย ซึ่ง
บัญชาเบี้ย 20% ข้าวหอมมะลิร้อยละ 12 สำหรับแครอท และ 10% สำหรับไข่ ตนเองเป็น
อาหารอินทรีย์ไม่ได้รับเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากผู้บริโภคก็ไม่แยแสเมื่อ noncertified
ฉลากอินทรีย์ถูกแนบมา นอกจากนี้ ผู้บริโภคให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารอินทรีย์
และการรับรองมีผลของการเพิ่มเบี้ยราคาสำหรับอาหารอินทรีย์ ข้อมูลแนะนำ
กำหนดนโยบายด้านควรตั้งค่านโยบายชัดเจน และรวมอาหารการติดฉลากและอุกอาจ
สื่อสารประโยชน์ของการรับรองอินทรีย์ให้กับประชาชนทั่วไป