Jupiter is a gas giant composed of

Jupiter is a gas giant composed of a bout 90% hydrogen and 9.99% helium with a few other trace elements thrown in for fun. The gaseous nature of the planet makes a solid surface impossible. So, scientists devised a way to define the surface of Jupiter. The surface of the planet is defined as the point where the pressure of the atmosphere is 1 bar, which is equal to the atmospheric pressure at Earth’s surface.
This is happens to be the point at the bottom of Jupiter’s atmosphere where its upper clouds of ammonia ice are visible. If a spacecraft were to descend farther, it would encounter thicker clouds of ammonia, eventually reaching clouds of water vapor. Below the water vapor there is only ever thicker mixtures of hydrogen and helium until the craft hits the core. Scientists theorize that the center of Jupiter is a dense core of liquid metallic hydrogen with some helium with a temperature in the neighborhood of 36,000 Kelvin. There really isn’t any possible place to land a spacecraft on Jupiter.

It would be very difficult for a spacecraft to descend to or below the surface of Jupiter. The planet’s atmosphere is particularly harsh. Jupiter is perpetually covered with clouds composed of ammonia crystals and some may contain ammonium hydrosulfide. The clouds are located in the tropopause and are sub-divided into light-hued zones and dark belts. These conflicting patterns cause horrifically strong storms. Wind speeds in excess of360 km/h are common. The entire atmosphere is constantly charged with excited particles spewing from the volcanoes on the moon Io. Lightening is ever present in portions of the atmosphere, as well. Then there is the tremendous atmospheric pressure. Just a few km below the recognized surface of the planet, any spacecraft would be crushed by pressures topping the Earth’s by more than 1000%

Jupiter is not the only planet facing debate as to whether it has a surface or not. Scientists debate the pint about all of the gas giants. One model suggests that ll planets had to evolve from the solar nebula with a rocky in order to accrete their mass. The gas giants are believed to have evolved very early and were, therefore able to accumulate the lightest gases like hydrogen and helium. The model goes on to say that the core and rocky surface of Jupiter simply moved by convection into the atmosphere and on back into space, thus explaining why there currently is no surface of Jupiter to land on.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดาวพฤหัสบดีเป็นแก๊สที่ยักษ์ประกอบด้วยแข่งขันไฮโดรเจน 90% และ 9.99% ฮีเลียม มีกี่ติดตามองค์ประกอบอื่น ๆ ขึ้นเพื่อความสนุกสนานใน ลักษณะเป็นต้นของโลกทำให้พื้นผิวแข็งเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์คิดค้นวิธีการกำหนดพื้นผิวของดาวพฤหัสบดี มีกำหนดพื้นผิวของดาวเคราะห์เป็นจุดที่ความดันของบรรยากาศเป็นบาร์ 1 ซึ่งเท่ากับความดันบรรยากาศที่พื้นผิวของโลกนี้เกิดขึ้น เป็นจุดที่ด้านล่างของบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีมองเห็นเมฆด้านบนของน้ำแข็งแอมโมเนีย ถ้ายานอวกาศ เดินไกลออกไป มันจะพบเมฆหนาของแอมโมเนีย ในที่สุดถึงเมฆไอน้ำ ด้านล่างไอน้ำ มีเท่านั้นหนาเคยผสมไฮโดรเจนและฮีเลียมจนเรือนิยมหลัก นักวิทยาศาสตร์ตั้งทฤษฎีว่า ศูนย์ดาวพฤหัสบดีเป็นหลักความหนาแน่นของไฮโดรเจนเหลวโลหะกับฮีเลียมบางกับอุณหภูมิในย่านของเคลวิน 36,000 มีจริง ๆ ไม่ไหนก็ได้เพื่อให้ที่ดินยานอวกาศบนดาวพฤหัสบดีมันจะยากมากสำหรับยานอวกาศที่ลงไป หรือต่ำ กว่าพื้นผิวของดาวพฤหัสบดี บรรยากาศของโลกจะรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาวพฤหัสบดีถูกปกคลุม ด้วยเมฆที่ประกอบด้วยผลึกแอมโมเนียหนี้สิน และบางอาจประกอบด้วยแอมโมเนีย hydrosulfide เมฆอยู่โทรโพพอส และย่อยแบ่งออกเป็นโซนแสง hued และเข็มขัดสีดำ รูปแบบความขัดแย้งเหล่านี้ทำให้เกิดพายุแรง horrifically ความเร็วลมใน of360 เกิน km/h เป็นทั่วไป ตลอดเวลาบรรยากาศทั้งหมดจะโดนให้อนุภาคตื่นเต้น spewing จากภูเขาบนดวงจันทร์ Io เด้งได้เคยนำเสนอในส่วนของบรรยากาศ เช่น แล้ว มีความดันบรรยากาศอย่างมาก เพียงไม่กี่กิโลเมตรใต้ผิวโลก รู้จักยานอวกาศใด ๆ จะบด โดยดันเติมของโลกมากกว่า 1000%ดาวพฤหัสบดีไม่ใช่ดาวเคราะห์เพียงหันหน้าอภิปรายต่อว่ามันมีพื้นผิว หรือไม่ นักวิทยาศาสตร์อภิปราย pint เกี่ยวกับยักษ์ก๊าซทั้งหมด แบบจำลองหนึ่งแนะนำว่า ดาวเคราะห์จะมีการวิวัฒนาการจากเนบิวลาแสงอาทิตย์ด้วยเป็นหินเพื่อ accrete ของมวล แก๊สยักษ์ที่เชื่อว่ามีพัฒนาเร็วมาก และ ได้ จึงสามารถสะสมก๊าซน้ำหนักเบาที่สุดเช่นไฮโดรเจนและฮีเลียม แบบไปไปพูดที่ หลักและพื้นผิวหินของดาวพฤหัสบดีก็ย้าย โดยการพา เข้าบรรยากาศ และกลับเข้ามาพื้นที่ ดัง explaining ทำไมขณะนี้มีไม่มีพื้นผิวของดาวพฤหัสบดีเพื่อแผ่นดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวก๊าซยักษ์ประกอบด้วยการแข่งขันไฮโดรเจน 90% และฮีเลียม 9.99% และมีธาตุอื่น ๆ ไม่กี่โยนในเพื่อความสนุกสนาน ธรรมชาติของดาวเคราะห์ก๊าซที่ทำให้พื้นผิวของแข็งเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์คิดค้นวิธีที่จะกำหนดพื้นผิวของดาวพฤหัสบดี พื้นผิวของดาวเคราะห์ดวงนี้ถูกกำหนดให้เป็นจุดที่ความดันของบรรยากาศเป็น 1 บาร์ซึ่งเท่ากับความดันบรรยากาศที่พื้นผิวโลก.
นี้เป็นที่เกิดขึ้นจะเป็นจุดที่ด้านล่างของชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีที่เมฆบนของแอมโมเนีย น้ำแข็งจะมองเห็นได้ ถ้ายานอวกาศที่กำลังจะลงมาไกลออกไปก็จะพบเมฆหนาของแอมโมเนียในที่สุดถึงเมฆของไอน้ำ ด้านล่างนี้ไอน้ำมีสารผสมเท่านั้นที่เคยหนาของไฮโดรเจนและฮีเลียมจนฝีมือฮิตหลัก นักวิทยาศาสตร์ทฤษฎีที่ว่าศูนย์กลางของดาวพฤหัสบดีเป็นหลักหนาแน่นของโลหะไฮโดรเจนเหลวกับฮีเลียมบางที่มีอุณหภูมิในละแวก 36,000 เคลวิน จริงๆมีไม่ใด ๆ ที่เป็นไปได้ที่จะลงจอดยานอวกาศบนดาวพฤหัสบดี. มันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับยานอวกาศที่จะลงไปหรือต่ำกว่าพื้นผิวของดาวพฤหัสบดี บรรยากาศของโลกเป็นที่รุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาวพฤหัสบดีถูกปกคลุมด้วยเมฆตลอดประกอบด้วยผลึกแอมโมเนียและบางคนอาจมี hydrosulfide แอมโมเนียม เมฆจะอยู่ใน tropopause และย่อยแบ่งออกเป็นโซนแสง hued และเข็มขัดสีดำ รูปแบบที่ขัดแย้งกันเหล่านี้ทำให้เกิดสยองพายุพัดแรง ความเร็วลมเกิน of360 กิโลเมตร / ชั่วโมงอยู่ร่วมกัน บรรยากาศทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องกับอนุภาคตื่นเต้นพ่นจากภูเขาไฟบนดวงจันทร์ไอโอ การลดน้ำหนักที่เคยอยู่ในส่วนของชั้นบรรยากาศได้เป็นอย่างดี จากนั้นก็มีความดันบรรยากาศอันยิ่งใหญ่ เพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตรใต้ผิวได้รับการยอมรับของโลกยานอวกาศใด ๆ ที่จะโดนแรงกดดันเครื่องประดับของโลกโดยมากกว่า 1000% ดาวพฤหัสบดีไม่ได้เป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่หันหน้าไปอภิปรายเป็นไปได้ว่ามันมีพื้นผิวหรือไม่ นักวิทยาศาสตร์ไพน์อภิปรายเกี่ยวกับทั้งหมดของดาวก๊าซยักษ์ รุ่นหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าดาวเคราะห์ LL มีการวิวัฒนาการมาจากเนบิวลาแสงอาทิตย์ที่มีหินเพื่อที่จะรวมตัวกันขึ้นมวลของพวกเขา ก๊าซยักษ์เชื่อว่าจะมีการพัฒนาเร็วมากและมีจึงสามารถรวบรวมก๊าซที่มีน้ำหนักเบาเช่นไฮโดรเจนและฮีเลียม รูปแบบก็จะบอกว่าหลักและพื้นผิวหินของดาวพฤหัสบดีก็ย้ายโดยการพาความร้อนออกสู่ชั้นบรรยากาศและกลับเข้ามาในพื้นที่จึงอธิบายว่าทำไมขณะนี้พื้นผิวของดาวพฤหัสบดีจะลงจอดบนไม่มี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดาวพฤหัสบดีเป็นก๊าซยักษ์ประกอบด้วยการแข่งขัน 90 % ไฮโดรเจนและ 9.99 % ฮีเลียมด้วยธาตุไม่กี่อื่น ๆโยนในเพื่อความสนุกสนาน ธรรมชาติก๊าซของโลกทำให้พื้นผิวที่มั่นคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงคิดวิธีที่จะกำหนดพื้นผิวของดาวพฤหัสบดี พื้นผิวของดาวเคราะห์ หมายถึง จุดที่ความดันบรรยากาศคือ 1 บาร์ซึ่งเท่ากับความดันบรรยากาศที่พื้นผิวของโลก
นี่เป็นจุดที่ด้านล่างของดาวพฤหัสบดีเป็นบรรยากาศที่เมฆตอนบนของแอมโมเนีย น้ำแข็งจะมองเห็น ถ้ายานอวกาศถูกลงมาอีก ก็จะพบเมฆหนาของแอมโมเนียในที่สุดถึงเมฆของไอน้ําด้านล่างไอน้ำมีเพียงส่วนผสมของไฮโดรเจนและฮีเลียมได้หนาจนยานชนหลัก นักวิทยาศาสตร์สร้างทฤษฎีที่ศูนย์ของดาวพฤหัสบดีหนาแน่นหลักของโลหะไฮโดรเจนเหลวกับฮีเลียมด้วยอุณหภูมิในบริเวณ 36 , 000 เคลวิน มีไม่ใด ๆที่เป็นไปได้ที่ลงจอดยานอวกาศบนดาวพฤหัสบดี .

มันคงจะยากมากสำหรับยานอวกาศที่จะลงมาหรือด้านล่างพื้นผิวของดาวพฤหัสบดี บรรยากาศของดาวเคราะห์โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แข็งกร้าว ดาวพฤหัสบดีเป็นนิตย์ปกคลุมด้วยเมฆประกอบด้วยผลึก แอมโมเนีย และบางอย่างอาจประกอบด้วยแอมโมเนียม hydrosulfide . เมฆอยู่ในซุปเปอร์ และจะย่อยแบ่งออกเป็นโซนแสง hued และเข็มขัดสีดำรูปแบบเหล่านี้ขัดแย้งกัน เพราะแข็งแรง horrifically พายุ ความเร็วลมเกิน of360 km / h มีทั่วไป บรรยากาศทั้งหมดจะมีค่าบริการกับตื่นเต้นอนุภาคพ่นจากภูเขาไฟบนดวงจันทร์ไอโอ . นิ่งอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของบรรยากาศได้เป็นอย่างดี แล้วมีความดันบรรยากาศอย่างมาก เพียงไม่กี่กิโลเมตร ได้รับด้านล่างพื้นผิวของดาวเคราะห์มียานอวกาศจะโดนดันหน้าของโลกกว่า 1 , 000 %

ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ซึ่งไม่เพียง แต่การอภิปรายเป็นไม่ว่าจะมีผิวหรือไม่ นักวิทยาศาสตร์โต้แย้งอย่างเกี่ยวกับทั้งหมดของก๊าซยักษ์ รูปแบบหนึ่งชี้ให้เห็นว่าดาวเคราะห์จะต้องวิวัฒนาการมาจากเนบิวลาพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยหินเพื่อจับมวลของพวกเขาก๊าซยักษ์เชื่อว่ามีวิวัฒนาการมากก่อนและจึงสามารถสะสมเบาแก๊ส เช่น ไฮโดรเจน และฮีเลียม แบบที่กล่าวไปที่แกนกลางและพื้นหินของดาวพฤหัสบดี เพียงแค่ย้ายจากการพาเข้าสู่บรรยากาศ และกลับเข้ามาในพื้นที่ จึงอธิบายถึงขณะนี้จะไม่มีพื้นผิวของดาวพฤหัสบดีเพื่อที่ดินบน