- ทฤษฎีระบบ (System Theory) - ทฤษฎีการบริหารงานตามวัตถุประสงค์ (Manage การแปล - - ทฤษฎีระบบ (System Theory) - ทฤษฎีการบริหารงานตามวัตถุประสงค์ (Manage ไทย วิธีการพูด

- ทฤษฎีระบบ (System Theory) - ทฤษฎี

- ทฤษฎีระบบ (System Theory)
- ทฤษฎีการบริหารงานตามวัตถุประสงค์ (Management by Objective :MBO)
- ทฤษฎีการพัฒนาองค์การ (Organization Development :OD)
- ทฤษฎีการบริหารงานตามสถานการณ์ (Situational or Contingency approach)
Modern Management มีดังนี้
1) Chester I. Barnard ( 1938)
Barnard ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งพฤติกรรมศาสตร์ (Behavior science) เขาเป็นประธานของบริษัท New Jersey Bell ในปี ค.ศ. 1927 เขาใช้ประสบการณ์ในการบริหารงานและการทำงาน ความรู้ทางด้านสังคมวิทยา ปรัชญา สร้างทฤษฎีชีวิตทางด้านองค์การขึ้น
แนวคิดของ Barnard คือ
-องค์การ เป็นโครงสร้างทางสังคม (Social structure) เป็นที่รวมของกายภาพ (เกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต) ชีวภาพ บุคคล และสังคม ซึ่งมีความสลับซับซ้อน และมีพลวัต (แรงและผลของแรง)
-การบริหาร จัดการต้องเป็นไปทั้งระบบ (wholes) มากกว่าเป็นส่วนๆ (piece by piece) ดังเช่นนักทฤษฎีสมัยก่อน เขาได้เน้นเรื่องราวทางด้านจิตวิทยาองค์การ ซึ่งนับได้ว่าเป็นทฤษฎีการบริหารจัดการสมัยใหม่
-พฤติกรรมศาสตร์ (Behavior science) เห็นว่า คนคือหัวใจของการผลิต เทคโนโลยี กฎที่ทำงานหรือมาตรฐาน ไม่ได้เป็นหลักประกันผลงานที่ดีเสมอไป แต่ผลงานที่ดีจะมาจากการจูงใจคน
-ระบบ (Sytem) หมายถึงสิ่งต่างๆ ที่ต้องพึ่งพากัน และรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เช่นร่างกาย
-ระบบบริหารจัดการ (Management system) หมายถึงส่วนต่างๆ จำนวนหนึ่งที่สัมพันธ์และขึ้นอยู่ต่อกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง ให้สำเร็จตามความต้องการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์การ ความสามารถ และความอ่อนไหว ในความรู้สึกของผู้บริหาร จะช่วยให้พนักงานมีความร่วมมือนำไปสู้ผลผลิตที่สูง และจะต้องบริหารทั้งระบบไม่เพียงแต่มนุษยสัมพันธ์เท่านั้น
-การสื่อสาร (Communication) เป็นส่วนสำคัญขององค์การ เพราะจะเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างความยินดีที่จะรับใช้กับเป้าหมายขององค์การ

ความยินดีที่จะรับใช้ของเอกบุคคลการ สื่อสารข้อมูล เป้าหมายขององค์การ

รูปแสดง ระบบความร่วมมือของ Barnard
แนวคิดเรื่องระบบทั่วไป Bertalanffy บิดาแห่งทฤษฎีระบบทั่วไป (General systems Theory) อธิบายว่า ถ้าต้องการสิ่งที่รวมกันเป็นส่วนใหญ่ ต้องทราบส่วนย่อยต่างๆ และความสัมพันธ์ระหว่างส่วนย่อยนั้น นักทฤษฎีแนวนี้ เห็นว่าโลกประกอบด้วยระบบต่างๆ มีลำดับชั้น จากระบบเฉพาะเจาะจง ไปสู่ระบบที่มีลักษณะทั่วไป
นอกจากจะมองเป็นระดับแล้ว องค์การยังแบ่งเป็นระบบปิด(Closed system) คือระบบที่พึ่งตนเองได้ และระบบเปิด (Open system) คือระบบที่ต้องพึ่งพาสิ่งแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด
2) การบริหารจัดการแบบญี่ปุ่น (Japanese Practice in Management)
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจอย่างมาก มีบริษัทต่างหันมาสนใจรูปแบบการบริหารแบบญี่ปุ่น แต่การบริหารจัดการแบบนั้น ไม่สามารถนำไปใช้ได้หมดกับทุกชาติ ทั้งนี้พบว่าพื้นฐาน ประเพณี วัฒนธรรมของญี่ปุ่น ไม่เหมือนกับชาติอื่น ดังนี้
1. ปัจจัยพื้นฐานของการบริหาร
1.1 ลัทธิกลุ่มนิยม เป็นลักษณะเด่น นิยมทำงานเป็นทีม กลุ่มลงมติ สมาชิกมีความสุขเมื่อได้มีส่วนร่วมในงาน ช่วยเหลือ ประสานงาน ทุกอย่างมีความชัดเจนไม่คลุมเครือ
1.2 สังคมญี่ปุ่นมีลักษณะเด่น เป็นเกาะ เกิดความเข้าใจกัน เชื่อถือกัน ลักษณะองค์การมีการติดต่อสื่อสารที่ดี ง่าย ไม่เป็นทางการ
1.3 มีการฝึกอบรมและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
1.4 เน้นทำงานกลุ่ม
1.5 การตัดสินใจโดยการลงมติ 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 ให้ผู้บริหารพิจารณา ส่วนที่ 2 ตัดสินใจ
1.6 การประเมินผลการปฏิบัติงานที่มีความซับซ้อน
1.7 ให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่ดีแก่พนักงาน
1.8 เป็นองค์การแบบง่าย และมีความยึดหยุ่น
1.9 การวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว
1.10 บริษัทเป็นฐานลัทธิ สหภาพแรงงาน
1.11 มีความจงรักภักดีต่อบริษัท
2. ระดับชาติ
2.1 ศาสนาชินโต ไม่มีศาสดา ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นพี่น้องกัน และไม่มีใครอยากเด่น
2.2 การยึดถือดอกไม้ประจำชาติ คือดอกซากุระ เป็นลักษณะดอกไม้ที่เผชิญกับดินฟ้าอากาศ อดทน ออกดอกพร้อมกัน และร่วงพร้อมกัน
3. ระดับคณะกรรมการทั้งรัฐ/เอกชน
3.1 ถือว่าทุกคนในองค์การเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน
3.2 มุ่งสร้างสัมพันธ์ของคนในองค์การให้กระชับ แน่นแฟ้น สามัคคี
3.3 มีความไว้วางใจกันและกัน สมาชิกมุ่งสร้างความเจริญ ทำกำไรให้องค์การ
3.4 ผู้บริหารและสมาชิกทุกคนยอมสละความสุขส่วนตัว เพื่อมุ่งสร้างความเจริญแก่องค์การ

4. ระดับผู้นำ
4.1 ผู้บริหารเห็นว่าสมาชิก/ลูกน้อง เป็นลูกหลานต้องดูแล
4.2 ผู้บริหารอยู่กับลูกน้องด้วยความเข้าใจ ไม่ใช้อำนาจ
4.3 ผู้บริหารมองคน และความคิดของคน สำคัญกว่าเทคโนโลยี
4.4 ผู้บริหารเชื่อว่าการใช้อำนาจในการปกครองนั้นไม่ดี เป็นการทำลายความคิดของลูกน้อง
4.5 การตัดสินใจในการทำงานใช้การตัดสินใจเป็นกลุ่ม
4.6 ผู้บริหารมักแต่งตั้งจากระดับล่างขึ้นมา
4.7 ผู้นำขอบคุณลูกน้องที่ทำให้งานสำเร็จ ด้วยความเหนื่อยยาก
4.8 ความสำเร็จและความล้มเหลวขึ้นอยู่กับผู้นำว่าเห็นคุณค่าของลูกน้องเพียงไหน
5. ระดับสมาชิก/พนักงาน
5.1 ทำงานหนัก และมีมานะอดทน
5.2 คนญี่ปุ่นถือว่าการทำงานเป็นทีมเป็นเรื่องปกติ ไม่คอยปัดแข็งปัดขา กลั่นแกล้ง อยากเด่นคนเดียว
3) ทฤษฎีการบริหารตามสถานการณ์ (Situation or Contingency Approach)
ทฤษฎีนี้ เริมนำมาใช้ใน ค.ศ. 1870 ด้วยนักวิชาการ ไม่เห็นด้วยกับการมีกฎเกณฑ์ หรือมีหนทางเดียวในการปฏิบัติงาน ทฤษฎีนี้เห็นว่า การบริหารจัดการย่อมขึ้นกับสถานการณ์ เป็นลักษณะทฤษฎีที่ปรานีปรานอม ระหว่าทฤษฎีระบบเปิดกว้าง และเป็นนามธรรม กับความเชื่อที่ว่าการปฏิบัติงานขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์โดยเฉพาะ และไม่มองกว้างเหมือนทฤษฎีระบบ
ทฤษฎีการบริหารตามสถานการณ์ เป็นวิธีวิเคราะห์ที่กระทำในระดับที่เหมาะสม สามารถพิจารณาปัญหาได้ดี ไม่กว้าง หรือเฉพาะจุดเกินไป มีความสมดุลระหว่างหลายๆด้าน คือสามารถพิจารณาปัญหาได้กระจ่างและง่าย สามรถใช้หลักวิชาอย่างถูกต้องเหมาะสม และยังสามารถพิจารณาสิ่งที่ยุ่งยาก สับสนไม่ชัดเจน ไปพร้อมกัน
ทฤษฎีนี้ สามารถรับรู้ปัญหาที่ยุ่งยากสับสน ช่วยในการเชื่อมโยงทฤษฎีการบริหารที่เป็นศาสตร์ วิชาการสามารถนำไปสถานการณ์ต่างๆได้โดยตรง ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจว่าจะใช้เทคนิคอะไร อย่างไรจึงจะให้องค์การบรรลุผลสำเร็จ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
-ทฤษฎีระบบ (ทฤษฎีระบบ) -ทฤษฎีการบริหารงานตามวัตถุประสงค์ (การจัดการ โดยวัตถุประสงค์: MBO)-ทฤษฎีการพัฒนาองค์การ (การพัฒนาองค์กร: OD)-ทฤษฎีการบริหารงานตามสถานการณ์ (Situational หรือฉุกเฉินวิธี)การจัดการสมัยใหม่มีดังนี้1) Chester I. Barnard (1938) Barnard (พฤติกรรมศาสตร์) ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งพฤติกรรมศาสตร์เขาเป็นประธานของบริษัทนิวเจอร์ซีเบลล์ในปีค.ศ. 1927 เขาใช้ประสบการณ์ในการบริหารงานและการทำงานความรู้ทางด้านสังคมวิทยาปรัชญาสร้างทฤษฎีชีวิตทางด้านองค์การขึ้นแนวคิดของ Barnard คือ-องค์การ (โครงสร้างทางสังคม) เป็นโครงสร้างทางสังคมเป็นที่รวมของกายภาพ (เกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต) ชีวภาพบุคคลและสังคมซึ่งมีความสลับซับซ้อนและมีพลวัต (แรงและผลของแรง) ซึ่งนับได้ว่าเป็นทฤษฎีการบริหารจัดการสมัยใหม่เขาได้เน้นเรื่องราวทางด้านจิตวิทยาองค์การดังเช่นนักทฤษฎีสมัยก่อน - การบริหารจัดการต้องเป็นไปทั้งระบบ (wholes) มากกว่าเป็นส่วน ๆ (ชิ้น)-พฤติกรรมศาสตร์ (พฤติกรรมศาสตร์) เห็นว่าคนคือหัวใจของการผลิตเทคโนโลยีกฎที่ทำงานหรือมาตรฐานไม่ได้เป็นหลักประกันผลงานที่ดีเสมอไปแต่ผลงานที่ดีจะมาจากการจูงใจคน-ระบบฯลฯ แล้วแต่ (Sytem) หมายถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องพึ่งพากันและรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเช่นร่างกาย-ระบบบริหารจัดการ (ระบบการจัดการ) หมายถึงส่วนต่าง ๆ จำนวนหนึ่งที่สัมพันธ์และขึ้นอยู่ต่อกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างให้สำเร็จตามความต้องการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์การความสามารถและความอ่อนไหวในความรู้สึกของผู้บริหารจะช่วยให้พนักงานมีความร่วมมือนำไปสู้ผลผลิตที่สูงและจะต้องบริหารทั้งระบบไม่เพียงแต่มนุษยสัมพันธ์เท่านั้นเพราะจะเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างความยินดีที่จะรับใช้กับเป้าหมายขององค์การเป็นส่วนสำคัญขององค์การ - การสื่อสาร (สื่อสาร)ความยินดีที่จะรับใช้ของเอกบุคคลการสื่อสารข้อมูลเป้าหมายขององค์การรูปแสดงระบบความร่วมมือของ Barnardแนวคิดเรื่องระบบทั่วไป Bertalanffy (ทฤษฎีระบบทั่วไป) บิดาแห่งทฤษฎีระบบทั่วไปอธิบายว่าถ้าต้องการสิ่งที่รวมกันเป็นส่วนใหญ่ต้องทราบส่วนย่อยต่าง ๆ และความสัมพันธ์ระหว่างส่วนย่อยนั้นนักทฤษฎีแนวนี้เห็นว่าโลกประกอบด้วยระบบต่าง ๆ มีลำดับชั้นจากระบบเฉพาะเจาะจงไปสู่ระบบที่มีลักษณะทั่วไปนอกจากจะมองเป็นระดับแล้วองค์การยังแบ่งเป็นระบบปิด (ระบบปิด) คือระบบที่พึ่งตนเองได้และระบบเปิด (ระบบเปิด) คือระบบที่ต้องพึ่งพาสิ่งแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด2) การบริหารจัดการแบบญี่ปุ่น (การจัดการ)หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจอย่างมากมีบริษัทต่างหันมาสนใจรูปแบบการบริหารแบบญี่ปุ่นแต่การบริหารจัดการแบบนั้นไม่สามารถนำไปใช้ได้หมดกับทุกชาติทั้งนี้พบว่าพื้นฐานประเพณีวัฒนธรรมของญี่ปุ่นไม่เหมือนกับชาติอื่นดังนี้1. ปัจจัยพื้นฐานของการบริหาร1.1 ลัทธิกลุ่มนิยมเป็นลักษณะเด่นนิยมทำงานเป็นทีมกลุ่มลงมติสมาชิกมีความสุขเมื่อได้มีส่วนร่วมในงานช่วยเหลือประสานงานทุกอย่างมีความชัดเจนไม่คลุมเครือ1.2 สังคมญี่ปุ่นมีลักษณะเด่นเป็นเกาะเกิดความเข้าใจกันเชื่อถือกันลักษณะองค์การมีการติดต่อสื่อสารที่ดีง่ายไม่เป็นทางการ1.3 มีการฝึกอบรมและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง1.4 เน้นทำงานกลุ่ม1.5 การตัดสินใจโดยการลงมติ 2 ส่วนคือส่วนที่ 1 ให้ผู้บริหารพิจารณาส่วนที่ 2 ตัดสินใจ1.6 การประเมินผลการปฏิบัติงานที่มีความซับซ้อน1.7 ให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่ดีแก่พนักงาน1.8 เป็นองค์การแบบง่ายและมีความยึดหยุ่น1.9 การวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวสหภาพแรงงาน 1.10 บริษัทเป็นฐานลัทธิ1.11 มีความจงรักภักดีต่อบริษัท2. ระดับชาติ 2.1 ศาสนาชินโตไม่มีศาสดาทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นพี่น้องกันและไม่มีใครอยากเด่น2.2 การยึดถือดอกไม้ประจำชาติคือดอกซากุระเป็นลักษณะดอกไม้ที่เผชิญกับดินฟ้าอากาศอดทนออกดอกพร้อมกันและร่วงพร้อมกัน3. ระดับคณะกรรมการทั้งรัฐเอกชน3.1 ถือว่าทุกคนในองค์การเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน3.2 มุ่งสร้างสัมพันธ์ของคนในองค์การให้กระชับแน่นแฟ้นสามัคคี3.3 มีความไว้วางใจกันและกันสมาชิกมุ่งสร้างความเจริญทำกำไรให้องค์การ3.4 ผู้บริหารและสมาชิกทุกคนยอมสละความสุขส่วนตัวเพื่อมุ่งสร้างความเจริญแก่องค์การ4. ระดับผู้นำ4.1 ผู้บริหารเห็นว่าสมาชิก/ลูกน้องเป็นลูกหลานต้องดูแลไม่ใช้อำนาจ 4.2 ผู้บริหารอยู่กับลูกน้องด้วยความเข้าใจ4.3 ผู้บริหารมองคนและความคิดของคนสำคัญกว่าเทคโนโลยีเป็นการทำลายความคิดของลูกน้อง 4.4 ผู้บริหารเชื่อว่าการใช้อำนาจในการปกครองนั้นไม่ดี 4.5 การตัดสินใจในการทำงานใช้การตัดสินใจเป็นกลุ่ม4.6 ผู้บริหารมักแต่งตั้งจากระดับล่างขึ้นมาด้วยความเหนื่อยยาก 4.7 ผู้นำขอบคุณลูกน้องที่ทำให้งานสำเร็จ4.8 ความสำเร็จและความล้มเหลวขึ้นอยู่กับผู้นำว่าเห็นคุณค่าของลูกน้องเพียงไหน5. ระดับสมาชิกพนักงาน 5.1 ทำงานหนักและมีมานะอดทน5.2 คนญี่ปุ่นถือว่าการทำงานเป็นทีมเป็นเรื่องปกติไม่คอยปัดแข็งปัดขากลั่นแกล้งอยากเด่นคนเดียว3) ทฤษฎีการบริหารตามสถานการณ์ (สถานการณ์หรือวิธีฉุกเฉิน)ทฤษฎีนี้เริมนำมาใช้ในค.ศ. 1870 ด้วยนักวิชาการไม่เห็นด้วยกับการมีกฎเกณฑ์หรือมีหนทางเดียวในการปฏิบัติงานทฤษฎีนี้เห็นว่าการบริหารจัดการย่อมขึ้นกับสถานการณ์เป็นลักษณะทฤษฎีที่ปรานีปรานอมระหว่าทฤษฎีระบบเปิดกว้างและเป็นนามธรรมกับความเชื่อที่ว่าการปฏิบัติงานขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์โดยเฉพาะและไม่มองกว้างเหมือนทฤษฎีระบบ ทฤษฎีการบริหารตามสถานการณ์เป็นวิธีวิเคราะห์ที่กระทำในระดับที่เหมาะสมสามารถพิจารณาปัญหาได้ดีไม่กว้างหรือเฉพาะจุดเกินไปมีความสมดุลระหว่างหลายๆด้านคือสามารถพิจารณาปัญหาได้กระจ่างและง่ายสามรถใช้หลักวิชาอย่างถูกต้องเหมาะสมและยังสามารถพิจารณาสิ่งที่ยุ่งยากสับสนไม่ชัดเจนไปพร้อมกันทฤษฎีนี้สามารถรับรู้ปัญหาที่ยุ่งยากสับสนช่วยในการเชื่อมโยงทฤษฎีการบริหารที่เป็นศาสตร์วิชาการสามารถนำไปสถานการณ์ต่างๆได้โดยตรงช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจว่าจะใช้เทคนิคอะไรอย่างไรจึงจะให้องค์การบรรลุผลสำเร็จ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
- ทฤษฎีระบบ (ระบบทฤษฎี)
- ทฤษฎีการบริหารงานตามวัตถุประสงค์ (การบริหารโดยวัตถุประสงค์: MBO)
- ทฤษฎีการพัฒนาองค์การ (การพัฒนาองค์กร: OD)
- ทฤษฎีการบริหารงานตามสถานการณ์ (Situational หรือฉุกเฉินวิธี)
การจัดการที่ทันสมัยมีดังนี้
1 ) เชสเตอร์ I. บาร์นาร์ด (1938)
บาร์นาร์ด (วิทยาศาสตร์พฤติกรรม) เขาเป็นประธานของ บริษัท นิวเจอร์ซีย์เบลล์ในปี ค.ศ. 1927 ความรู้ทางด้านสังคมวิทยาปรัชญา
บาร์นาร์ดคือ
- องค์การเป็นโครงสร้างทางสังคม (โครงสร้างทางสังคม) เป็นที่รวมของกายภาพ (เกี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต) ชีวภาพบุคคลและสังคมซึ่งมีความสลับ ซับซ้อนและมีพลวัต (แรงและผลของแรง)
- การบริหารจัดการต้องเป็นไป ทั้งระบบ (wholes) มากกว่าเป็นส่วน ๆ (ชิ้น) ดังเช่นนักทฤษฎีสมัยก่อน
(วิทยาศาสตร์พฤติกรรม) เห็นว่าคนคือหัวใจของการผลิต เทคโนโลยีกฎที่ทำงานหรือมาตรฐาน
(Sytem) หมายถึงสิ่งต่างๆที่ต้องพึ่งพากัน และรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเช่นร่างกาย
- ระบบบริหารจัดการ (ระบบการจัดการ) หมายถึงส่วนต่างๆ เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ หลายอย่างให้สำเร็จตามความต้องการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์การความสามารถและความอ่อนไหวในความรู้สึกของผู้บริหาร
(การสื่อสาร) เป็นส่วนสำคัญขององค์การ Thailand ข้อมูลเป้าหมายสื่อสารขององค์การรูปสำคัญแสดงความสามารถระบบผู้ซื้อสินค้าร่วมมือของบาร์นาร์ดแนวคิดเรื่องระบบทั่วไป Bertalanffy บิดาแห่งทฤษฎีระบบทั่วไป (ระบบทั่วไปทฤษฎี) อธิบายว่า ต้องทราบส่วนย่อยต่างๆ นักทฤษฎีแนวนี้เห็นว่าโลกประกอบด้วย ระบบต่างๆมีลำดับชั้นจากระบบเฉพาะเจาะจง องค์การยังแบ่งเป็นระบบปิด (ระบบปิด) คือระบบที่พึ่งตนเองได้และระบบเปิด (Open System) การบริหารจัดการแบบญี่ปุ่น (ญี่ปุ่นปฏิบัติในการบริหาร) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่การบริหารจัดการแบบนั้นไม่สามารถ นำไปใช้ได้หมดกับทุกชาติทั้งนี้พบว่าพื้นฐานประเพณีวัฒนธรรมของญี่ปุ่นไม่เหมือนกับชาติอื่นดังนี้ 1 ปัจจัยพื้นฐานของการบริหาร1.1 ลัทธิกลุ่มนิยมเป็นลักษณะเด่นนิยมทำงาน เป็นทีมกลุ่มลงมติ ช่วยเหลือประสานงานทุกอย่างมีความชัดเจน ไม่คลุมเครือ 1.2 สังคมญี่ปุ่นมีลักษณะเด่นเป็นเกาะเกิด ความเข้าใจกันเชื่อถือกัน ง่ายไม่เป็นทางการ1.3 เน้นทำงานกลุ่ม1.5 การตัดสินใจโดยการลงมติ 2 ส่วนคือส่วนที่ 1 ให้ผู้บริหารพิจารณาส่วนที่ 2 ตัดสินใจ1.6 เป็นองค์การแบบง่ายและมีความยึด หยุ่น 1.9 การวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว1.10 บริษัท เป็นฐานลัทธิสหภาพแรงงาน1.11 มีความจงรักภักดีต่อ บริษัท2 ระดับชาติ2.1 ศาสนาชินโตไม่มีศาสดาทำให้ทุกคนรู้สึก เป็นพี่น้องกันและไม่มีใครอยากเด่น 2.2 การยึดถือดอกไม้ประจำชาติคือดอกซากุระ อดทนออกดอกพร้อมกันและร่วงพร้อมกัน3 ระดับคณะกรรมการทั้งรัฐ / เอกชน3.1 แน่นแฟ้นสามัคคี3.3 มีความไว้วางใจกันและกันสมาชิกมุ่งสร้าง ความเจริญทำกำไรให้องค์การ 3.4 ระดับผู้นำ4.1 ผู้บริหารเห็นว่าสมาชิก / ลูกน้องเป็นลูกหลานต้องดูแล4.2 ไม่ใช้อำนาจ4.3 ผู้บริหารมองคนและความคิดของ คนสำคัญกว่าเทคโนโลยี 4.4 เป็นการทำลายความคิดของลูกน้อง4.5 ด้วยความเหนื่อยยาก4.8 ระดับสมาชิก / พนักงาน5.1 ทำงานหนักและมีมานะอดทน5.2 ไม่คอยปัดแข็งปัดขากลั่นแกล้งอยากเด่น คนเดียว 3) ทฤษฎีการบริหารตามสถานการณ์ (Situation หรือวิธีฉุกเฉิน) ทฤษฎีนี้เริมนำมาใช้ใน ค.ศ. 1870 ด้วยนักวิชาการไม่เห็นด้วยกับการ มีกฎเกณฑ์หรือมีหนทางเดียวในการปฏิบัติงานทฤษฎีนี้เห็นว่า เป็นลักษณะทฤษฎีที่ปรานีปรานอมระ หว่าทฤษฎีระบบเปิดกว้างและเป็นนามธรรม สามารถพิจารณาปัญหาได้ดีไม่กว้างหรือ เฉพาะจุดเกินไปมีความสมดุลระหว่างหลาย ๆ ด้าน ยังด้านและพิจารณาสิ่งที่ยุ่งยากสับสนไม่ชัดเจนไปพร้อมกันทฤษฎีนี้ด้านรับรู้ปฐมวัยที่ยุ่งยากสับสน













































การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: