ที่มาของการลอยโคมตำราบางเล่มว่า พุทธศาสนานำมาจากอินเดียสมัยราชวงศ์ถัง  การแปล - ที่มาของการลอยโคมตำราบางเล่มว่า พุทธศาสนานำมาจากอินเดียสมัยราชวงศ์ถัง  ไทย วิธีการพูด

ที่มาของการลอยโคมตำราบางเล่มว่า พุท

ที่มาของการลอยโคมตำราบางเล่มว่า พุทธศาสนานำมาจากอินเดียสมัยราชวงศ์ถัง แต่บางเล่มก็ว่าน่าจะเกิดจากศาสนาเต๋า เพราะเต๋ามีประเพณีชักโคมบูชาดาวและเทพเทียนกวน (นภเสนา) ในวันเทศกาลหยวนเซียวกลางเดือนอ้ายมาก่อน กลางเดือน ๗ เป็นเทศกาลบูชาเทพตี้กวน (ธรณิศเสนา) จึงจุดโคมบูชาท่านบ้าง แต่ลอยลงน้ำแทนเพื่อส่องทางให้ผีขึ้นมาสู่โลกมนุษย์ รับเครื่องเซ่นสังเวยและ "การอภัยโทษ" จากเทพตี้กวน ทั้งพุทธ เต๋า เชื่อว่าน้ำเป็นทางเชื่อมหรือแดนต่อยมโลกกับมนุษยโลก ในคัมภีร์พุทธกล่าวว่ามีแม่น้ำชื่อ "ไน่เหอ ( )" กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับยมโลก ในพิธีอุลลัมพนสังฆทานจึงมีการลอยโคมเพื่อส่องทางให้ผีข้ามแม่น้ำไน่เหอด้วย

การลอยโคมในวันสารทจีนคงมีมาตั้งสมัยราชวงศ์ถัง ถึงสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ มีบันทึกว่า "ราชสำนักส่งขันทีไปลอยโคมนับหมื่นดวง" ในวันนี้ สมัยราชวงศ์หยวนการลอยโคมแพร่หลายไปทั่วประเทศจีน มีบันทึกของคนร่วมสมัยกล่าวถึงประเพณีนี้ในเมืองหลวงว่า "เดือน ๗ วัน ๑๕ ค่ำ วัดต่างๆ จัดงานอุลลัมพนสังฆทาน ตอนค่ำลอยโคมลงแม่น้ำ เรียกว่า ลอยคงคาประทีป" เถียนยู่เฉิงบันทึกประเพณีนี้ในเมืองหางโจวสมัยนั้นไว้ว่า "วัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ เรียกว่าเทศกาลจงหยวน เล่าสืบกันมาว่าเป็นวันที่เทพตี้กวนประทานอภัยโทษ ผู้คนจะถือศีลกินเจ สวดมนต์อุทิศให้บรรพชนและผีทั้งหลายให้พ้นโทษภัย---พระสงฆ์จัดงานอุลลัมพนสั งฆทาน ลอยโคมในทะเลสาบซีหูและที่เจดีย์ แม่น้ำ เรียกว่า "ส่องยมโลก"" ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง การลอยโคมเป็นทั้งการบุญและงานรื่นเริงสนุกสนาน หนังสือ "จิงโตวเฟิงซู่จื้อ (บันทึกประเพณีเมืองหลวง)" กล่าวว่า "วัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ เป็นวันเทศกาลจงหยวน เล่าสืบกันมาว่าเป็นวันที่เทพตี้กวนประทานอภัยโทษ ผู้คนไปเซ่นไหว้บรรพชนที่สุสานเหมือนวันเช็งเม้ง พระสงฆ์สวดมนต์ทำพลีกรรม เผาเรือกระดาษเรียกว่า "ส่งธรรมนาวา" เชื่อว่าจะช่วยรับผีไม่มีญาติออกจากยมโลก ในตลาดขายโคมนานาชนิด ที่ทำเป็นรูปดอกบัวเรียกว่าปทุมมาลย์ประทีป ที่ทำเป็นรูปใบบัวเรียกปทุมบรรณประทีป ตกค่ำเด็กๆ รวมกันเป็นกลุ่มๆ ต่างถือโคมดอกบัว โคมใบบัวเดินไปตามถนนตรอกซอกซอยร้องว่า "โคมดอกบัว โคมดอกบัว จุดวันนี้ พรุ่งนี้โยน" บ้างก็เอาผลไม้มาปักธูปเทียนทั่วทั้งลูก เรียกว่าโคมธูปเทียนและใช้ไม้ยาวปักธูปเทียนเป็นรูปต้นไม้ โคมพวกนี้ทำให้ที่มืดมีแสงระยิบระยับราวหิ่งห้อยนับหมื่น เหมือนแสงผีทั่วพันลี้ น่าชมยิ่งนัก" การจุดโคมพราวพร่างระยิบระยับไปทั่วนี้ยังเป็นการเซ่นสรวงบรรพชน ขอให้พืชพรรณธัญญาหารสมบูรณ์อีกด้วย บางแห่งเอาธูปเทียนปักที่ดิน ยิ่งปักมากยิ่งดี เรียกว่า "ดำนา" เป็นเครื่องหมายว่าข้าวกล้างอกงามดี และเป็นการบูชาพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ผู้มีมหาปณิธานโปรดสัตว์ให้พ้นบาปหมดไปจากนรก ขอให้ท่านช่วยโปรดวิญญาณบรรพชนและเปตชนทั้งหลายให้พ้นนรก และอำนวยสุขสวัสดีแก่คนที่ยังมีชีวิตอยู่

การลอยโคมในอดีตมีทำตั้งแต่วัน ๑๓-๑๕ ค่ำ ในไต้หวันนิยมลอยวัน ๑๔ ค่ำ เพื่อส่องทางให้ผีขึ้นมารับการเซ่นไหว้ในวัน ๑๕ ค่ำ ในจีนบางแห่งลอย ๑๕ ค่ำ มีคำอธิบายว่าเมื่อผีได้รับการเซ่นไหว้และส่วนกุศลพ้นจากบาป แต่หาทางไปผุดไปเกิดไม่เจอ แสงโคมจากพิธีลอยโคมทำให้ผีเห็นภพภูมิที่จะไปเกิดได้ ความเชื่อนี้เกิดทีหลัง กล่าวโดยสรุปการลอยโคมเป็นการส่องทางให้ผี และคนก็ได้รับความสนุกสนานไปด้วย

หลังจากสิ้นราชวงศ์ชิงการลอยโคมเสื่อมตามเทศกาลสารทจีนไปด้วย ในจีนยังมีทำอยู่บ้างในบางถิ่น เช่น ที่อำเภอหนันจาง จังหวัดเซียงผาน มณฑลหูเป่ย ยังมีการลอยโคมในเทศกาลสารทจีน กลางวันมีการเล่น "แปรอักษรโคม" ก่อน โดยแบ่งเป็น ๒ ทีม ทุกคนถือโคม ทีม ก จะเอาโคมไปวางเรียงเป็นรูปตัวอักษรก่อน เช่น (อี-หนึ่ง) ทีม ข ต้องใช้อักษรนี้เป็นฐาน ต่อเติมหรือเปลี่ยนแปลงให้เป็นอักษรอื่น เช่น (เออว์-สอง) (ซาน-สาม) (เฟิง-อุดมสมบูรณ์) สลับกันไปมาเช่นนี้จนกว่าจะ "จน" แปรเป็นอักษรต่อไปไม่ได้ ทีมที่ "จน" เป็นผู้แพ้ ในไต้หวันแต่ก่อนทุกวัดมีพิธีลอยโคม แต่ปัจจุบันเหลือที่วัดหลงซานเพียงแห่งเดียว ส่วนในเมืองไทยไม่มีพิธีลอยโคมในเทศกาลสารทจีนเลย การลอยโคมไปทำในเทศกาลกินเจเดือน ๙
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ที่มาของการลอยโคมตำราบางเล่มว่า พุทธศาสนานำมาจากอินเดียสมัยราชวงศ์ถัง แต่บางเล่มก็ว่าน่าจะเกิดจากศาสนาเต๋า เพราะเต๋ามีประเพณีชักโคมบูชาดาวและเทพเทียนกวน (นภเสนา) ในวันเทศกาลหยวนเซียวกลางเดือนอ้ายมาก่อน กลางเดือน ๗ เป็นเทศกาลบูชาเทพตี้กวน (ธรณิศเสนา) จึงจุดโคมบูชาท่านบ้าง แต่ลอยลงน้ำแทนเพื่อส่องทางให้ผีขึ้นมาสู่โลกมนุษย์ รับเครื่องเซ่นสังเวยและ "การอภัยโทษ" จากเทพตี้กวน ทั้งพุทธ เต๋า เชื่อว่าน้ำเป็นทางเชื่อมหรือแดนต่อยมโลกกับมนุษยโลก ในคัมภีร์พุทธกล่าวว่ามีแม่น้ำชื่อ "ไน่เหอ ( )" กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับยมโลก ในพิธีอุลลัมพนสังฆทานจึงมีการลอยโคมเพื่อส่องทางให้ผีข้ามแม่น้ำไน่เหอด้วย การลอยโคมในวันสารทจีนคงมีมาตั้งสมัยราชวงศ์ถัง ถึงสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ มีบันทึกว่า "ราชสำนักส่งขันทีไปลอยโคมนับหมื่นดวง" ในวันนี้ สมัยราชวงศ์หยวนการลอยโคมแพร่หลายไปทั่วประเทศจีน มีบันทึกของคนร่วมสมัยกล่าวถึงประเพณีนี้ในเมืองหลวงว่า "เดือน ๗ วัน ๑๕ ค่ำ วัดต่างๆ จัดงานอุลลัมพนสังฆทาน ตอนค่ำลอยโคมลงแม่น้ำ เรียกว่า ลอยคงคาประทีป" เถียนยู่เฉิงบันทึกประเพณีนี้ในเมืองหางโจวสมัยนั้นไว้ว่า "วัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ เรียกว่าเทศกาลจงหยวน เล่าสืบกันมาว่าเป็นวันที่เทพตี้กวนประทานอภัยโทษ ผู้คนจะถือศีลกินเจ สวดมนต์อุทิศให้บรรพชนและผีทั้งหลายให้พ้นโทษภัย---พระสงฆ์จัดงานอุลลัมพนสั งฆทาน ลอยโคมในทะเลสาบซีหูและที่เจดีย์ แม่น้ำ เรียกว่า "ส่องยมโลก"" ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง การลอยโคมเป็นทั้งการบุญและงานรื่นเริงสนุกสนาน หนังสือ "จิงโตวเฟิงซู่จื้อ (บันทึกประเพณีเมืองหลวง)" กล่าวว่า "วัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ เป็นวันเทศกาลจงหยวน เล่าสืบกันมาว่าเป็นวันที่เทพตี้กวนประทานอภัยโทษ ผู้คนไปเซ่นไหว้บรรพชนที่สุสานเหมือนวันเช็งเม้ง พระสงฆ์สวดมนต์ทำพลีกรรม เผาเรือกระดาษเรียกว่า "ส่งธรรมนาวา" เชื่อว่าจะช่วยรับผีไม่มีญาติออกจากยมโลก ในตลาดขายโคมนานาชนิด ที่ทำเป็นรูปดอกบัวเรียกว่าปทุมมาลย์ประทีป ที่ทำเป็นรูปใบบัวเรียกปทุมบรรณประทีป ตกค่ำเด็กๆ รวมกันเป็นกลุ่มๆ ต่างถือโคมดอกบัว โคมใบบัวเดินไปตามถนนตรอกซอกซอยร้องว่า "โคมดอกบัว โคมดอกบัว จุดวันนี้ พรุ่งนี้โยน" บ้างก็เอาผลไม้มาปักธูปเทียนทั่วทั้งลูก เรียกว่าโคมธูปเทียนและใช้ไม้ยาวปักธูปเทียนเป็นรูปต้นไม้ โคมพวกนี้ทำให้ที่มืดมีแสงระยิบระยับราวหิ่งห้อยนับหมื่น เหมือนแสงผีทั่วพันลี้ น่าชมยิ่งนัก" การจุดโคมพราวพร่างระยิบระยับไปทั่วนี้ยังเป็นการเซ่นสรวงบรรพชน ขอให้พืชพรรณธัญญาหารสมบูรณ์อีกด้วย บางแห่งเอาธูปเทียนปักที่ดิน ยิ่งปักมากยิ่งดี เรียกว่า "ดำนา" เป็นเครื่องหมายว่าข้าวกล้างอกงามดี และเป็นการบูชาพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ผู้มีมหาปณิธานโปรดสัตว์ให้พ้นบาปหมดไปจากนรก ขอให้ท่านช่วยโปรดวิญญาณบรรพชนและเปตชนทั้งหลายให้พ้นนรก และอำนวยสุขสวัสดีแก่คนที่ยังมีชีวิตอยู่
การลอยโคมในอดีตมีทำตั้งแต่วัน ๑๓-๑๕ ค่ำ ในไต้หวันนิยมลอยวัน ๑๔ ค่ำ เพื่อส่องทางให้ผีขึ้นมารับการเซ่นไหว้ในวัน ๑๕ ค่ำ ในจีนบางแห่งลอย ๑๕ ค่ำ มีคำอธิบายว่าเมื่อผีได้รับการเซ่นไหว้และส่วนกุศลพ้นจากบาป แต่หาทางไปผุดไปเกิดไม่เจอ แสงโคมจากพิธีลอยโคมทำให้ผีเห็นภพภูมิที่จะไปเกิดได้ ความเชื่อนี้เกิดทีหลัง กล่าวโดยสรุปการลอยโคมเป็นการส่องทางให้ผี และคนก็ได้รับความสนุกสนานไปด้วย

หลังจากสิ้นราชวงศ์ชิงการลอยโคมเสื่อมตามเทศกาลสารทจีนไปด้วย ในจีนยังมีทำอยู่บ้างในบางถิ่น เช่น ที่อำเภอหนันจาง จังหวัดเซียงผาน มณฑลหูเป่ย ยังมีการลอยโคมในเทศกาลสารทจีน กลางวันมีการเล่น "แปรอักษรโคม" ก่อน โดยแบ่งเป็น ๒ ทีม ทุกคนถือโคม ทีม ก จะเอาโคมไปวางเรียงเป็นรูปตัวอักษรก่อน เช่น (อี-หนึ่ง) ทีม ข ต้องใช้อักษรนี้เป็นฐาน ต่อเติมหรือเปลี่ยนแปลงให้เป็นอักษรอื่น เช่น (เออว์-สอง) (ซาน-สาม) (เฟิง-อุดมสมบูรณ์) สลับกันไปมาเช่นนี้จนกว่าจะ "จน" แปรเป็นอักษรต่อไปไม่ได้ ทีมที่ "จน" เป็นผู้แพ้ ในไต้หวันแต่ก่อนทุกวัดมีพิธีลอยโคม แต่ปัจจุบันเหลือที่วัดหลงซานเพียงแห่งเดียว ส่วนในเมืองไทยไม่มีพิธีลอยโคมในเทศกาลสารทจีนเลย การลอยโคมไปทำในเทศกาลกินเจเดือน ๙
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ที่มาของการลอยโคมตำราบางเล่มว่า (นภเสนา) กลางเดือน 7 เป็นเทศกาลบูชาเทพตี้กวน (ธรณิศเสนา) จึงจุดโคมบูชาท่านบ้าง รับเครื่องเซ่นสังเวยและ "การอภัยโทษ" จากเทพตี้กวนทั้งพุทธเต๋า ในคัมภีร์พุทธกล่าวว่ามีแม่น้ำชื่อ "ไน่เหอ ()" กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับยมโลก ถึงสมัยราชวงศ์ซ่งใต้มีบันทึกว่า ในวันนี้ "เดือน 7 วัน 15 ค่ำวัดต่างๆจัดงานอุลลัมพนสังฆทานตอนค่ำลอยโคมลงแม่น้ำเรียกว่าลอยคงคาประทีป" "วันที่ 15 ค่ำเดือน 7 เรียกว่าเทศกาลจงหยวน ผู้คนจะถือศีลกินเจ งฆทานลอยโคมในทะเลสาบซีหูและที่เจดีย์แม่น้ำเรียกว่า "ส่องยมโลก" "ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง หนังสือ "จิงโตวเฟิงซู่จื้อ (บันทึกประเพณีเมืองหลวง)" กล่าวว่า "วันที่ 15 ค่ำเดือน 7 เป็นวันเทศกาลจงหยวน พระสงฆ์สวดมนต์ทำพลีกรรมเผาเรือกระดาษเรียกว่า "ส่งธรรมนาวา" ในตลาดขายโคมนานาชนิด ตกค่ำเด็ก ๆ รวมกันเป็นกลุ่มๆต่างถือโคมดอกบัว "โคมดอกบัวโคมดอกบัวจุดวันนี้พรุ่งนี้โยน" เหมือนแสงผีทั่วพันลี้น่าชมยิ่งนัก " บางแห่งเอาธูปเทียนปักที่ดินยิ่งปักมากยิ่งดีเรียกว่า "ดำนา" 13-15 ค่ำในไต้หวันนิยมลอยวัน 14 ค่ำ 15 ค่ำในจีนบางแห่งลอย 15 ค่ำ แต่หาทางไปผุดไปเกิดไม่เจอ ความเชื่อนี้เกิดทีหลัง ในจีนยังมีทำอยู่บ้างในบางถิ่นเช่นที่อำเภอหนันจางจังหวัดเซียงผานมณฑลหูเป่ยยังมีการลอยโคมในเทศกาลสารทจีนกลางวันมีการเล่น "แปรอักษรโคม" ก่อนโดยแบ่งเป็น 2 ทีม ทุกคนถือโคมทีมก เช่น (อี - หนึ่ง) ทีมขต้องใช้อักษรนี้เป็นฐาน เช่น (เออว์ - สอง) (ซาน - สาม) (เฟิง - อุดมสมบูรณ์) สลับกันไปมาเช่นนี้จนกว่าจะ "จน" แปรเป็นอักษรต่อไปไม่ได้ทีมที่ "จน" เป็นผู้แพ้ การลอยโคมไปทำในเทศกาลกินเจเดือน 9





การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ที่มาของการลอยโคมตำราบางเล่มว่าพุทธศาสนานำมาจากอินเดียสมัยราชวงศ์ถังแต่บางเล่มก็ว่าน่าจะเกิดจากศาสนาเต๋าเพราะเต๋ามีประเพณีชักโคมบูชาดาวและเทพเทียนกวน ( นภเสนา ) ในวันเทศกาลหยวนเซียวกลางเดือนอ้ายมาก่อน๗เป็นเทศกาลบูชาเทพตี้กวน ( ธรณิศเสนา ) จึงจุดโคมบูชาท่านบ้างแต่ลอยลงน้ำแทนเพื่อส่องทางให้ผีขึ้นมาสู่โลกมนุษย์รับเครื่องเซ่นสังเวยและ " การอภัยโทษ " จากเทพตี้กวนทั้งพุทธเต๋าในคัมภีร์พุทธกล่าวว่ามีแม่น้ำชื่อ " ไน่เหอ ( ) " กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับยมโลกในพิธีอุลลัมพนสังฆทานจึงมีการลอยโคมเพื่อส่องทางให้ผีข้ามแม่น้ำไน่เหอด้วย

การลอยโคมในวันสารทจีนคงมีมาตั้งสมัยราชวงศ์ถังถึงสมัยราชวงศ์ซ่งใต้มีบันทึกว่า " ราชสำนักส่งขันทีไปลอยโคมนับหมื่นดวง " ในวันนี้สมัยราชวงศ์หยวนการลอยโคมแพร่หลายไปทั่วประเทศจีน" เดือน๗ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า๑๕ค่ำวัดต่างๆจัดงานอุลลัมพนสังฆทานตอนค่ำลอยโคมลงแม่น้ำเรียกว่าลอยคงคาประทีป " เถียนยู่เฉิงบันทึกประเพณีนี้ในเมืองหางโจวสมัยนั้นไว้ว่า " ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า๑๕ค่ำเดือน๗เรียกว่าเทศกาลจงหยวนผู้คนจะถือศีลกินเจสวดมนต์อุทิศให้บรรพชนและผีทั้งหลายให้พ้นโทษภัย --- พระสงฆ์จัดงานอุลลัมพนสังฆทานลอยโคมในทะเลสาบซีหูและที่เจดีย์แม่น้ำเรียกว่า " ส่องยมโลก " ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง" จิงโตวเฟิงซู่จื้อ Back at ( บันทึกประเพณีเมืองหลวง ) " กล่าวว่า " ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า๑๕ค่ำเดือน๗เป็นวันเทศกาลจงหยวนเล่าสืบกันมาว่าเป็นวันที่เทพตี้กวนประทานอภัยโทษผู้คนไปเซ่นไหว้บรรพชนที่สุสานเหมือนวันเช็งเม้งเผาเรือกระดาษเรียกว่า " ส่งธรรมนาวา " เชื่อว่าจะช่วยรับผีไม่มีญาติออกจากยมโลกในตลาดขายโคมนานาชนิดที่ทำเป็นรูปดอกบัวเรียกว่าปทุมมาลย์ประทีปที่ทำเป็นรูปใบบัวเรียกปทุมบรรณประทีปตกค่ำเด็กๆรวมกันเป็นกลุ่มๆโคมใบบัวเดินไปตามถนนตรอกซอกซอยร้องว่า " โคมดอกบัวโคมดอกบัวจุดวันนี้พรุ่งนี้โยน " บ้างก็เอาผลไม้มาปักธูปเทียนทั่วทั้งลูกเรียกว่าโคมธูปเทียนและใช้ไม้ยาวปักธูปเทียนเป็นรูปต้นไม้เหมือนแสงผีทั่วพันลี้น่าชมยิ่งนัก " การจุดโคมพราวพร่างระยิบระยับไปทั่วนี้ยังเป็นการเซ่นสรวงบรรพชนขอให้พืชพรรณธัญญาหารสมบูรณ์อีกด้วยบางแห่งเอาธูปเทียนปักที่ดินยิ่งปักมากยิ่งดีเรียกว่า " ดำนา "และเป็นการบูชาพระกษิติครรภโพธิสัตว์ผู้มีมหาปณิธานโปรดสัตว์ให้พ้นบาปหมดไปจากนรกขอให้ท่านช่วยโปรดวิญญาณบรรพชนและเปตชนทั้งหลายให้พ้นนรกและอำนวยสุขสวัสดีแก่คนที่ยังมีชีวิตอยู่

การลอยโคมในอดีตมีทำตั้งแต่วัน๑๓ - ๑๕ค่ำในไต้หวันนิยมลอยวัน๑๔ค่ำเพื่อส่องทางให้ผีขึ้นมารับการเซ่นไหว้ในวัน๑๕ค่ำในจีนบางแห่งลอย๑๕ค่ำมีคำอธิบายว่าเมื่อผีได้รับการเซ่นไหว้และส่วนกุศลพ้นจากบาปแสงโคมจากพิธีลอยโคมทำให้ผีเห็นภพภูมิที่จะไปเกิดได้ความเชื่อนี้เกิดทีหลังกล่าวโดยสรุปการลอยโคมเป็นการส่องทางให้ผีและคนก็ได้รับความสนุกสนานไปด้วย

หลังจากสิ้นราชวงศ์ชิงการลอยโคมเสื่อมตามเทศกาลสารทจีนไปด้วยในจีนยังมีทำอยู่บ้างในบางถิ่นเช่นที่อำเภอหนันจางจังหวัดเซียงผานมณฑลหูเป่ยยังมีการลอยโคมในเทศกาลสารทจีนกลางวันมีการเล่น " แปรอักษรโคม " ก่อน๒ทีมทุกคนถือโคมทีม . จะเอาโคมไปวางเรียงเป็นรูปตัวอักษรก่อนเช่น ( อี - หนึ่ง ) ทีมขต้องใช้อักษรนี้เป็นฐานต่อเติมหรือเปลี่ยนแปลงให้เป็นอักษรอื่นเช่น ( เออว์ - สอง ) ( ซาน - สาม ) ( เฟิง - อุดมสมบูรณ์ )" จน " แปรเป็นอักษรต่อไปไม่ได้ทีมที่ " จน " เป็นผู้แพ้ในไต้หวันแต่ก่อนทุกวัดมีพิธีลอยโคมแต่ปัจจุบันเหลือที่วัดหลงซานเพียงแห่งเดียวส่วนในเมืองไทยไม่มีพิธีลอยโคมในเทศกาลสารทจีนเลยซ้งโคย
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: