In process theory typical patterns

In process theory typical patterns of events,
such as variation and selective retention, are
core theoretical constructs (Van de Ven & Poole,
1995). These archetypal stories are used to explain
surface patterns that we observe in our
data. In narrative theory these underlying narrative
structures are stories (Chatman, 1978;
Rimmon-Kenan, 1983) or fabula (Bal, 1985). They
reflect the deep structure of a narrative, and
they are used to explain and interpret the surface
structure, which is the text or the discourse
(Rimmon-Kenan, 1983). Usage of the term construct
has been honed by years of training and
experience with variance-based research (Mohr,
1982), so some readers may find this claim surprising.
Nonetheless, to say that stories are constructs
is not just a play on words. In narrative
theory stories are abstract conceptual models
used in explanations of observed data.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในรูปแบบปกติทฤษฎีกระบวนการของกิจกรรมเช่นรูปแบบและเลือกการรักษาหลักทฤษฎีโครงสร้าง (Van de Ven และ Poole1995) ใช้การอธิบายเรื่องราวเหล่านี้ archetypalรูปแบบที่เราสังเกตได้จากพื้นผิวของเราข้อมูล ในเล่าเรื่องทฤษฎีพื้นฐานเล่าเรื่องเหล่านี้โครงสร้างเป็นเรื่องราว (Chatman, 1978Rimmon-Kenan, 1983) หรือ fabula (ดุล 1985) พวกเขาสะท้อนโครงสร้างลึกของเรื่องเล่า และในการอธิบาย และตีความหมายพื้นผิวโครงสร้าง ซึ่งเป็นข้อความหรือวาท(คี Rimmon, 1983) การใช้งานของโครงสร้างระยะมีได้เฉียบคม โดยปีของการฝึกอบรม และพบกับผลต่างคะแนนวิจัย (Mohr1982), เพื่อให้ผู้อ่านบางส่วนอาจหาเรียกร้องนี้น่าแปลกใจกระนั้น จะบอกว่า เรื่องราวจะสร้างไม่ใช่เพียงการเล่นคำ ในการเล่าเรื่องมีเรื่องราวทฤษฎีแบบจำลองแนวคิดนามธรรมใช้ในคำอธิบายของข้อมูลที่สังเกต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในทางทฤษฎีกระบวนการรูปแบบตามแบบฉบับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เช่นการเปลี่ยนแปลงและการเก็บรักษาการคัดเลือกเป็น
โครงสร้างหลักทางทฤษฎี (แวนเดอเวนและพูล,
1995) เรื่องราวเหล่านี้เทพจะใช้ในการอธิบาย
รูปแบบพื้นผิวที่เราสังเกตของเรา
ข้อมูล ในทางทฤษฎีการเล่าเรื่องเหล่านี้อยู่ภายใต้การเล่าเรื่อง
โครงสร้างเรื่องราว (Chatman 1978;
ริมโมนคีนัน, 1983) หรือ Fabula (Bal, 1985) พวกเขา
สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างลึกของการเล่าเรื่องและ
พวกเขาจะใช้ในการอธิบายและตีความพื้นผิว
โครงสร้างซึ่งเป็นข้อความหรือวาทกรรมที่
(ริมโมนคีนัน, 1983) การใช้งานของโครงสร้างระยะ
ได้รับการฝึกฝนโดยปีของการฝึกอบรมและ
มีประสบการณ์กับการวิจัยแปรปรวน-based (Mohr,
1982) เพื่อให้ผู้อ่านบางคนอาจพบการเรียกร้องนี้น่าแปลกใจ.
อย่างไรก็ตามจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นโครงสร้างที่
ไม่ได้เป็นเพียงเล่นคำ ในการบรรยาย
เรื่องทฤษฎีมีรูปแบบความคิดนามธรรม
ที่ใช้ในคำอธิบายของข้อมูลที่สังเกต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในกระบวนการรูปแบบทฤษฎีทั่วไปของเหตุการณ์เช่นการเปลี่ยนแปลงและการรักษา คือหลักทฤษฎีโครงสร้าง ( แวนเดอเวน & พลู1995 ) เรื่องราวของเทพเหล่านี้ถูกใช้เพื่ออธิบายพื้นผิวลวดลายที่เราสังเกตในของเราข้อมูล ในทางทฤษฎีการเล่าเรื่อง เรื่องเล่าเหล่านี้เป็นต้นโครงสร้างเรื่องราว ( แช็ตเมิน , 1978 ;ริมโมน คีแนน , 1983 ) หรือแฟบูลา ( Bal , 1985 ) พวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างลึกของการเล่าเรื่อง และพวกเขาจะใช้ในการอธิบายและตีความของพื้นผิวโครงสร้างซึ่งเป็นข้อความหรือวาทกรรม( ริมโมน คีแนน , 1983 ) การใช้คำว่าสร้างได้ถูกฝึกฝนโดยปีของการฝึกอบรมและประสบการณ์กับความแปรปรวนจากงานวิจัย ( Mohr ,1982 ) เพื่อให้ผู้อ่านบางคนอาจพบการเรียกร้องนี้น่าแปลกใจอย่างไรก็ตาม กล่าวว่า เรื่องของโครงสร้างไม่ใช่แค่เล่นคำ ในการเล่าเรื่องเรื่องทฤษฎีมีความคิดแบบนามธรรมที่ใช้ในการอธิบายของข้อมูล .