So you think you want to a be a law

So you think you want to a be a lawyer…well, it’s not as easy or glamorous as popular television shows—like Ally McBeal and Law & Order—portray.

First and foremost, students can plan on studying for about 7.25 years: four years of undergraduate work, three more years for law school, and then three long, hard months of studying for the bar exam.


I personally don’t think any one undergraduate degree is best in preparing you for law school. Consider what type of law you’re interested in and focus on a degree in that particular field. Traditionally, liberal arts majors are precursors to law school; however, business backgrounds can be just as advantageous.

More important than what undergrad degree to obtain is the need to take college seriously and obtain a high GPA; the higher the GPA, the more likely to be accepted to law school.

Another factor for acceptance into law school is the LSAT exam. The LSAT is similar to the SAT, only on a higher level. A combination of a good LSAT score and a good GPA will ensure admittance into the law school of your choice and perhaps an opportunity to reduce the 7.25 years. Some schools offer 3/3 programs in which the last year of undergraduate school is actually the first year of law school. To be admitted to such programs, both GPA and
LSAT scores must be even higher.

Once in law school, there is an old adage that says the first year they scare you to death, the second year they work you to death, and the third year they bore you to death. For the most part this is true…all except for the third year. I wouldn’t consider the third year boring at all. You take a portion of the bar exam dealing with ethics called the MPRE, and you have the bar exam looming in the near future.

Overall, most of a law student’s time is spent reading. For every hour spent in class, one spends about two to three hours outside of class studying. Obtaining high grades in law school is very important, especially if you want job offers. The better your rank within the class, the better job opportunities you will get.

There are many job opportunities that a law degree can provide, but there are two things that students should consider before pursuing law school. First are the loans that come with getting the degree. Law school can cost about $90,000, which doesn’t include any costs incurred for undergraduate school. Second is that being a lawyer is not always as glamorous or exciting as it appears in movies like A Few Good Men or The Firm. Many attorneys spend most of their time outside of the courtroom researching and writing, not in high-profile trials.

Although this may appear to be a slightly negative point of view, I hope you have a better idea of what law school requires and what your future may entail. Always consider every point of view before making your final decision. Best of luck to you in planning your future.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดังนั้นคุณคิดว่า คุณต้องการเป็นทนายความ...ดี ไม่งามเป็นโทรทัศน์ยอดนิยม หรือกลายเป็น — ชอบแมคบีล ซี Ally กฎหมาย และสั่ง – วาดภาพ แรก และ สำคัญ นักเรียนสามารถวางแผนในการเรียนประมาณ 7.25 ปี: 4 ปีระดับปริญญาตรีทำงาน สามปีเพิ่มเติมสำหรับโรงเรียนกฎหมาย แล้วสามยาว เดือนยากเรียนแถบสอบได้ ผมเองไม่คิดว่า ปริญญาใดปริญญาหนึ่งดีสุดในการเตรียมคุณโรงเรียนกฎหมาย พิจารณาชนิดของกฎหมายคุณสนใจ และเน้นตัวในเฉพาะ ประเพณี ศิลปศาสตร์สาขาเอกมี precursors โรงเรียนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม พื้นหลังธุรกิจได้ประโยชน์เป็นเพียงสำคัญกว่าปริญญาใดปริญญาตรีจะได้รับจำเป็นต้องใช้วิทยาลัยอย่างจริงจัง และได้ GPA สูง ยิ่ง GPA ที่ว่าการยอมรับโรงเรียนกฎหมาย อีกหนึ่งปัจจัยสำหรับการยอมรับในโรงเรียนกฎหมายจะสอบ LSAT จะคล้ายกับ SAT, LSAT ที่ในระดับสูงขึ้น คะแนน LSAT ดีและ GPA เป็นดีจะให้ admittance เป็นโรงเรียนกฎหมาย ของทางเลือกของคุณ และอาจจะมีโอกาสลดปี 7.25 บางโรงเรียนมีโปรแกรม 3/3 ที่เรียนปริญญาตรีปีสุดท้ายเป็นจริงปีแรกของโรงเรียนกฎหมาย ไปในโปรแกรมดังกล่าว ทั้ง GPA และคะแนน LSAT ต้องสูงขึ้นเมื่อโรงเรียนกฎหมาย มีดิฉันเก่าว่าปีแรกจะตกใจคุณตาย ปีสองที่พวกเขาทำคุณตาย และปีที่สามพวกเขาแบกคุณตาย ส่วนใหญ่ก็...ทั้งหมดยกเว้นปีที่สาม จะไม่พิจารณาปีสามที่น่าเบื่อเลย คุณใช้ส่วนของแถบ จัดการสอบกับจริยธรรมที่เรียกว่า MPRE และคุณมีแถบสอบทำในอนาคตอันใกล้นี้ โดยรวม ส่วนใหญ่ของนักศึกษากฎหมายเวลาที่ใช้อ่าน สำหรับทุกชั่วโมงที่ใช้ในชั้นเรียน หนึ่งใช้ประมาณสองถึงสามชั่วโมงนอกชั้นเรียน รับเกรดสูงในโรงเรียนกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการให้งาน ที่ดีของคุณอันดับภายในคลาส ดีกว่างานโอกาสที่คุณจะได้รับมีโอกาสงานมากมายที่สามารถให้ปริญญากฎหมาย แต่มีสองสิ่งที่นักเรียนควรพิจารณาก่อนที่จะใฝ่หาโรงเรียนกฎหมาย ครั้งแรก เป็นเงินกู้ยืมที่มีการรับปริญญา เรียนกฏหมายสามารถต้นทุน ประมาณ $90,000 ซึ่งไม่รวมต้นทุนใด ๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนระดับปริญญาตรี สอง เป็นว่า ทนายความไม่เสมอเป็นเสน่ห์ หรือน่าตื่นเต้น ตามที่ปรากฏในภาพยนตร์เช่นกี่คนดีหรือบริษัท ทนายความหลายใช้เวลาส่วนใหญ่ของเวลานอก courtroom ทำการวิจัย และการ เขียน ไม่ทดลองทรงสูงถึงแม้ว่านี้อาจจะสามารถเป็นค่าลบเล็กน้อยมอง ฉันหวังว่า คุณมีความคิดที่ดีต้องเรียนกฏหมายอะไรและสิ่งที่อนาคตคุณอาจเป็นผู้อัน ให้พิจารณาทุกแง่มุมก่อนที่จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ส่วนของโชคให้คุณในการวางแผนอนาคตของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้นคุณคิดว่าคุณต้องการที่จะเป็นทนายความ ... ดีก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายหรือเป็นเสน่ห์โทรทัศน์ยอดนิยมแสดงให้เห็นเหมือนพันธมิตรนางแบบและ Law & Order-วาดภาพ. แรกและสำคัญที่สุดนักเรียนสามารถวางแผนในการศึกษาประมาณ 7.25 ปีสี่ปี ของการทำงานในระดับปริญญาตรีอีกสามปีสำหรับการเรียนกฎหมายแล้วสามยาวเดือนหนักของการศึกษาสำหรับการสอบบาร์. ผมเองไม่คิดว่าระดับปริญญาตรีหนึ่งที่ดีที่สุดในการเตรียมการสำหรับโรงเรียนกฎหมาย พิจารณาสิ่งที่ประเภทของกฎหมายที่คุณสนใจและมุ่งเน้นการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเฉพาะที่ ตามเนื้อผ้าสาขาวิชาศิลปศาสตร์เป็นสารตั้งต้นที่โรงเรียนกฎหมาย แต่ภูมิหลังทางธุรกิจสามารถเช่นเดียวกับที่ได้เปรียบ. และที่สำคัญกว่าสิ่งที่การศึกษาระดับปริญญาตรีจะได้รับความจำเป็นที่จะใช้วิทยาลัยอย่างจริงจังและได้รับเกรดเฉลี่ยสูง; เกรดเฉลี่ยที่สูงกว่าที่มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะได้รับการยอมรับไปโรงเรียนกฎหมาย. ปัจจัยการยอมรับในโรงเรียนกฎหมายก็คือการสอบครั้งสุดท้าย โหลดคล้ายกับ SAT, เพียง แต่ในระดับที่สูงขึ้น การรวมกันของคะแนนโหลดที่ดีและเกรดเฉลี่ยที่ดีจะช่วยให้อนุญาติเข้าไปในโรงเรียนกฎหมายของทางเลือกและบางทีอาจจะมีโอกาสที่คุณจะลด 7.25 ปี บางโรงเรียนมีโปรแกรมที่ 3/3 ในปีสุดท้ายของการเรียนระดับปริญญาตรีเป็นจริงในปีแรกของโรงเรียนกฎหมาย ที่จะเข้ารับการรักษาโปรแกรมดังกล่าวทั้งสองเกรดเฉลี่ยและคะแนนโหลดจะต้องสูงขึ้น. เมื่ออยู่ในโรงเรียนกฎหมายมีสุภาษิตโบราณที่ว่าปีแรกที่พวกเขาหลอนคุณไปสู่ความตายปีที่สองที่พวกเขาทำงานให้คุณไปสู่ความตายและคนที่สาม ปีที่พวกเขาเจาะคุณไปสู่ความตาย ส่วนใหญ่นี้เป็นจริง ... ทั้งหมดยกเว้นสำหรับปีที่สาม ฉันจะไม่พิจารณาน่าเบื่อปีที่สามเลย คุณใช้เวลาส่วนหนึ่งของการสอบบาร์จัดการกับจริยธรรมที่เรียกว่า MPRE ที่เป็นและคุณมีการสอบบาร์ looming ในอนาคตอันใกล้. โดยรวมมากที่สุดของเวลาเป็นนักศึกษากฎหมายจะใช้เวลาในการอ่าน สำหรับทุกชั่วโมงที่ใช้ในระดับหนึ่งใช้เวลาประมาณสองถึงสามชั่วโมงนอกชั้นเรียนการศึกษา ได้รับเกรดที่สูงในโรงเรียนกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการเสนองาน ที่ดีกว่าอันดับของคุณภายในชั้นเรียนที่ดีขึ้นโอกาสในการทำงานคุณจะได้รับ. มีโอกาสในการทำงานหลายอย่างที่ปริญญาทางกฎหมายสามารถให้มี แต่มีสองสิ่งที่นักเรียนควรพิจารณาก่อนการใฝ่หาโรงเรียนกฎหมาย ครั้งแรกเป็นเงินให้กู้ยืมที่มาพร้อมกับการได้รับการศึกษาระดับปริญญา โรงเรียนกฎหมายสามารถค่าใช้จ่ายประมาณ $ 90,000 ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนระดับปริญญาตรี ประการที่สองคือการเป็นทนายความไม่เคยเป็นเสน่ห์ที่น่าตื่นเต้นหรือตามที่ปรากฏในภาพยนตร์เช่นสักสองสามคนหรือ บริษัท ทนายความหลายคนใช้เวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาอยู่นอกห้องพิจารณาคดีค้นคว้าและการเขียนไม่ได้อยู่ในการทดลองสูงโปรไฟล์. แม้ว่านี้อาจปรากฏเป็นจุดลบเล็กน้อยในมุมมองของฉันหวังว่าคุณมีความคิดที่ดีในสิ่งที่โรงเรียนกฎหมายต้องและสิ่งที่คุณ ในอนาคตอาจนำมาซึ่งการ เสมอพิจารณามุมมองของทุกคนก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายของคุณ โชคดีที่สุดของคุณในการวางแผนในอนาคตของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้นคุณคิดว่าคุณต้องการที่จะเป็นทนายความ . . . . . . . แต่มันไม่ได้ง่ายหรือหรูหราเป็นโทรทัศน์ยอดนิยมแสดงเหมือนนางแบบกัน และกฎหมาย&เพื่อวาดภาพ

ก่อนอื่นนักเรียนสามารถวางแผนในการเรียนประมาณ 25 ปี : สี่ปีของการทำงานระดับปริญญาตรี ปี 3 โรงเรียนกฎหมายแล้วสามเดือนหนักยาว เรียนเพื่อสอบ


ผมเองไม่คิดว่าระดับปริญญาตรีหนึ่งใด ๆที่ดีที่สุดในการเตรียมคุณโรงเรียนกฎหมาย พิจารณาสิ่งที่ประเภทของกฎหมายที่คุณสนใจและมุ่งเน้นไปที่การศึกษาระดับปริญญาในสาขาที่เฉพาะเจาะจง ผ้า สาขาวิชาศิลปศาสตร์ เป็นสารตั้งต้นที่โรงเรียนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หลังธุรกิจสามารถเป็นเพียงเป็นประโยชน์

สำคัญกว่าสิ่งที่นักศึกษาปริญญาตรีปริญญาที่จะได้รับคือต้องใช้เวลาเรียนอย่างจริงจัง และได้รับคะแนนสูง ยิ่งสะสม ยิ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับการยอมรับในโรงเรียนกฎหมาย

อีกปัจจัยหนึ่งสำหรับการยอมรับในโรงเรียนกฎหมายคือการสอบ ISAT . ISAT คล้ายกับนั่งเฉพาะในระดับที่สูงขึ้นการรวมกันของคะแนน GPA ISAT ที่ดีและดี จะให้ยอมรับในโรงเรียนกฎหมายของทางเลือกของคุณและบางทีโอกาสที่จะลดจำนวนปี บางโรงเรียนมี 3 / 3 รายการ ซึ่งในช่วงปีสุดท้ายของโรงเรียนระดับปริญญาตรีเป็นปีแรกที่โรงเรียนกฎหมาย ที่จะเข้ารับการรักษาในโปรแกรมดังกล่าว ทั้งคะแนน GPA และ
ISAT ต้องสูงขึ้น

เมื่ออยู่ในโรงเรียนกฎหมายมีสุภาษิตโบราณที่บอกว่า ปีแรกที่พวกเขาทำให้คุณกลัวตาย ปีที่สอง ทำงาน คุณจะตาย และปีที่ 3 จะทำให้คุณเบื่อจะตายอยู่แล้ว สำหรับส่วนใหญ่นี้เป็นความจริงทั้งหมด . . . ยกเว้นปี 3 ผมจะไม่พิจารณาปี 3 ที่น่าเบื่อเลย คุณใช้เวลาส่วนใหญ่ของเด็กซิ่วที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมที่เรียกว่า mpre และคุณมีการสอบบาร์ looming ในอนาคตอันใกล้

โดยรวมส่วนใหญ่ของเวลาที่เป็นนักศึกษากฎหมาย จะใช้เวลาในการอ่าน สำหรับทุกชั่วโมง ใช้เวลาในชั้นเรียนหนึ่งใช้เวลาประมาณสองถึงสามชั่วโมง นอกชั้นเรียน ได้รับคะแนนสูงในโรงเรียนกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการให้งาน ดีกว่าอันดับภายในชั้น งานดี โอกาสที่คุณจะได้รับ

มีงานมากมายที่จบด้านกฎหมายสามารถให้แต่มีสองสิ่งที่นักเรียนควรพิจารณาก่อนที่จะใฝ่หา โรงเรียนกฎหมาย แรกคือเงินกู้ที่มาพร้อมกับได้รับปริญญา โรงเรียนกฎหมายสามารถค่าใช้จ่ายประมาณ $ 90 , 000 , ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนระดับปริญญาตรี . ที่สอง คือการเป็นทนายความอยู่เสมอไม่หรูหราหรือน่าตื่นเต้นตามที่ปรากฏในภาพยนตร์เช่นเพียงไม่กี่คนที่ดีหรือบริษัททนายความหลายคนใช้จ่ายส่วนใหญ่ของเวลาของพวกเขาที่อยู่นอกห้องพิจารณาคดีในการทดลองค้นคว้าและการเขียนไม่โด่ง

ถึงแม้ว่านี้อาจปรากฏขึ้นเป็นจุดลบเล็กน้อยในมุมมองของ , ฉันหวังว่าคุณมีความคิดที่ดีของสิ่งที่โรงเรียนกฎหมายต้องการและสิ่งที่ในอนาคตอาจจะครอบคลุม เสมอพิจารณาทุกมุมมองก่อนการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของคุณ ดีที่สุดของโชคกับคุณในการวางแผนอนาคต