Islam during the Life of Muhammad I

Islam during the Life of Muhammad
In 613 AD, Muhammad began declaring that he was receiving messages from God, and that he was a prophet in the same line of prophets as Jesus and Moses. At first the Pagan Arabs were tolerant and even curious about this new "prophet", they had a genuine interest in the monotheistic beliefs of the Jews and Christians and were willing to make room for another religious belief system in their society. It was not until Muhammad began insulting the traditional Pagan deities and insisting that the Pagan Arabs and their ancestors will burn in hell for eternity for worshiping false gods that they began to regard Muhammad and his followers with disdain. (Ibn Ishaq pg. 167) The Pagan Arabs placed a trade embargo on them, ridiculed Muhammad in public, and some of the slaves that had begun to follow Muhammad were beaten by their Pagan masters. To escape this persecution, Muhammad and his followers fled from Mecca to Medina in 622 AD, where they were welcomed by the local Pagan and Jewish tribes there.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อิสลามในช่วงชีวิตของมุหัมมัด ใน 613 AD มุหัมมัดเริ่มประกาศว่า เขาได้รับข้อความจากพระเจ้า และว่าเขาเป็นผู้เผยพระวจนะในบรรทัดเดียวกันของผู้เผยพระวจนะเป็นพระเยซูและ Moses เดิมที อาหรับพุกามได้ป้องกันความผิดพลาด และแม้อยากนี้ใหม่ "ผู้เผยพระวจนะ" จะมีดอกเบี้ยที่แท้จริงในความเชื่อของชาวยิวและชาวคริสต์ monotheistic และมีความเต็มใจที่จะทำระบบศาสนาอื่นในสังคมของพวกเขา ก็ไม่จนมุหัมมัดเริ่มดูหมิ่นเทวดาป่าเถื่อนแบบดั้งเดิม และ insisting ว่า อาหรับพุกามและบรรพบุรุษของพวกเขาจะเขียนในนรกสำหรับตลอด worshiping พระเจ้าปลอมที่พวกเขาเริ่มนำพามุหัมมัดและลูกศิษย์ของเขาปะปน กัน (บิน Ishaq pg. 167) อาหรับพุกามไว้ embargo ค้าเหล่านั้น เยาะเย้ยมุหัมมัดในที่สาธารณะ และบางส่วนของทาสที่ได้เริ่มทำตามมุหัมมัดถูกตี โดยต้นแบบของพวกเขาป่าเถื่อน หนีนี้เบียดเบียน มุหัมมัดและลูกศิษย์ของเขาหนีจากเมกกะไปเมดินาใน 622 AD ซึ่งพวกเขาก็ยินดี โดยเฉพาะชาวยิว และป่าเถื่อนชนเผ่ามี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศาสนาอิสลามในช่วงชีวิตของมูฮัมหมัด
ใน 613 AD, มูฮัมหมัดเริ่มประกาศว่าเขาได้รับข้อความจากพระเจ้าและว่าเขาเป็นผู้เผยพระวจนะในบรรทัดเดียวกันของผู้เผยพระวจนะเป็นพระเยซูและโมเสส ในตอนแรกชาวอาหรับอิสลามมีใจกว้างและแม้กระทั่งอยากรู้เกี่ยวกับใหม่นี้ "หมอดู" พวกเขามีความสนใจของแท้ในความเชื่อ monotheistic ของชาวยิวและชาวคริสต์และมีความยินดีที่จะให้ห้องพักสำหรับระบบความเชื่อทางศาสนาอื่นในสังคมของพวกเขา มันไม่ได้จนกว่ามูฮัมหมัดเริ่มดูถูกเทพดั้งเดิมอิสลามและยืนยันว่าชาวอาหรับอิสลามและบรรพบุรุษของพวกเขาจะเผาไหม้ในนรกนิรันดร์สำหรับการบูชาเทพเจ้าเท็จที่พวกเขาเริ่มที่จะเชื่อว่ามูฮัมหมัดและลูกน้องของเขาด้วยความรังเกียจ (อิบันอิสฮัก PG. 167) อาหรับอิสลามวางคว่ำบาตรการค้าที่พวกเขาเยาะเย้ยมูฮัมหมัดในที่สาธารณะและบางส่วนของทาสที่ได้เริ่มที่จะทำตามมูฮัมหมัดถูกตีโดยโทอิสลามของพวกเขา เพื่อหนีการประหัตประหารนี้มูฮัมหมัดและลูกน้องของเขาหนีออกมาจากเมกกะเมดินาใน 622 AD ที่พวกเขาได้รับการต้อนรับจากอิสลามท้องถิ่นและชนเผ่าชาวยิวมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศาสนาอิสลามในช่วงชีวิตของมุฮัมมัด
ในเรื่องโฆษณา มูฮัมหมัด เริ่มประกาศว่าเขาได้รับข้อความจากพระเจ้า และพระองค์เป็นศาสดาในบรรทัดเดียวกันของผู้พยากรณ์เป็นพระเจ้าและโมเสส ในตอนแรกของชาวอาหรับมีความทนทานและยังสงสัยเรื่องนี้ใหม่ " ศาสดา "พวกเขามีความสนใจของแท้ในความเชื่อเกี่ยวกับความเชื่อว่าพระเจ้ามีองค์เดียวของชาวยิว และชาวคริสต์ และเต็มใจที่จะให้ห้องอื่น ระบบในสังคม ความเชื่อทางศาสนาของพวกเขามันไม่ได้จนกว่ามุฮัมมัดเริ่มดูถูกแบบพุกาม deities และยืนยันว่าชาวอาหรับพุกามและบรรพบุรุษของพวกเขาจะถูกเผาในนรกนิรันดร์สำหรับบูชาพระเจ้าปลอมๆที่พวกเขาเริ่มที่จะพิจารณามูฮัมหมัดและผู้ติดตามของเขากับการดูถูก ( บน ishaq PG 167 ) ของชาวอาหรับที่วางค้าขายในพวกเขาเยาะเย้ยมูฮัมหมัดในที่สาธารณะและบางส่วนของทาสที่ได้เริ่มปฏิบัติตามมูฮัมหมัดถูกตีด้วยของพุกาม มาสเตอร์ เพื่อหนีการประหัตประหารนี้ มูฮัมหมัด และผู้ติดตามหนีไปจากเมกกะไปยัง Medina ใน 622 AD ที่พวกเขาได้รับการต้อนรับจากท้องถิ่นของชาวยิวและชนเผ่านั้น