A light-emitting diode (LED) is a t

A light-emitting diode (LED) is a two-lead semiconductor light source. It is a pn-junction diode, which emits light when activated.[4] When a suitable voltage is applied to the leads, electrons are able to recombine with electron holes within the device, releasing energy in the form of photons. This effect is called electroluminescence, and the color of the light (corresponding to the energy of the photon) is determined by the energy band gap of the semiconductor.

An LED is often small in area (less than 1 mm2) and integrated optical components may be used to shape its radiation pattern.[5]

Appearing as practical electronic components in 1962,[6] the earliest LEDs emitted low-intensity infrared light. Infrared LEDs are still frequently used as transmitting elements in remote-control circuits, such as those in remote controls for a wide variety of consumer electronics. The first visible-light LEDs were also of low intensity, and limited to red. Modern LEDs are available across the visible, ultraviolet, and infrared wavelengths, with very high brightness.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นไฟ–ไดโอดเปล่ง (LED) เป็นสารกึ่งตัวนำสองรอแสง ไดโอดเชื่อมต่อ pn ที่ emits แสงเมื่อเรียกใช้งานได้ [4] เมื่อใช้แรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมกับลูกค้าเป้าหมาย อิเล็กตรอนจะสามารถ recombine กับอิเล็กตรอนหลุมภายในอุปกรณ์ ปล่อยพลังงานในรูปแบบของ photons ลักษณะนี้เรียกว่า electroluminescence และสีของแสง (ที่สอดคล้องกับพลังงานของโฟตอน) เป็นไปตามช่องว่างแถบพลังงานของสารกึ่งตัวนำที่มักจะมีไฟ LED มีขนาดเล็กในพื้นที่ (น้อยกว่า 1 มม 2 ได้ภาย) และรวมแสงประกอบอาจใช้รูปร่างรูปแบบรังสี [5]ปรากฏเป็นปฏิบัติอิเล็กทรอนิกส์ใน 1962, [6] ไฟ Led สุดออกแสงอินฟราเรดความเข้มต่ำ Led อินฟราเรดยังมักใช้เป็นการส่งผ่านองค์ประกอบในวงจรควบคุมระยะไกล รีโมทคอนโทรลสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลากหลายนั้น ไฟ Led มองเห็นแสงแรกได้ยังความเข้มต่ำ และแดงจำกัด ไฟ Led ทันสมัยจะมีทั้งมองเห็น รังสีอัลตราไวโอเลต และอินฟราเรดความยาวคลื่น มีความสว่างสูงมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไดโอดเปล่งแสง (LED) เป็นสองนำแหล่งกำเนิดแสงเซมิคอนดักเตอร์ มันเป็นไดโอด PN-ทางแยกซึ่งเปล่งแสงเมื่อเปิดใช้งาน. [4] เมื่อแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมถูกนำไปใช้เพื่อนำไปสู่อิเล็กตรอนสามารถที่จะมีรู recombine อิเล็กตรอนภายในเครื่องปล่อยพลังงานในรูปของโฟตอน ผลกระทบนี้จะเรียกว่า electroluminescence และสีของแสง (ตรงกับการใช้พลังงานของโฟตอน) จะถูกกำหนดโดยช่องว่างแถบพลังงานของสารกึ่งตัวนำ. LED มักจะเป็นขนาดเล็กในพื้นที่ (น้อยกว่า 1 mm2) และองค์ประกอบแสงแบบบูรณาการอาจ ถูกนำมาใช้ในการสร้างรูปร่างรูปแบบของการฉายรังสี. [5] จะปรากฏเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในทางปฏิบัติในปี 1962 [6] ไฟ LED แรกที่ปล่อยออกมาเข้มต่ำแสงอินฟราเรด ไฟ LED อินฟราเรดยังคงใช้บ่อยเป็นองค์ประกอบที่ส่งสัญญาณในวงจรการควบคุมระยะไกลเช่นผู้ที่อยู่ในการควบคุมระยะไกลสำหรับหลากหลายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไฟ LED มองเห็นแสงแรกก็มีความเข้มต่ำและ จำกัด สีแดง ไฟ LED โมเดิร์นที่มีอยู่ในที่มองเห็นรังสีอัลตราไวโอเลตและความยาวคลื่นอินฟราเรดที่มีความสว่างสูงมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นไดโอดเปล่งแสง ( LED ) เป็นสองนำสารกึ่งตัวนำแสงแหล่งที่มา มันเป็น PN Junction ไดโอดที่เปล่งแสงเมื่อเปิด [ 4 ] เมื่อแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมใช้กับนัก อิเล็กตรอนสามารถแขกกับอิเล็กตรอนหลุมอุปกรณ์ภายใน ปล่อยพลังงานในรูปของโฟตอน . ผลนี้เรียกว่าเล็กโทรลูมิเนสเซนซ์ ,และสีของแสงที่พลังงานของโฟตอน ) ถูกกำหนดโดยช่องว่างแถบพลังงานของสารกึ่งตัวนำ

LED มักจะเป็นในพื้นที่ขนาดเล็ก ( น้อยกว่า 1 แน่น ) และส่วนประกอบแสงรวม อาจใช้รูปร่างรูปแบบรังสี [ 5 ]

ปรากฏเป็นจริงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในปี 1962 , [ 6 ] โดยไฟ LED ปล่อยออกมา low-intensity แสงอินฟราเรดไฟ LED อินฟราเรดยังมักใช้เป็นองค์ประกอบในการวงจรรีโมตคอนโทรล , เช่นผู้ที่อยู่ในการควบคุมระยะไกลสำหรับหลากหลายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภค ก่อนแสง LED ยังความเข้มต่ำและจำกัดแดง ไฟ LED ที่ทันสมัยพร้อมใช้งานข้ามอัลตราไวโอเลตมองเห็นและความยาวคลื่นอินฟราเรด มีความสว่างสูงมาก