Fig. 7 shows the MAPE of the conven

Fig. 7 shows the MAPE of the conventional method (where the
AECB in educational facilities was established based on the electricity
consumption of the previous year) and the proposed method
(which were developed by combining SARIMA and ANN) for
determining the AECB by educational facility. First, if the conventional
method was used (i.e., application of the observed electricity consumption in the previous year (2010)), the MAPEs for elementary,
middle, and high schools were 1.84%, 1.23%, and 1.75%,
respectively. Second, if the proposed method was used (i.e., application
of the predicted electricity consumption using the hybrid
model), the MAPEs for all three types of educational facilities were
less than 0.3% (i.e., elementary school: 0.24%, middle school: 0.11%,
and high school: 0.19%). Thus, it has been proved that the proposed
method enables executives and managers in charge of budget
planning to establish the AECB in educational facilities more
accurately, compared to the conventional method.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Fig. 7 แสดง MAPE ของวิธีการแบบเดิม (ที่AECB ในศึกษาก่อตั้งขึ้นตามการไฟฟ้าปริมาณการใช้ของปีก่อนหน้า) และวิธีการนำเสนอ(ซึ่งได้รับการพัฒนา โดยรวมสมถวิลและแอน) สำหรับกำหนด AECB โดยสถานศึกษา แรก ถ้าแบบธรรมดาวิธีใช้ (เช่น แอพลิเคชันของปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่พบในปีก่อนหน้านี้ (2010)), MAPEs สำหรับระดับประถมศึกษากลาง และสูงโรงเรียน คำ 1.84%, 1.23%, 1.75%ตามลำดับ ที่สอง ถ้ามีใช้วิธีการนำเสนอ (เช่น แอพลิเคชันปริมาณการใช้ไฟฟ้าเคลื่อนที่โดยใช้การผสมมี MAPEs ทั้งสามประเภทของสิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษารุ่น),น้อยกว่า 0.3% (เช่น ประถม: 0.24 โรงเรียน: 0.11%และมัธยม: 0.19%) ดังนั้น มันได้รับการพิสูจน์ที่นำเสนอวิธีช่วยให้ผู้บริหารและผู้จัดการรับผิดชอบงบประมาณวางแผนสร้าง AECB ที่ในการศึกษาเพิ่มเติมถูกต้อง เปรียบเทียบกับวิธีดั้งเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูป 7 แสดงให้เห็น MAPE ของวิธีการแบบเดิม (ที่
AECB
สิ่งอำนวยความสะดวกในการศึกษาก่อตั้งขึ้นบนพื้นฐานของการผลิตไฟฟ้าการบริโภคของปีก่อนหน้า) และวิธีการที่นำเสนอ
(ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยการรวม SARIMA และ ANN)
สำหรับการกำหนดAECB โดยสถานศึกษา แรกถ้าธรรมดาวิธีการที่ใช้ (เช่นการประยุกต์ใช้การใช้ไฟฟ้าพบว่าในปีที่ผ่านมา (2010)), เมฟิสสำหรับประถมกลางและโรงเรียนมัธยมเป็น1.84%, 1.23% และ 1.75% ตามลำดับ ประการที่สองหากวิธีการที่นำเสนอถูกนำมาใช้ (เช่นแอพลิเคชันของปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่คาดการณ์โดยใช้ไฮบริดรุ่น) เมฟิสสำหรับทั้งสามประเภทของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษามีน้อยกว่า 0.3% (เช่นโรงเรียนประถมศึกษา: 0.24%, โรงเรียนมัธยม: 0.11 % และโรงเรียนมัธยม: 0.19%) ดังนั้นจึงได้รับการพิสูจน์ว่าการเสนอวิธีการช่วยให้ผู้บริหารและผู้จัดการในค่าใช้จ่ายของงบประมาณการวางแผนที่จะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกAECB ในการศึกษามากขึ้นได้อย่างถูกต้องเมื่อเทียบกับวิธีการทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 7 แสดงให้เห็นค่าของวิธี ( ที่
AECB ในสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษาก่อตั้งขึ้นตามปริมาณการใช้ไฟฟ้า
ในปีก่อนหน้า ) และวิธีที่เสนอ
( ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยรวม sarima และแอน )
กำหนด AECB ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษา ก่อน ถ้าวิธีปกติ
ใช้ ( เช่นการประยุกต์ใช้และการใช้ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมา ( 2553 ) , เมปสำหรับประถมศึกษา
กลาง และโรงเรียนมัธยมเป็น 1.84% , 1.23 % และ 1.75 %
ตามลำดับ อย่างที่สอง ถ้าวิธีการที่ใช้ ( เช่น โปรแกรม
ของคาดการณ์ปริมาณการใช้ไฟฟ้าโดยใช้รูปแบบไฮบริด
) , เมปทั้งหมดสามประเภทของเครื่องศึกษา
น้อยกว่า 0.3 % ( เช่นระดับประถมศึกษา : 0.24 % มัธยมต้น : 0.11 %
และโรงเรียนมัธยม : 0.19 % ) ดังนั้น , มันได้ถูกพิสูจน์ว่าเสนอ
วิธีช่วยให้ผู้บริหารและผู้จัดการในค่าใช้จ่ายของการวางแผนงบประมาณ
สร้าง AECB •
ถูกต้องมากขึ้น เมื่อเทียบกับวิธีสอนแบบปกติ