3.1. FAME biodieselFatty-Acid Methy

3.1. FAME biodiesel
Fatty-Acid Methyl Esters or FAME is obtained from vegetable
oil or animal fats (bio-lipids) which have been transesterified
with an alcohol. The transesterification process is simply
described as the chemical breaking of fatty acids contained in
vegetable oils using alcohol to form alcohol esters and glycerol
targeting to lowering the viscosity and volatility of vegetable
oil. Although ethanol is the preferred alcohol for transesterification
due to its renewable biomass origin and lower toxicity level
methanol is most commonly used due to its price competitiveness
compared with other common alcohols such as ethanol
and isopropanol. This leads to the predominance of fatty acid
methyl esters (FAME)
FAME can be produced from many types of oils, the most
common being rapeseed oil (rapeseed methyl ester, RME) in
Europe and soybean oil (Soya methyl ester, SME) in the USA. In
the transesterification processes catalysts such as sodium or
potassium hydroxide are employed to convert vegetable oil and
methanol into FAME. Moreover, during transesterification undesirable
by-products (glycerine and water) are also formed. Byproducts
must be removed from the final product along with
methanol traces. FAME can be used in diesel engines where the
manufacturer approves such use but it is more often used as a mix
with conventional diesel
FAME biodiesel quality was standardized via international
standard methods such as ASTM and EN. In Europe, biodiesel
blended in diesel is mandatory in many countries and thus
available at many service stations. The world biodiesel production
output was estimated to be 11 million metric tonnes in the year
of 2008, which reached 20 million metric tonnes in 2010.
The main factor determining the current cost of biodiesel
production is the feedstock cost which can be as high as 88% of
the total production cost However, total production cost can
be greatly reduced by lowering the cost of feedstock with the use
of more economical alternatives such as waste fats or oils, which
however lower the FAME quality characteristics.
According to Table 1 FAME biodiesel has very good fuel
properties as a diesel substitute. Thus, the results show that
biodiesel can be used in a wide variety of applications. The
heating value of FAME biodiesel ranges between 37 and 40 MJ/
kg which meets the diesel standards. FAME biodiesel has density
ranging between 0.85–0.9 g/ml which also meets the diesel–
biodiesel international standards. Moreover, the sulphur content
of FAME biodiesel is very low. Furthermore, it has a good cetane
number (45–73), which indicates good auto-ignition quality. The
flash point of FAME biodiesel varies from 96 to 188 1C while it
presents a satisfactory CFPP (min 13 1C). It has very high water
content which shortens the life of fuel filters and affects negatively
the corrosion. Viscosity of FAME is also high, that provides
insufficient lubrication to diesel engines .

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.1 ไบโอดีเซลชื่อเสียงกรดไขมัน Methyl Esters หรือชื่อเสียงจะได้รับจากผักน้ำมันหรือไขมันสัตว์ (ไบโครงการ) ได้ transesterifiedมีแอลกอฮอล์ การเพิ่มนั้นเป็นสารเคมีที่ทำลายกรดไขมันที่มีอยู่ในน้ำมันพืชที่ใช้แอลกอฮอล์แอลกอฮอล์ esters และกลีเซอรกำหนดเป้าหมายการลดความหนืดและความผันผวนของผักน้ำมัน แม้ว่าเอทานอลเป็นแอลกอฮอล์ที่ต้องการเพิ่มชีวมวลทดแทนจุดเริ่มต้นและมีระดับความเป็นพิษของมักมีใช้เมทานอลเนื่องจากการแข่งขันราคาเมื่อเทียบกับ alcohols อื่น ๆ ทั่วไปเช่นเอทานอลและ isopropanol นี้นำไปเด่นของกรดไขมันmethyl esters (เฟม) ชื่อเสียงสามารถผลิตได้จากน้ำมัน หลายชนิดมากที่สุดทั่วไปถูกน้ำมันเรพซีด (เมล็ดต้นเรพ methyl เอส RME) ในยุโรปและถั่วเหลืองน้ำมัน (ถั่วเหลือง methyl เอส SME) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ในเพิ่มการประมวลผลสิ่งที่ส่งเสริมเช่นโซเดียม หรือโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์เป็นลูกจ้างเพื่อแปลงน้ำมันพืช และเมทานอลเป็นชื่อเสียง นอกจากนี้ ในระหว่างการเพิ่มผลนอกจากนี้ยังมีรูปสินค้าพลอย (กลีเซอรีนและน้ำ) พลอยต้องเอาออกจากผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายด้วยร่องรอยของเมทานอล ชื่อเสียงที่สามารถใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลซึ่งการผู้ผลิตอนุมัติใช้ดังกล่าว แต่มันมากมักใช้เป็นการผสมด้วยดีเซล เฟมไบโอดีเซลมีคุณภาพได้มาตรฐานผ่านอินเตอร์เนชั่นแนลวิธีการมาตรฐาน ASTM และน้ำ ในยุโรป ไบโอดีเซลผสมในดีเซลเป็นข้อบังคับในหลายประเทศจึงได้ที่สถานีบริการจำนวนมาก การผลิตไบโอดีเซลโลกผลผลิตถูกประมาณ 11 ล้านตันในปี2008 ซึ่งถึง 20 ล้านตันในปี 2553ปัจจัยหลักที่กำหนดต้นทุนปัจจุบันของไบโอดีเซลผลิตเป็นวัตถุดิบซึ่งอาจจะสูงถึง 88% ของต้นทุนรวมต้นทุนการผลิตอย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตสามารถจะลดลงอย่างมาก โดยลดต้นทุนของวัตถุดิบด้วยการใช้ทางเลือกที่ประหยัดมากขึ้นเช่นขยะไขมันหรือน้ำมัน ซึ่งอย่างไรก็ตาม ล่างลักษณะคุณภาพชื่อเสียงตามตาราง 1 เฟม ไบโอดีเซลมีราคาเชื้อเพลิงที่ดีคุณสมบัติทดแทนดีเซล ดังนั้น แสดงผลลัพธ์ที่ไบโอดีเซลสามารถใช้ในโปรแกรมประยุกต์ที่หลากหลาย ที่ความร้อนค่าของเฟมไบโอดีเซลช่วงระหว่าง 37 และ 40 MJ /กิโลกรัมซึ่งตรงตามมาตรฐานน้ำมันดีเซล เฟมไบโอดีเซลมีความหนาแน่นระหว่าง 0.85-0.9 g/ml ซึ่งยัง ตรงกับดีเซล –ไบโอดีเซลสากล นอกจากนี้ เนื้อหาซัลเฟอร์ชื่อเสียงของ ไบโอดีเซลจะต่ำมาก นอกจากนี้ มีซีเธนดีหมายเลข (45 – 73), ซึ่งบ่งชี้ถึงคุณภาพของระบบจุดระเบิดรถยนต์ที่ดี ที่จุดแฟลชเฟมไบโอดีเซลตั้งแต่ใน 96 ถึง 188 1C ขณะแสดง CFPP พอ (13 1C นาที) มีน้ำมากกรองเนื้อหาซึ่งช่วยประหยัดชีวิตของเชื้อเพลิง และมีผลในเชิงลบกัดกร่อน ความหนืดของเฟมก็สูง ที่แสดงหล่อลื่นไม่เพียงพอกับเครื่องยนต์ดีเซล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.1 FAME
ไบโอดีเซลกรดไขมันเมทิลเอสเตอร์หรือชื่อเสียงจะได้รับจากพืชน้ำมันหรือไขมันสัตว์
(ไบโอไขมัน) ซึ่งได้รับการ transesterified
กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระบวนการ transesterification เป็นเพียงการอธิบายว่าสารเคมีทำลายของกรดไขมันที่มีอยู่ในน้ำมันพืชที่ใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรูปแบบเอสเทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกลีเซอรีนกำหนดเป้าหมายที่จะลดความหนืดและความผันผวนของพืชน้ำมัน แม้ว่าเอทานอลเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ต้องการสำหรับ transesterification เนื่องจากที่มาชีวมวลทดแทนและระดับความเป็นพิษต่ำของเมทานอลเป็นที่ใช้กันมากที่สุดเนื่องจากความสามารถในการแข่งขันราคาของมันเมื่อเทียบกับแอลกอฮอล์ที่พบบ่อยอื่นๆ เช่นเอทานอลและisopropanol นี้นำไปสู่ความเด่นของกรดไขมันเมทิลเอสเตอร์ (FAME) FAME สามารถผลิตได้จากหลายชนิดของน้ำมันส่วนใหญ่ที่พบเป็นน้ำมันเรพซีด(rapeseed เมทิลเอสเตอร์, RME) ในยุโรปและน้ำมันถั่วเหลือง(ถั่วเหลืองเมทิลเอสเตอร์, SME) ใน สหรัฐอเมริกา. ในtransesterification กระบวนการเร่งปฏิกิริยาเช่นโซเดียมหรือโพแทสเซียมโซดาไฟที่ใช้ในการแปลงน้ำมันพืชและเมทานอลลงในFAME นอกจากนี้ในระหว่าง transesterification ที่ไม่พึงประสงค์โดยผลิตภัณฑ์(กลีเซอรีนและน้ำ) จะเกิดขึ้นนอกจากนี้ยังมี ผลพลอยได้จะต้องออกจากผลิตภัณฑ์ในขั้นสุดท้ายพร้อมกับร่องรอยเมทานอล FAME สามารถนำมาใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลที่ผลิตได้รับการอนุมัติใช้งานดังกล่าวแต่ก็มักจะถูกนำมาใช้มากขึ้นเป็นผสมกับน้ำมันดีเซลธรรมดาที่มีคุณภาพไบโอดีเซล FAME เป็นมาตรฐานระหว่างประเทศผ่านทางวิธีการมาตรฐานเช่นASTM และ EN ในยุโรปไบโอดีเซลผสมในน้ำมันดีเซลมีผลบังคับใช้ในหลายประเทศจึงให้บริการที่สถานีบริการจำนวนมาก ผลิตไบโอดีเซลโลกการส่งออกก็จะประมาณ 11 ล้านตันในปี 2008 ถึง 20 ล้านตันในปี 2010 ปัจจัยหลักที่ประเมินค่าใช้จ่ายในปัจจุบันของไบโอดีเซลที่ผลิตเป็นค่าใช้จ่ายวัตถุดิบที่สามารถจะสูงถึง 88% ของต้นทุนการผลิตรวมอย่างไรก็ตามต้นทุนการผลิตที่สามารถลดลงอย่างมากโดยการลดค่าใช้จ่ายของวัตถุดิบที่มีการใช้ทางเลือกที่ประหยัดมากขึ้นเช่นไขมันของเสียหรือน้ำมันซึ่งแต่ลดลักษณะคุณภาพชื่อเสียง. ตามตารางที่ 1 ไบโอดีเซล FAME มีมาก เชื้อเพลิงที่ดีคุณสมบัติแทนดีเซล ดังนั้นผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าไบโอดีเซลสามารถนำมาใช้ในหลากหลายของการใช้งาน ค่าความร้อนของน้ำมันไบโอดีเซล FAME ช่วงระหว่าง 37 และ 40 MJ / กก. ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานดีเซล ไบโอดีเซล FAME มีความหนาแน่นอยู่ระหว่าง0.85-0.9 กรัม / มล. ซึ่งตรงกับดีเซลไบโอดีเซลมาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังมีปริมาณกำมะถันไบโอดีเซล FAME ต่ำมาก นอกจากนี้ยังมีค่าซีเทนที่ดีจำนวน (45-73) ซึ่งบ่งชี้คุณภาพการจุดระเบิดอัตโนมัติที่ดี จุดวาบไฟของไบโอดีเซล FAME แตกต่างกันไป 96-188 1C ในขณะที่มันนำเสนอCFPP ที่น่าพอใจ (นาที 13 1C) แต่ก็มีน้ำสูงมากเนื้อหาที่น้อยลงชีวิตของตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงและส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการกัดกร่อน ความหนืดของ FAME ยังอยู่ในระดับสูงที่ให้การหล่อลื่นไม่เพียงพอที่จะเครื่องยนต์ดีเซล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.1 . ชื่อเสียงไบโอดีเซล
กรดไขมันเมทิลเอสเทอร์หรือชื่อเสียงที่ได้จากน้ำมันพืชหรือไขมันสัตว์ ( ไบโอ
ไขมัน ) ซึ่งมี transesterified
กับแอลกอฮอล์ ขั้นตอนกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นเป็นเพียง
อธิบายเป็นสารเคมีทำลายของกรดไขมันที่มีอยู่ในน้ำมันพืชใช้แอลกอฮอล์
รูปแบบเทอร์ แอลกอฮอล์ และกลีเซอรอล
เป้าหมายเพื่อลดความหนืด และการระเหยของน้ํามันพืช

แม้ว่าเอทานอลเป็นแอลกอฮอล์ที่ต้องการสำหรับกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่น
เนื่องจากที่มาของชีวมวลพลังงานทดแทน และลดระดับความเป็นพิษของเมทานอล
เป็นที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
เมื่อเทียบกับชนิดอื่น ๆทั่วไป เช่น เอทานอล และไอโซโพรพานอล
. ไปสู่ความเด่นของกรดไขมันเมทิลเอสเทอร์ ( ชื่อเสียง )

ชื่อเสียงสามารถผลิตได้จากหลายประเภทของน้ำมัน มากที่สุด
ทั่วไปน้ำมันเรพซีด ( Rapeseed เป็นเมทิลเอสเทอร์ , RME )
ยุโรปและน้ำมันถั่วเหลือง ( soya เมทิลเอสเทอร์ , SME ) ในสหรัฐอเมริกา
กระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นและกระบวนการเช่นโซเดียมหรือโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ เพื่อใช้แปลง

เมทานอลและน้ำมันพืชในชื่อเสียง นอกจากนี้ในระหว่างกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่น ( กลีเซอรีนและน้ำพลอยไม่พึงประสงค์
) นอกจากนี้ยังมีรูปแบบ ผลพลอยได้
จะต้องถูกลบออกจากผลิตภัณฑ์สุดท้ายพร้อมกับ
ร่องรอยเมทานอล ชื่อเสียงสามารถใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้เช่น
ผู้ผลิตอนุมัติ แต่มันบ่อย ๆ ใช้ผสมกับดีเซลธรรมดา

ชื่อเสียงไบโอดีเซลคุณภาพมาตรฐานผ่านทางวิธีการมาตรฐานสากล เช่น ASTM และ

. ในยุโรป , ไบโอดีเซลผสมในน้ำมันดีเซลเป็นข้อบังคับ

ในหลายประเทศ และดังนั้นจึงใช้ได้ที่สถานีบริการหลาย โลกผลิตไบโอดีเซล
ผลผลิตซึ่งเป็น 11 ล้านตันในปี
2008 ซึ่งถึง 20 ล้านตันในปี 2010
หลักปัจจัยค่าใช้จ่ายในปัจจุบันของการผลิตไบโอดีเซล
เป็นวัตถุดิบต้นทุน ซึ่งอาจจะสูงถึง 88 %
ต้นทุนการผลิตรวม อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิต
รวมสามารถจะลดลงอย่างมาก โดยการลดต้นทุนของวัตถุดิบ ด้วยการใช้
ทางเลือกประหยัดมากขึ้น เช่น ของเสีย ไขมันหรือน้ำมัน ซึ่ง
แต่ลดชื่อเสียงคุณลักษณะคุณภาพ .
ตามตาราง 1 ชื่อเสียงไบโอดีเซลมีคุณสมบัติเชื้อเพลิง
ดีมากเป็นดีเซลแทน ดังนั้น ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่า
ไบโอดีเซลสามารถใช้ในหลากหลายของการใช้งาน
ค่าความร้อนของชื่อเสียงไบโอดีเซลช่วงระหว่าง 37 และ 40 mJ /
กิโลกรัมซึ่งตรงกับดีเซลมาตรฐาน ชื่อเสียงไบโอดีเซลมีความหนาแน่น
ตั้งแต่ระหว่าง 0.85 – 0.9 g / ml ซึ่งยังตรงกับดีเซล–
ไบโอดีเซลมาตรฐานสากล นอกจากนี้ กำมะถันเนื้อหา
ชื่อเสียงของไบโอดีเซลจะมีน้อยมาก นอกจากนี้ จะมีค่าซีเทน
ดี ( 45 ( 73 ) ซึ่งบ่งชี้ว่า การจุดระเบิดรถยนต์คุณภาพเยี่ยม
จุดวาบไฟของไบโอดีเซลแตกต่างจาก 96 ในชื่อเสียง 188 1C ในขณะที่
ของขวัญ cfpp น่าพอใจ ( Min 13 1C ) มันมีสูงมาก น้ำ
เนื้อหาซึ่ง shortens ชีวิตของตัวกรองเชื้อเพลิง และผลกระทบในทางลบ
การกัดกร่อน ความหนืดของชื่อเสียงสูงที่ให้การหล่อลื่นไม่เพียงพอ

เครื่องยนต์ดีเซล