Marshall has developed the theory o

Marshall has developed the theory of how price influences customer’s behavior, called “Neoclassical Theory.” The theory states that customers have different tastes and preferences, and choose among products to maximize satisfaction or utility (Monroe & Lee, 1999). “Utility means want-satisfying power that resides in the mind of buyer and is common to all products and services…Since it is assumed that prices serve only to indicate the amount of money that buyers must give up to acquire a product, how much to acquire of a particular product depends on the relation between the marginal utility of acquiring an additional unit and the Price of that additional unit. Furthermore, the assumption of diminishing marginal utility implies that buyers are capable of ranking all alternatives in terms of increasing preference, and that they purchase first the most preferred product,” (Monroe, 1999).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาร์แชลล์ได้พัฒนาทฤษฎีของวิธีราคามีผลต่อพฤติกรรมของลูกค้า เรียกว่า "ทฤษฎีฟื้นฟูคลาสสิก" ทฤษฎีที่ระบุว่า ลูกค้ามีหลากหลายและการตั้งค่า และเลือกระหว่างผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความพึงพอใจหรืออรรถประโยชน์ (มอนโร & Lee, 1999) "หมายถึง อรรถประโยชน์ความพึงพอใจต้องการพลังงานที่อยู่ในจิตใจของผู้ซื้อ และทุกผลิตภัณฑ์และบริการ...เนื่องจากมีสมมุติว่า ราคาบริการเฉพาะให้ระบุจำนวนเงินที่ผู้ซื้อต้องให้ค่ากับซื้อผลิตภัณฑ์ จำนวนรับของผลิตภัณฑ์เฉพาะอย่างขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างอรรถประโยชน์กำไรที่ได้รับหน่วยเพิ่มเติมและราคาของหน่วยเพิ่มเติม นอกจากนี้ อัสสัมชัญของอรรถประโยชน์ส่วนเพิ่มลดลงหมายถึงผู้ซื้อจัดอันดับทางเลือกทั้งหมดในการเพิ่มความสามารถ และว่า พวกเขาซื้อก่อนผลิตภัณฑ์หลัก (มอนโร 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มาร์แชลได้พัฒนาทฤษฎีของพฤติกรรมการมีอิทธิพลต่อราคาของลูกค้าที่เรียกว่า "ทฤษฎีนีโอคลาสสิ." ทฤษฎีระบุว่าลูกค้ามีรสนิยมที่แตกต่างกันและการตั้งค่าและเลือกระหว่างผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความพึงพอใจหรือยูทิลิตี้ (มอนโรและลี, 1999) "ยูทิลิตี้หมายถึงต้องการน่าพอใจอำนาจที่อยู่ในใจของผู้ซื้อและเป็นเรื่องธรรมดาที่ผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมด ... เพราะมันจะสันนิษฐานได้ว่าราคาที่ทำหน้าที่เพียงเพื่อบ่งบอกถึงจำนวนเงินที่ผู้ซื้อจะต้องให้ขึ้นที่จะได้รับผลิตภัณฑ์ที่เท่าใด ได้รับของผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างอรรถประโยชน์ส่วนเพิ่มของการซื้อหน่วยเพิ่มเติมและราคาของหน่วยเพิ่มเติมที่ นอกจากนี้สมมติฐานของการลดลงยูทิลิตี้แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อที่มีความสามารถในการจัดอันดับทางเลือกทั้งหมดในแง่ของการตั้งค่าที่เพิ่มขึ้นและการที่พวกเขาซื้อครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการมากที่สุด "(มอนโร, 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาร์แชลได้พัฒนาทฤษฎีของวิธีการมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมราคาของลูกค้า เรียกว่า " ทฤษฎีนีโอคลาสสิก " ทฤษฎีระบุว่า ลูกค้าที่มีรสนิยมที่แตกต่างกันและการตั้งค่า และเลือกระหว่างผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความพึงพอใจหรืออรรถประโยชน์ ( มอนโร&ลี , 1999 )" หมายความว่าอรรถประโยชน์ต้องการเพียงอำนาจที่อยู่ในจิตใจของผู้ซื้อ และเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกผลิตภัณฑ์และบริการ . . . . . . . เพราะมันจะสันนิษฐานว่าราคาที่ให้บริการเท่านั้นที่จะระบุจำนวนเงินที่ผู้ซื้อต้องให้ซื้อผลิตภัณฑ์วิธีการได้มาของผลิตภัณฑ์เฉพาะมาก ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างอรรถประโยชน์เพิ่มรับหน่วยเพิ่มเติมและราคาเพิ่มเติมหน่วย นอกจากนี้ สมมติฐานของ diminishing marginal อรรถประโยชน์หมายความว่าผู้ซื้อมีความสามารถในการจัดอันดับทั้งหมดทางเลือกในแง่ของการเพิ่มความพึงพอใจและที่พวกเขาซื้อผลิตภัณฑ์แรกที่ต้องการมากที่สุด " ( มอนโร , 1999 )