With the typical new passenger vehi

With the typical new passenger vehicle costing more than $33,000, American drivers understandably want to do everything they can to preserve their investments.

And what better way to do that than by spending a few extra cents per gallon and occasionally treating your car to a tank of premium fuel?

Don’t do it. Unless one likes to unnecessarily enrich the oil companies, there is no reason to buy premium gasoline for a vehicle that needs only regular.

According to a report this week from AAA, 16.5 million drivers used premium fuel on average at least once a month over the last year, although their cars required only regular grade gasoline, accomplishing nothing positive and wasting $2.1 billion.

There are advantages to using brand-name fuels, whose detergents and additives can help engines run cleaner and last longer. (More on that below.)

But using a higher octane fuel than a vehicle’s owner’s manual specifies “provides no increase in fuel economy, horsepower or a reduction in emissions,” said Greg Brannon, the AAA’s director of automotive engineering.

Unless you have a high-performance car — like a BMW M3 or a Jaguar XF — whose engine is designed to require the use of higher octane gasoline, so-called premium gasoline, your engine will let you know if regular gas isn’t good enough.

How? By making a metallic pinging or knocking sound when you accelerate. If that doesn’t happen, feel free to fill your tank with the cheaper stuff. As the Federal Trade Commission’s website so succinctly states: “Unless your engine is knocking, buying higher octane gasoline is a waste of money.’’

Gasoline sold in the United States usually is available in three octane ratings: Regular gas is typically 87 octane, midgrade is 89 and premium might be 91 to 93.

The difference is not mere marketing. The higher the octane number, the greater the fuel’s resistance to detonation. Decades ago, that mattered. Using a lower octane fuel could often result in pinging or knocking because the fuel was igniting prematurely. Knocking is not good because it can cause premature engine wear.

In the 1960s, vehicle engines were so sensitive to knocking that one fuel company, Sunoco, offered eight octane grades at the pump. And the company produced a chart, second only to the periodic table of elements in complexity, to help drivers figure out which blend their make and model car required. (It being the ’60s, the only cars listed came from Detroit.)

Back then, too, gasoline also contained tetraethyl lead to dampen knocking and increase octane. But leaded gasoline, a neurotoxin and environmental hazard, was eventually outlawed.

Modern engines not only don’t need lead but have sophisticated antiknock technologies that sense a fuel’s octane rating and adjust their ignition timing to prevent damage.

A vehicle’s owner’s manual specifies the type of fuel required for proper performance, although it might also say that premium fuel is ‘‘recommended.’’

When premium fuel is merely recommended, there is no reason to use it instead of regular, according to Jake Fisher, Consumer Reports’ director of auto testing.

In its own experiments, Consumer Reports found that vehicles that “recommended” premium did not increase acceleration or fuel economy compared with regular gasoline.

At Ford Motor, all vehicles are designed to run on regular fuel, with the exception of high-performance models like the Mustang Shelby GT350 and the Focus RS, which have high-compression engines that burn hotter, said Steve Russ, the senior technical leader for internal combustion engines at Ford Global.

And at General Motors, premium gas is required only in vehicles like the Chevrolet Camaro ZL1 and the Corvette Z06, with their supercharged 6.2-liter V8 engines. Even the big Cadillac Escalade recommends, but does not require, premium fuel.

In fact, more than 90 percent of the company’s products are calibrated for regular gasoline, according to Bill Studzinski, G.M.’s engineering group manager for fuels. “We have always said, ‘Don’t put more octane in your tank than the owner’s manual requires,’” he said.

Ford and G.M. agreed that there was one exception: If a vehicle was used to pull a heavy load or operate in extremely dry conditions, “you might gain a little in performance” from premium, Mr. Studzinski said. “Generally, there’s not a big benefit.”

Right now, the best way to ensure that your car is getting its best fuel economy is to use gasoline that helps keep the engine clean. To maintain an engine’s life and performance, it is important to prevent deposits from building. Deposits can reduce fuel economy, cause hesitant starts and increase emissions.

But it is the quality of the fuel, not its octane rating, that matters. That is why the brand of gasoline you buy could make more of a difference than the octane grade.

While most gasoline is refined by a handful of major players, the quality depends on what ingredients are ad

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปกติผู้โดยสารรถใหม่คิดต้นทุน มากกว่า $33,000 ไดรเวอร์อเมริกันเข้าใจต้องการได้เพื่อรักษาเงินลงทุนของพวกเขาไม่และสิ่งที่ดีเพื่อทำมากกว่า โดยใช้กี่เสริมเซนต์ต่อแกลลอน และบางครั้งการรักษารถถังพรีเมี่ยมน้ำมันอย่าทำ ยกเว้นคนแก่บริษัทน้ำมันโดยไม่จำเป็น มีเหตุผลซื้อพรีเมี่ยมน้ำมันสำหรับยานพาหนะที่ต้องการปกติเท่านั้นตามรายงาน สัปดาห์นี้จาก AAA ไดร์เวอร์ 16.5 ล้านใช้พรีเมี่ยมน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนละครั้งอย่างน้อยปีสุดท้าย แม้ว่ารถจำเป็นต้องใช้เฉพาะน้ำมันเบนซินเกรดปกติ ทำอะไรเป็นบวก และเสีย $2.1 พันล้านมีการใช้เชื้อเพลิงยี่ห้อ ผงซักฟอกและสารสามารถช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานทำความสะอาด และนาน (เพิ่มเติมว่าด้านล่างนี้)แต่นสูงเชื้อเพลิงสูงกว่ารถยนต์คู่มือการใช้ระบุ "ให้เพิ่มขึ้นในการประหยัดน้ำมัน แรงม้า หรือลดมลพิษ กล่าวว่า Greg Brannon วิศวกรรมยานยนต์กรรมการของ AAAถ้าคุณไม่มีรถยนต์ประสิทธิภาพสูง — ชอบ BMW M3 หรือจากัวร์ XF เป็น — เครื่องยนต์ถูกออกแบบให้ต้องใช้น้ำมันเบนซินเรียกว่าพรีเมี่ยม เครื่องยนต์ เบนซินนสูงสูงจะแจ้งให้คุณทราบถ้าปกติก๊าซไม่ดีพออย่างไร โดยการทำให้โลหะ pinging หรือเคาะเสียงเมื่อ คุณเร่ง หากที่ไม่เกิดขึ้น รู้สึกฟรีเพื่อเติมถังของคุณสิ่งถูกกว่า เป็นเว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางแจ้งเพื่อให้รัดกุม: "ยกเว้นเครื่องยนต์ที่จะเคาะ ซื้อเบนซินนสูงสูงกว่าได้เสียเงิน ''น้ำมันเบนซินที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกามักจะมีในอันดับสามนสูง: ปกติก๊าซคือ 87 นสูง midgrade 89 และพรีเมี่ยมอาจจะ 91 93ความแตกต่างไม่ใช่เพียงการตลาด นสูงเลขสูง ความต้านทานมากขึ้นของเชื้อเพลิงระเบิด ทศวรรษที่ผ่านมา ที่เพลง ใช้เป็นเชื้อเพลิงนสูงต่ำมักจะเกี่ยวกับผลใน pinging หรือเคาะ เพราะถูกมอดเชื้อเพลิงก่อนกำหนด เคาะไม่ดีเนื่องจากมันสามารถทำให้เกิดการสึกหรอของเครื่องยนต์ก่อนวัยอันควรในปี 1960 เครื่องยนต์รถก็เพื่อให้ไวต่อเชื้อเพลิงหนึ่งบริษัท บริษัทซันโนโก้ เคาะเสนอแปดนสูงเกรดที่ปั๊ม และบริษัทผลิตแผนภูมิ สองเฉพาะกับตารางธาตุขององค์ประกอบในความซับซ้อน ช่วยควบคุมคิดออกซึ่งผสมผสานทำให้ตน และรุ่นรถที่ต้อง (มัน ' 60s รถยนต์เท่านั้นที่แสดงมาจากดีทรอยต์)กลับมาแล้ว เกินไป น้ำมันเบนซินยังประกอบด้วยทธิลชุบเคาะ และเพิ่มนสูง แต่ในที่สุดเป็น outlawed น้ำมันเบนซินมีสารตะกั่ว neurotoxin และอันตรายจากสิ่งแวดล้อมเครื่องยนต์ที่ทันสมัยไม่เพียงแต่ไม่ต้องรอ แต่พัฒนาเทคโนโลยี antiknock ที่รู้สึกคะแนนนสูงของเชื้อเพลิง และปรับเวลาการจุดระเบิดเพื่อป้องกันความเสียหายคู่มือรถระบุชนิดของเชื้อเพลิงที่จำเป็นสำหรับประสิทธิภาพที่เหมาะสม แม้ว่าคุณอาจจะพูดว่า น้ำมันพรีเมียม ''แนะนำ ''เมื่อเพียงแนะนำให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของพรีเมี่ยม มีเหตุผลเพื่อใช้แทนปกติ ตาม Jake Fisher กรรมการการทดสอบอัตโนมัติของรายงานของผู้บริโภคในการทดลองของตนเอง รายงานผู้บริโภคพบว่า รถยนต์ที่ "แนะนำ" พรีเมี่ยมไม่เพิ่มเศรษฐกิจเร่งหรือเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซินปกติที่ฟอร์ดมอเตอร์ ยานพาหนะทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อรันบนน้ำมันเชื้อเพลิงปกติ ยกเว้นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นการมัสแตง Shelby GT350 และ RS โฟกัส ซึ่งมีการบีบอัดสูงในเครื่องยนต์ที่เผาร้อน สตีฟ Russ ผู้นำอาวุโสด้านเทคนิคสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในในระดับโลกของฟอร์ดกล่าวและที่มอเตอร์ พรีเมี่ยมแก๊สจำเป็นต้องมีเฉพาะในยานพาหนะเช่นเชฟโรเลต Camaro ZL1 Z06 เรือลาดตระเวน กับเครื่องยนต์ V8 6.2 ลิตรซุปเปอร์ชาร์จ แม้คาดิลแลค Escalade ใหญ่แนะนำ แต่ไม่ ต้อง พรีเมี่ยมน้ำมันเชื้อเพลิงในความเป็นจริง มากกว่าร้อยละ 90 ของผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีการปรับเทียบสำหรับน้ำมันเบนซินปกติ ตามบิล Studzinski จีของกลุ่มผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมสำหรับเชื้อเพลิง เขากล่าวว่า "เราได้เสมอว่า 'ไม่ใส่นสูงเพิ่มเติมในถังของคุณมากกว่าที่ต้องการคู่มือ'Ford and G.M. agreed that there was one exception: If a vehicle was used to pull a heavy load or operate in extremely dry conditions, “you might gain a little in performance” from premium, Mr. Studzinski said. “Generally, there’s not a big benefit.”Right now, the best way to ensure that your car is getting its best fuel economy is to use gasoline that helps keep the engine clean. To maintain an engine’s life and performance, it is important to prevent deposits from building. Deposits can reduce fuel economy, cause hesitant starts and increase emissions.But it is the quality of the fuel, not its octane rating, that matters. That is why the brand of gasoline you buy could make more of a difference than the octane grade.While most gasoline is refined by a handful of major players, the quality depends on what ingredients are ad

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้วยแบบฉบับรถยนต์โดยสารใหม่มูลค่ากว่า $ 33,000 ไดรเวอร์อเมริกันเข้าใจต้องการที่จะทำทุกอย่างที่พวกเขาสามารถที่จะรักษาเงินลงทุนของพวกเขา.

และสิ่งที่วิธีที่ดีกว่าที่จะทำกว่าโดยการใช้จ่ายเซ็นต์พิเศษไม่กี่ต่อแกลลอนและบางครั้งการรักษารถของคุณไปยังถังของ น้ำมันเชื้อเพลิงพรีเมี่ยม?

ไม่ทำมัน เว้นแต่ใครชอบที่จะไม่จำเป็นประเทือง บริษัท น้ำมันที่มีเหตุผลที่จะซื้อน้ำมันเบนซินพิเศษสำหรับรถที่ต้องการปกติเพียง no.

ตามรายงานในสัปดาห์นี้จาก AAA, 16,500,000 คนขับรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงพรีเมี่ยมโดยเฉลี่ยอย่างน้อยเดือนละครั้งในช่วง ปีที่ผ่านมาถึงแม้ว่ารถของพวกเขาจำเป็นต้องใช้เฉพาะน้ำมันเบนซินเกรดปกติไม่มีอะไรประสบความสำเร็จในเชิงบวกและการสูญเสีย 2100000000 $.

มีข้อดีในการใช้เชื้อเพลิงแบรนด์เนมที่มีผงซักฟอกและสารเติมแต่งสามารถช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ทำความสะอาดและนานมี (เพิ่มเติมว่าด้านล่าง.)

แต่การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงออกเทนสูงกว่าคู่มือระบุเจ้าของยานพาหนะของ "ให้เพิ่มขึ้นในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงม้าหรือลดการปล่อยไม่มี" เกร็กน็ผู้อำนวยการของ AAA ของวิศวกรรมยานยนต์กล่าวว่า.

ถ้าคุณมี รถที่มีประสิทธิภาพสูง - เช่น BMW M3 หรือ Jaguar XF - มีเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อต้องใช้น้ำมันเบนซินออกเทนที่สูงขึ้นจึงเรียกว่าน้ำมันเบนซินพรีเมี่ยมเครื่องยนต์ของคุณจะช่วยให้คุณทราบว่าก๊าซปกติไม่ดีพอ.

ได้อย่างไร? โดยการกระตุกโลหะหรือเคาะเสียงเมื่อคุณเร่ง หากที่ไม่ได้เกิดขึ้นรู้สึกอิสระที่จะเติมถังของคุณกับสิ่งที่ถูกกว่า เป็นเว็บไซต์คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางเพื่อให้ชัดถ้อยชัดคำกล่าวว่า "เว้นแต่ว่าเครื่องมือของคุณจะเคาะซื้อน้ำมันเบนซินออกเทนสูงกว่าเสียเงิน ''.

น้ำมันที่ขายในสหรัฐอเมริกามักจะมีอยู่ในการจัดอันดับสามออกเทน: ก๊าซปกติโดยทั่วไปจะมีออกเทน 87, midgrade 89 และพรีเมี่ยมอาจจะมี 91 ถึง 93

ความแตกต่างไม่ได้เป็นเพียงการตลาด สูงกว่าค่าออกเทนที่มากขึ้นต้านทานน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะระเบิด ทศวรรษที่ผ่านมาที่สำคัญ การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงออกเทนต่ำกว่ามักจะได้ผลในการกระตุกหรือเคาะเนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกมอดก่อนเวลาอันควร เคาะไม่ดีเพราะอาจทำให้เกิดการสึกหรอของเครื่องยนต์ก่อนวัยอันควร.

ในทศวรรษที่ 1960, เครื่องยนต์รถจึงมีความไวต่อการเคาะว่า บริษัท น้ำมันเชื้อเพลิงหนึ่ง Sunoco เสนอแปดเกรดออกเทนที่ปั๊ม และ บริษัท ผลิตแผนภูมิที่สองเท่านั้นที่ตารางธาตุในความซับซ้อนที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่คิดออกซึ่งผสมผสานทำและรูปแบบของพวกเขาจำเป็นต้องใช้รถ (มันเป็นยุค 60 คันเท่านั้นจดทะเบียนมาจากดีทรอยต์.)

กลับมาแล้วอีกด้วยน้ำมันเบนซินยังมี tetraethyl นำไปสู่การลดการเคาะและเพิ่มค่าออกเทน แต่น้ำมันเบนซินที่มีสารตะกั่วเป็น neurotoxin และเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในที่สุดก็มีกรรม.

เครื่องมือที่ทันสมัยไม่เพียง แต่ไม่จำเป็นต้องนำ แต่มีเทคโนโลยีหมวกที่มีความซับซ้อนความรู้สึกที่คะแนนออกเทนเชื้อเพลิงและปรับเวลาการเผาไหม้ของพวกเขาเพื่อป้องกันความเสียหาย.

คู่มือการใช้ยานพาหนะของของระบุชนิด ของน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำเป็นสำหรับการทำงานที่เหมาะสมแม้ว่ามันอาจจะบอกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงพรีเมี่ยม '' แนะนำ ''.

เมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงพรีเมี่ยมจะแนะนำเพียงมีเหตุผลที่จะใช้แทนปกติไม่มีตามที่เจคฟิชเชอร์ผู้อำนวยการรายงานของผู้บริโภคของ การทดสอบอัตโนมัติ.

ในการทดลองของตัวเองรายงานของผู้บริโภคพบว่ายานพาหนะที่ "แนะนำ" พรีเมี่ยมไม่ได้ปรับขึ้นอัตราเร่งหรือการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซินปกติ.

ฟอร์ดมอเตอร์ยานพาหนะทั้งหมดจะถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงปกติยกเว้นสูง รุ่นประสิทธิภาพเช่น Mustang Shelby GT350 และโฟกัส RS ซึ่งมีเครื่องมือการบีบอัดสูงที่เผาร้อนสตีฟรัสซึ่งเป็นผู้นำทางเทคนิคอาวุโสสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในฟอร์ดทั่วโลก. กล่าว

และใน General Motors, ก๊าซพรีเมี่ยมจะต้องเฉพาะในยานพาหนะ เช่นเชฟโรเลต Camaro ZL1 และ Corvette Z06 กับซูเปอร์เครื่องยนต์ V8 6.2 ลิตรของพวกเขา แม้บิ๊ก Cadillac Escalade แนะนำ แต่ไม่จำเป็นต้องเชื้อเพลิงพรีเมี่ยม.

ในความเป็นจริงมากกว่าร้อยละ 90 ของผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ฯ มีการปรับเทียบสำหรับน้ำมันเบนซินปกติตามบิล Studzinski วิศวกรรมผู้จัดการกลุ่มจีเอ็มสำหรับเชื้อเพลิง "เราได้พูดเสมอว่า 'อย่าใส่ออกเทนมากขึ้นในถังของคุณกว่าคู่มือการใช้ต้อง'" เขากล่าว.

ฟอร์ดและจีเอ็มตกลงกันว่ามีข้อยกเว้น: ถ้ารถถูกใช้ในการดึงภาระหนักหรือทำงานใน สภาพแห้งมาก "คุณอาจได้รับการเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการปฏิบัติงาน" พรีเมี่ยมจากนาย Studzinski กล่าวว่า "โดยทั่วไปมีไม่เป็นประโยชน์ใหญ่."

ตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่ารถของคุณจะได้รับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดคือการใช้น้ำมันเบนซินที่ช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด เพื่อรักษาชีวิตของเครื่องยนต์และประสิทธิภาพการทำงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้เงินฝากจากการสร้าง เงินฝากสามารถลดการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดความลังเลที่จะเริ่มต้นและเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจก.

แต่มันเป็นคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ได้คะแนนออกเทนของเรื่องที่ นั่นคือเหตุผลที่แบรนด์ของน้ำมันเบนซินที่คุณจะซื้อจะทำให้มากขึ้นของความแตกต่างกว่าเกรดออกเทน.

ในขณะที่น้ำมันเบนซินมากที่สุดคือการกลั่นโดยกำมือของผู้เล่นคนสำคัญที่มีคุณภาพขึ้นอยู่กับสิ่งที่มีส่วนผสมโฆษณา