RATIONALE Land requirement for coun

RATIONALE
Land requirement for country development tends to increase since land is a basic factor
necessary for production process both in and outside of the agricultural sector. Land is a limited
factor. Consequently, the area expansion of an activity often affects another and has a relatively
serious competition in terms of needs to acquire a land without any considerations or
evaluations of land potentials whether it is suitable for the needed activity or not. As a result,
land miuse to scatter everywhere. The Department of Land Development (LDD) whose
responsibility is taking care of land use for agricultural purposes, always realize the problems
arisen. Therefore, land use plans in the national, regional, provincial, and village levels are
conducted (LDD, 1993). However, land use plan that has been made before is not applicable in
some situations since it is not updated, especially information concerning land requirement for
agricultural purpose due to the fact that most farmers tend to grow crops in response to market
price. Conducting an achievable land use plan requires updated information much enough to
support the plan making. Therefore, land use planning is mainly a process of analysis or
evaluation to find the area most suitable to or potential for a defined activity. To do this, it is
necessary to examine the relationship between land information, land use, and economic aspects
to match the land requirement (LDD, 1993). The mentioned information is processed from sets
of information in the area and such information is complex or varied according to the area. It
takes quite a long time to make a plan. Thus, land use plan creation can hardly respond to the
changing situations. Nowadays, computer technology either hardware or software is more
efficient. Many systems have been developed, including Geographic Information System or GIS. It is capable of systemically storing and analyzing either spatial data or non-spatial data of
a great amount. Furthermore, GIS is flexible and lets the operators create models of a situation
they need. Therefore, applying GIS in land evaluation to provide fundamental information
supporting in decision making on land use plan seems to be able to reduce problems caused by
improper land use mentioned above. The objective of this study was to create spatial
information on the suitability of land for economic crops and for agricultural land use planning

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหตุผล มีแนวโน้มความต้องการที่ดินเพื่อการพัฒนาประเทศที่ เพิ่มขึ้นเนื่องจากที่ดินเป็นปัจจัยพื้นฐานจำเป็นสำหรับกระบวนการผลิตทั้งใน และ นอกภาคการเกษตร ที่ดินมีจำกัดปัจจัย ดังนั้น การขยายพื้นที่ของกิจกรรมมักจะมีผลต่ออีก และมีค่อนข้างแข่งขันที่รุนแรงในแง่ของความต้องการซื้อที่ดิน โดยไม่มีข้อพิจารณา หรือการประเมินศักยภาพที่ดินว่าเหมาะสำหรับกิจกรรมที่จำเป็น หรือไม่ เป็นผลที่ดิน miuse กระจัดกระจายทุก แผนกของที่ดินพัฒนา (LDD) ที่มีความรับผิดชอบคือการดูแลการใช้ที่ดินการเกษตร เสมอตระหนักถึงปัญหาเกิดขึ้น ดังนั้น มีแผนการใช้ที่ดินในระดับชาติ ภูมิภาค จังหวัด และหมู่บ้านดำเนินการ (LDD, 1993) อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถใช้แผนการใช้ที่ดินที่ทำการก่อนบางสถานการณ์เนื่องจากไม่ได้ปรับปรุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวกับความต้องการที่ดินสำหรับวัตถุประสงค์ทางการเกษตรเนื่องจากความจริงที่ว่าเกษตรกรส่วนใหญ่มักจะ ปลูกพืชผลในตลาดราคา ทำแผนการใช้ที่ดินทำได้ต้องมีการปรับปรุงข้อมูลมากพอจะสนับสนุนการทำแผน ดังนั้น วางแผนการใช้ที่ดินเป็นส่วนใหญ่กระบวนการวิเคราะห์ หรือการประเมินผลเพื่อหาพื้นที่เหมาะสมที่สุด หรืออาจมีกิจกรรมที่กำหนด การทำเช่นนี้ มันเป็นจำเป็นต้องตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่ดิน ใช้ที่ดิน และด้านเศรษฐกิจให้ตรงกับความต้องการที่ดิน (LDD, 1993) ประมวลผลข้อมูลดังกล่าวจากชุดข้อมูลในพื้นที่และข้อมูลซับซ้อน หรือแตกต่างกันตามพื้นที่ มันใช้เวลาค่อนข้างนานในการทำแผน ดังนั้น การสร้างแผนการใช้ที่ดินสามารถแทบไม่ตอบสนองต่อการการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ในปัจจุบัน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์มีมากขึ้นที่มีประสิทธิภาพ ระบบต่าง ๆ ได้รับการพัฒนา รวมถึงระบบข้อมูลทางภูมิศาสตร์หรือ GIS มีความสามารถในการเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่หรือข้อมูลที่ไม่ใช่เชิงพื้นที่ของ systemicallyจำนวนเงินดี นอกจากนี้ GIS มีความยืดหยุ่น และช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างแบบจำลองจากสถานการณ์พวกเขาต้องการ ดังนั้น การใช้ GIS ในการประเมินที่ดินเพื่อให้ข้อมูลพื้นฐานสนับสนุนในการตัดสินใจในแผนการใช้ที่ดินน่าจะสามารถลดปัญหาที่เกิดจากการใช้ที่ดินไม่เหมาะสมดังกล่าวข้างต้น วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ สร้างพื้นที่ข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของที่ดิน สำหรับพืชเศรษฐกิจ และวางแผนการใช้ที่ดินทางการเกษตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักการและเหตุผล
ความต้องการที่ดินเพื่อการพัฒนาประเทศมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ที่ดินเป็นปัจจัยพื้นฐาน
ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการผลิตทั้งในและนอกภาคเกษตร ที่ดิน จำกัด
ปัจจัย ดังนั้นการขยายพื้นที่ของกิจกรรมมักจะส่งผลกระทบต่อคนอื่น ๆ และมีค่อนข้าง
การแข่งขันที่รุนแรงในแง่ของความต้องการที่จะได้รับการพิจารณาที่ดินโดยไม่ต้องใด ๆ หรือ
การประเมินศักยภาพของที่ดินไม่ว่าจะเป็นที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมที่จำเป็นหรือไม่ เป็นผลให้
miuse ที่ดินที่จะกระจายทุกที่ กรมพัฒนาที่ดิน (LDD) ที่มี
ความรับผิดชอบคือการดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรเสมอตระหนักถึงปัญหา
ที่เกิดขึ้น ดังนั้นแผนการใช้ที่ดินในระดับชาติระดับภูมิภาคจังหวัดและระดับหมู่บ้านได้รับการ
ดำเนินการ (LDD, 1993) อย่างไรก็ตามแผนใช้ที่ดินที่ได้รับการทำก่อนที่จะไม่สามารถใช้ได้ใน
บางสถานการณ์ตั้งแต่ยังไม่ได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการที่ดินเพื่อ
วัตถุประสงค์ทางการเกษตรเนื่องจากความจริงที่ว่าเกษตรกรส่วนใหญ่มักจะปลูกพืชในการตอบสนองต่อตลาด
ราคา การดำเนินการแผนใช้ที่ดินทำได้ต้องมีการปรับปรุงข้อมูลมากพอที่จะ
สนับสนุนการทำแผน ดังนั้นการวางแผนการใช้ที่ดินส่วนใหญ่เป็นขั้นตอนของการวิเคราะห์หรือ
ประเมินผลเพื่อหาพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดหรือมีศักยภาพสำหรับกิจกรรมที่กำหนดไว้ การทำเช่นนี้มันเป็น
สิ่งจำเป็นในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่ดินการใช้ที่ดินและด้านเศรษฐกิจ
เพื่อให้ตรงกับความต้องการที่ดิน (LDD, 1993) ข้อมูลที่กล่าวถึงการประมวลผลจากชุด
ของข้อมูลในพื้นที่และข้อมูลดังกล่าวมีความซับซ้อนหรือแตกต่างกันไปตามพื้นที่ มัน
ใช้เวลาค่อนข้างนานในการจัดทำแผน ดังนั้นการใช้ที่ดินการสร้างแผนแทบจะไม่สามารถตอบสนองต่อ
สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์มากขึ้น
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบจำนวนมากได้รับการพัฒนารวมถึงระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์หรือ GIS มันเป็นความสามารถในการมีระบบการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือข้อมูลที่ไม่ใช่เชิงพื้นที่
จำนวนมาก นอกจากนี้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์มีความยืดหยุ่นและช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างรูปแบบของสถานการณ์
ที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นการใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในการประเมินที่ดินที่จะให้ข้อมูลพื้นฐาน
ในการสนับสนุนการตัดสินใจในการวางแผนการใช้ที่ดินดูเหมือนว่าจะสามารถที่จะลดปัญหาที่เกิดจาก
การใช้ที่ดินที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวข้างต้น วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้คือการสร้างอวกาศ
ข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของที่ดินสำหรับพืชเศรษฐกิจและการวางแผนการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เหตุผลความต้องการที่ดินเพื่อการพัฒนาประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ดินเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับกระบวนการผลิต ทั้งในและนอกภาคเกษตร ที่ดิน เป็น จำกัดปัจจัย ดังนั้น การขยายตัวของพื้นที่กิจกรรมมักจะมีผลกระทบต่อคนอื่น และค่อนข้างการแข่งขันที่รุนแรงในแง่ของความต้องการที่จะได้รับที่ดินโดยไม่มีการพิจารณา หรือการประเมินศักยภาพที่ดิน ว่ามีความเหมาะสมกับกิจกรรมที่จำเป็นหรือไม่ ผลที่ดิน miuse ที่จะกระจายอยู่ทุกที่ กรมพัฒนาที่ดิน ( ldd ) ของใครรับผิดชอบดูแลการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร เสมอตระหนักถึงปัญหาขึ้น ดังนั้น แผนการใช้ที่ดินในระดับประเทศ ภูมิภาค จังหวัด และระดับหมู่บ้านวัตถุประสงค์ ( ldd , 1993 ) อย่างไรก็ตาม แผนการใช้ที่ดินที่ได้รับการทำก่อนที่จะไม่สามารถใช้ได้ในบางสถานการณ์ เพราะมันไม่มีข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับที่ดิน ความต้องการสำหรับการเกษตร วัตถุประสงค์ เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่มักจะปลูกพืชที่ตอบสนองต่อตลาดราคา ทำการวางแผนการใช้ที่ดินได้ต้องมีการปรับปรุงข้อมูลมากพอสนับสนุนการวางแผนการทํา ดังนั้น การวางแผนการใช้ที่ดินเป็นหลักกระบวนการของการวิเคราะห์ หรือการประเมินหาพื้นที่ที่เหมาะสมมากที่สุด หรือศักยภาพในการกำหนดกิจกรรม ทำแบบนี้ มันคือการใช้ที่ดินจำเป็นที่จะศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่ดิน และด้านเศรษฐกิจเพื่อให้ตรงกับความต้องการที่ดิน ( ldd , 1993 ) กล่าวถึงข้อมูลประมวลผลจากชุดข้อมูลในพื้นที่ และข้อมูลดังกล่าวมีความซับซ้อนและแตกต่างกันตามพื้นที่ มันใช้เวลาค่อนข้างนานเพื่อให้แผน ดังนั้น การสร้างแผนการใช้ที่ดินแทบจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติมที่มีประสิทธิภาพ หลายระบบได้ถูกพัฒนาขึ้น ได้แก่ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ หรือ GIS . มันมีความสามารถในการมีระบบการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งเชิงพื้นที่หรือข้อมูลที่ไม่ใช่เชิงพื้นที่ของจำนวนมาก นอกจากนี้ การยืดหยุ่น และช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างแบบจำลองสถานการณ์ที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นการใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในการประเมินที่ดินให้ข้อมูลพื้นฐานสนับสนุนการตัดสินใจในการวางแผนการใช้ที่ดินดูเหมือนว่าจะสามารถลดปัญหาที่เกิดจากมีการใช้ที่ดินที่กล่าวถึงข้างต้น การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่ข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของที่ดินสำหรับปลูกพืชเศรษฐกิจ และการวางแผนการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร