2 ……….. King Rama VII was crowned o

2 ……….. King Rama VII was crowned on November 26,1925 and abdicated the throne in March 2,1934, reigning for a period of nine strictly observed all the ten monarchical principles which is required of all Thai kings. One of the most important decision he made and that proved very beneficial to the country was when, during the June 24,1932 revolution he agreed to remain King under the constitution despite the fact that he maintained a large armed forces still loyal to him and could certainly have fought the so-called "Kana Raj" revolutionists.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2 ……….. พระราม VII มีมงกุฎบนพฤศจิกายน 26,1925 และราชาสละราชบัลลังก์ในเดือนมีนาคม 2,1934 ครองราชย์เป็นระยะเวลาเก้าอย่างเคร่งครัดหลัก monarchical ที่ 10 ทั้งหมดที่จำเป็นของพระมหากษัตริย์ไทยทั้งหมด การตัดสินใจสำคัญที่สุดที่เขาทำ และที่พิสูจน์ประโยชน์มากประเทศหนึ่งถูก เมื่อมิถุนายนการปฏิวัติ 24,1932 เขาเห็นยัง พระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญทั้ง ๆ ที่เขารักษาขนาดใหญ่กองทัพยังคงภักดีกับพระองค์ และไม่แน่นอนมีสู้ revolutionists "คะนะราช" เรียกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2 ......... .. ปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ปราบดาภิเษกพฤศจิกายน 26,1925 และสละราชบัลลังก์ในเดือนมีนาคม 2,1934 ครองราชย์เป็นระยะเวลาเก้าปฏิบัติอย่างเคร่งครัดทั้งหมดสิบหลักการกษัตริย์ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นของพระมหากษัตริย์ไทยทุกคน หนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดที่เขาทำและที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นประโยชน์มากไปยังประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 24,1932 ปฏิวัติเขาตกลงที่จะยังคงอยู่ในพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญแม้จะมีความจริงที่ว่าเขายังคงกองกำลังติดอาวุธขนาดใหญ่ที่ยังคงภักดีต่อเขาและสามารถ แน่นอนมีการต่อสู้ที่เรียกว่า "Kana Raj" ปฏิวัติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

10 2 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวปราบดาภิเษกเมื่อวันที่ 261925 และสละราชสมบัติในเดือนมีนาคม 21934 , ครองราชย์เป็นระยะเวลาเก้าเคร่งครัดทั้งหมดสิบกษัตริย์ซึ่งเป็นหลักการของพระมหากษัตริย์ไทย . หนึ่งที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเขาทำและพิสูจน์ประโยชน์มากในประเทศเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 242475 ปฏิวัติเขาตกลงที่จะเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่าเขาคงใหญ่กองกำลังติดอาวุธยังคงซื่อสัตย์กับเขา และจะต้องมีการต่อสู้ที่เรียกว่า " คานะราจ " revolutionists .