Cordless home phones, television, r

Cordless home phones, television, radio, laptops, and tablet computers all produce radiofrequency (RF) radiation, the same type of radiation that is produced by cell phones.

The radiation emitted by a cell phone can penetrate 4 - 6 cm (1.6 - 2.4 in) into an adult human brain. [1] The amount of RF absorbed into the head can be reduced by using a wired ear-piece (not a Bluetooth) rather than placing the phone against the ear.

The Director of the University of Pittsburgh Cancer Institute issued a warning [25] to faculty and staff on July 24, 2008 to decrease cell phone exposure due to a possible connection between cell phone radiation and brain tumors. His warning prompted a congressional hearing on cell phone use and tumors. [26]

The International Agency for Research on Cancer (IARC) of the World Health Organization (WHO) announced on May 31, 2011 that it had added cell phone radiation to its list of physical agents which are "possibly carcinogenic to humans" (group 2B agents). [37] Other group 2B agents include coffee, DDT, pickled vegetables, and lead.

On Oct. 20, 2011 the British Medical Journal published a study of 358,403 Danish citizens – the largest study of its kind to date – which concluded that "there was no association between tumors of the central nervous system or brain and long term (10 years +) use of mobile phones." [39]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โทรศัพท์บ้านไร้สาย โทรทัศน์ วิทยุ แล็ปท็อป และคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตทั้งหมดผลิต radiofrequency (RF) รังสี รังสีที่ผลิตโทรศัพท์ชนิดเดียวกัน

รังสีที่ออกมาจากโทรศัพท์สามารถเจาะ 4-6 ซม. (ใน 1.6-2.4) เข้าไปในสมองมนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่ได้ [1] จำนวนของ RF ที่ดูดซึมเข้าไปในหัวจะลดลง โดยใช้สายหูชิ้นส่วน (ไม่มีบลูทูธ) แทนที่จะวางโทรศัพท์กับหู

กรรมการมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก สถาบันมะเร็งที่ออกคำเตือน [25] การบุคลากรบน 24 กรกฎาคม 2008 ลดสัมผัสโทรศัพท์จากการเชื่อมต่อได้ระหว่างรังสีโทรศัพท์และเนื้องอกสมองได้ คำเตือนของเขาให้ฟังตั้งบนโทรศัพท์มือถือใช้และเนื้องอก [26]

ที่นานาชาติสำนักวิจัยในโรคมะเร็ง (IARC) ขององค์กรสุขภาพโลก (คน) ประกาศเมื่อ 31 พฤษภาคม 2011 ที่ จะมีเพิ่มรังสีโทรศัพท์รายชื่อตัวแทนที่ทางกายภาพซึ่งเป็น "อาจ carcinogenic กับมนุษย์" (กลุ่ม 2B แทน) [37] อื่น ๆ กลุ่ม 2B แทนรวมกาแฟ DDT ผัก และรอคอย

เมื่อ 20 ตุลาคม 2011 รายแพทย์อังกฤษเผยแพร่การศึกษาของ 358,403 เดนมาร์กพลเมือง –ศึกษาที่ใหญ่ที่สุดของชนิดของวันที่ – ซึ่งสรุปว่า "มีการเชื่อมโยงระหว่างเนื้องอกระบบประสาทส่วนกลาง หรือสมองและระยะยาว (10 ปี) ใช้โทรศัพท์มือถือ" [39]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โทรศัพท์บ้านไร้สายคอมพิวเตอร์โทรทัศน์, วิทยุ, แล็ปท็อปแท็บเล็ตและทุกผลิตคลื่นวิทยุ (RF) รังสีชนิดเดียวกันของรังสีที่ผลิตโดยโทรศัพท์มือถือรังสีปล่อยออกมาจากโทรศัพท์มือถือสามารถเจาะ 4-6 เซนติเมตร (1.6-2.4 ใน) เป็นผู้ใหญ่ที่สมองของมนุษย์ [1] จำนวนของ RF ดูดซึมเข้าไปในหัวจะลดลงโดยใช้สายหูชิ้น (ไม่บลูทู ธ ) มากกว่าวางโทรศัพท์กับหูผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์กสถาบันมะเร็งออกคำเตือน [25] กับคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่ 24 กรกฎาคม 2008 เพื่อลดการสัมผัสโทรศัพท์มือถือเนื่องจากการเชื่อมต่อที่เป็นไปได้ระหว่างรังสีโทรศัพท์มือถือและเนื้องอกในสมอง คำเตือนของเขาพร้อมรับฟังความคิดเห็นของสภาที่ใช้โทรศัพท์มือถือและเนื้องอก [26] องค์การระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง (IARC) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศในวันที่ 31 พฤษภาคม 2011 ว่าได้เพิ่มรังสีโทรศัพท์มือถือในรายการของตัวแทนทางกายภาพซึ่งเป็น "อาจจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์" (กลุ่ม ตัวแทน 2B) [37] อื่น ๆ กลุ่มตัวแทน 2B ได้แก่ กาแฟ, ดีดีทีผักดองและนำ20 ตุลาคม 2011 ในวารสารการแพทย์อังกฤษเผยแพร่การศึกษาของประชาชน 358,403 เดนมาร์ก - ศึกษาที่ใหญ่ที่สุดของชนิดถึงวันที่ - ซึ่งได้ข้อสรุปว่า "มี คือการเชื่อมโยงระหว่างเนื้องอกของระบบประสาทส่วนกลางหรือสมองและระยะยาว (10 ปี +) การใช้โทรศัพท์มือถือ ". [39]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โทรศัพท์บ้านไร้สาย โทรทัศน์ , วิทยุ , แล็ปท็อปและคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตทั้งหมดผลิตด้วยคลื่นวิทยุ ( RF ) รังสี ชนิดเดียวกันของรังสีที่ผลิตโดยโทรศัพท์มือถือ

รังสีที่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือสามารถเจาะ 4 - 6 ซม. ( 1.6 - 2.2 ) เป็นผู้ใหญ่ของมนุษย์สมอง[ 1 ] จํานวน RF ซึมเข้าหัวสามารถลดลงได้โดยการใช้สายหูชิ้น ( ไม่ใช่บลูทู ธ ) มากกว่าการโทรศัพท์กับหู

ผู้อำนวยการของสถาบันมะเร็งแห่งมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์กเตือน [ 25 ] และคณะเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ลดลงโทรศัพท์มือถือ แสงจากการเชื่อมต่อที่เป็นไปได้ระหว่างการฉายรังสีโทรศัพท์มือถือและมะเร็งสมองคำเตือนของเขาให้ฟังรัฐสภาใช้โทรศัพท์มือถือ และเนื้องอก [ 26 ]

หน่วยงานวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ ( ร่วมกับ ) ขององค์การอนามัยโลก ( WHO ) ได้ประกาศเมื่อ 31 พฤษภาคม 2554 ที่ได้เพิ่มรังสีจากโทรศัพท์มือถือไปยังรายการของตัวแทนทางกายภาพซึ่งเป็น " อาจจะก่อมะเร็งในมนุษย์ " ( ตัวแทนกลุ่ม 2B ) [ 37 ] อื่น ๆตัวแทนกลุ่ม 2B รวมกาแฟ ดีดีทีผักดอง และนำ

วันที่ 20 ตุลาคม 2554 โดยวารสารการแพทย์อังกฤษเผยแพร่ผลการศึกษาของ 358403 พลเมืองเดนมาร์ก–การศึกษาที่ใหญ่ที่สุดของชนิดของวันที่ – ซึ่งสรุปได้ว่า " ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างเนื้องอกของระบบประสาทหรือสมองและระยะยาว ( 10 ปี ) ใช้โทรศัพท์มือถือ " . [ 39 ]