The second historically-documented

The second historically-documented Egyptian pyramid is attributed to the architect Imhotep, who planned what Egyptologists believe to be a tomb for the pharaoh Djoser. Imhotep is credited with being the first to conceive the notion of stacking mastabas on top of each other, creating an edifice composed of a number of "steps" that decreased in size towards its apex. The result was the Pyramid of Djoser, which was designed to serve as a gigantic stairway by which the soul of the deceased pharaoh could ascend to the heavens.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สองรับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อียิปต์ปิรามิดมาประกอบกับสถาปนิกอิมโฮเตป ผู้วางแผนสิ่งที่ชาวไอยคุปต์เชื่อว่าเป็น สุสานสำหรับฟาโรห์ Djoser อิมโฮเตปเป็นเครดิตเป็น คนแรกที่ตั้งครรภ์ของการซ้อนทับกัน mastabas, edifice สร้างประกอบด้วยจำนวนของ "ขั้นตอน" ที่ลดลงในขนาดต่อ apex ของ ผลคือ พีระมิดของ Djoser ซึ่งถูกออกแบบเพื่อใช้เป็นบันไดยักษ์ที่ซึ่งจิตวิญญาณของฟาโรห์ถึงแก่กรรมได้ขึ้นสวรรค์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่สองในอดีตเอกสารพีระมิดอียิปต์มาประกอบกับสถาปนิก Imhotep ที่วางแผนสิ่งที่ไอยคุปต์เชื่อว่าจะเป็นหลุมฝังศพสำหรับฟาโรห์ Djoser Imhotep จะให้เครดิตกับเป็นคนแรกที่จะตั้งครรภ์ความคิดของการซ้อน mastabas ด้านบนของแต่ละอื่น ๆ , การสร้างสิ่งปลูกสร้างประกอบด้วยจำนวนของ "ขั้นตอน" ที่ลดลงในขนาดที่มีต่อปลาย ผลที่ตามมาคือปิรามิด Djoser ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อใช้เป็นบันไดขนาดใหญ่โดยที่จิตวิญญาณของฟาโรห์ผู้ตายอาจจะขึ้นไปถึงสวรรค์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 พีระมิดอียิปต์ประวัติศาสตร์เอกสารประกอบกับสถาปนิกอิมโฮเทป ใครวางแผนอะไรมอมแมมเชื่อว่าเป็นสุสานของฟาโรห์ ฟาโรห์โจเสร์ . อิมโฮเตปเป็นเครดิตกับการเป็นครั้งแรกที่จะตั้งครรภ์ความคิด mastabas ซ้อนอยู่ด้านบนของแต่ละอื่น ๆสร้างวิหารที่ประกอบด้วยจำนวนของ " ขั้นตอน " ที่ลดขนาดลงสู่จุดสูงสุดของมัน . ผลที่ได้คือปิรามิดของฟาโรห์โจเสร์ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นบันไดยักษ์ที่วิญญาณของผู้ตาย ฟาโรห์จะขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์