resume and letter of application re

resume and letter of application
resume
A resume is a short written description of a person's education and past employment,used especially when he/she is looking for a job or a new job.

A resume is like an advertisement for yourself.

If it fails to interest the reader, you not have further opportunities to convince the company to consider you for employment.

A resume is also called a biodata or curriculum vitae (CV).

It should be included as an enclosure with your application letter.

The resume should present the most important things in your background and all your qualification for employment.


The resume should be written before your application letter because it will be a good outline for deciding which information should be included in the application letter.

For most students just graduating from university, a one - page resume is usually long enough.

It is important that you include only necessary information.

Your resume will not be effective if it includes too much information or unnecessary facts.


The main sections of the resume are:

Heading Your complete name in capital letters should appear at the top of the paper.

Your address and telephone number should be below your name.


Objective If you are applying for a specific position (marketing researcher, management trainee , etc. ),

you may indicate that here.

If you are applying to a company , but do not know exactly what position you want , you may indicate your general objective (to work in the marketing department, to work as a system analyst, etc.).

If you are uncertain about what you want to do or if you do not want to limit your alternatives, you may omit this section completely.


Education List the most recent education first.

Give the years attended and the degree you received and your major field of study.

Beneath your university listing you may show the specific courses you took which you think will be helpful in the work you are applying for.


Experience Work experience is a very essential part of employment applications It is important to show any experience you have had.

If you have had full - time employment, it is not necessary to give a full list of your part - time jobs.

You should include : date of employment , firm's name and address and type of work performed


Special qualifications This section is optional.

If you have any special skills, you may mention them here.

Such skills may include : language ability, writing ability (if you have published articles ), artistic ability, or research in specific field.


Personal details In this section you should list your age , marital status (married,single) , nationality (only if you are not a thai), military status (only if important) and any hobbies, sports or organizations you are involved with.

This is the one section where you may indicate your outside in terests and give a picture of your personality.


References The best references are past employers.

If this is not possible , you may list names of instructors or business people that
know you.

Names of relatives should not be given as references.


Two trips about Writing a resume (CV)


1.You should always put down any interesting or special thing, you have done, all courses, experience etc.

Thay might not seem important to you , but your prospective employer might think thay are useful.


2.Make sure every year is mentioned.

Any year where you do not erite down what you were doing will make the employer ask questions.

Resume Examples There are many different style of writing resume.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติย่อและจดหมายสมัคร ประวัติการทำงาน ประวัติย่อเป็นการเขียนคำอธิบายโดยย่อของผู้ศึกษา และจ้าง งาน ใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากำลังมองหางานหรืองานใหม่ที่ผ่านมาดำเนินการเช่นการโฆษณาตัวเองได้ถ้ามันไม่สนใจอ่าน คุณไม่ได้เพิ่มเติมโอกาสจะโน้มน้าวให้บริษัทพิจารณาคุณสำหรับการจ้างงาน ประวัติย่อจะเรียกว่าเป็นประวัติหรือประวัติ (CV) มันควรจะเป็นสิ่งที่แนบมากับจดหมายสมัครประวัติการทำงานควรนำเสนอสิ่งสำคัญที่สุดในพื้นหลังของคุณและคุณสมบัติทั้งหมดของคุณสำหรับการจ้างงาน ดำเนินการควรเขียนก่อนที่โปรแกรมประยุกต์จดหมายเนื่องจากจะมีเค้าร่างที่ดีสำหรับการตัดสินใจว่า ข้อมูลใดควรจะรวมในจดหมายสมัคร สำหรับนักเรียนมากที่สุดเพียงจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย หนึ่ง - หน้าประวัติการทำงานได้ปกตินานพอเป็นสิ่งสำคัญว่า คุณมีข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้นประวัติจะไม่มีผลถ้ามีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงไม่จำเป็นมากเกินไป ส่วนหลักของการสมัครงาน: หัวเรื่องชื่อของคุณในอักษรตัวพิมพ์ใหญ่จะปรากฏที่ด้านบนของกระดาษหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่ของคุณควรอยู่ใต้ชื่อของคุณ วัตถุประสงค์ที่คุณจะสมัครตำแหน่งเฉพาะ (ตลาดนักวิจัย การจัดการการฝึกอบรม ฯลฯ),คุณอาจระบุที่นี่ถ้าคุณกำลังใช้บริษัท แต่ไม่ทราบว่าตำแหน่งที่คุณต้อง คุณอาจระบุวัตถุประสงค์ทั่วไปของคุณ (เพื่อทำงานในแผนกการตลาด การทำงานเป็นนักวิเคราะห์ระบบ ฯลฯ)ถ้าคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการทำหรือถ้าคุณไม่ต้องการจำกัดทางเลือกของคุณ คุณสามารถข้ามส่วนนี้ทั้งหมด ศึกษารายการการศึกษาล่าสุดก่อน ให้เข้าร่วมปี และปริญญาที่คุณได้รับ และสาขาวิชาของการศึกษา ภายใต้รายการมหาวิทยาลัยของคุณอาจแสดงหลักสูตรเฉพาะคุณใช้ ซึ่งคุณคิดว่า จะเป็นประโยชน์ในการทำงานที่คุณจะใช้สำหรับการ ประสบการณ์การทำงานประสบการณ์เป็นส่วนสำคัญมากของใบสมัครงานจะต้องแสดงประสบการณ์ที่คุณมี ถ้าคุณมีทั้งหมด - เวลาทำงาน มันไม่จำเป็นต้องให้รายชื่อของส่วนของคุณ - เวลางานคุณควรรวม: วันที่ของการจ้างงาน บริษัทของชื่อ และที่อยู่ และชนิดของงานที่ทำ คุณสมบัติพิเศษส่วนนี้ไม่จำเป็น ถ้าคุณมีทักษะพิเศษใด ๆ คุณอาจพูดถึงได้ที่นี่ ทักษะดังกล่าวอาจรวมถึง: ความสามารถในภาษา ความสามารถในการเขียน (ถ้าคุณมีการเผยแพร่บทความ), ความสามารถในทางศิลปะ หรือวิจัยในฟิลด์เฉพาะได้ ส่วนตัวรายละเอียดในส่วนนี้คุณควรแสดงรายการของอายุ สถานภาพสมรส (แต่งงาน เดี่ยว), สัญชาติ (ถ้าคุณไม่มีไทย), สถานะทางทหาร (เฉพาะถ้าสำคัญ) และงานอดิเรก กีฬา หรือองค์กรที่ต้องเกี่ยวข้องกับการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณอาจบ่งชี้ภายนอกใน terests และให้ภาพของบุคลิกภาพ อ้างอิงอ้างอิงดีที่สุดผ่านมานายจ้าง ถ้าไม่ได้ คุณสามารถแสดงรายการชื่อผู้สอน หรือธุรกิจคนที่ รู้คุณ ไม่ควรกำหนดชื่อของญาติเป็นข้อมูลอ้างอิง เที่ยวที่สองเกี่ยวกับการเขียนประวัติย่อ (CV)1.คุณควรใส่ลงสิ่งที่น่าสนใจ หรือพิเศษ เสร็จ คอร์สทั้งหมด ประสบการณ์ฯลฯโยงอาจดูเหมือนไม่สำคัญกับคุณ แต่นายจ้างในอนาคตของคุณอาจคิดว่า โยงมีประโยชน์2.ให้แน่ใจว่าทุกปีกล่าวถึงการปีใดก็ตามที่คุณ erite ไม่ลงสิ่งที่กำลังทำจะทำให้นายจ้างถาม สมัครงานตัวอย่างมีหลายลักษณะแตกต่างของการเขียนประวัติย่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลับมาและตัวอักษรของแอพลิเคชัน
ทำงานต่อ
ประวัติเป็นคำอธิบายที่เขียนสั้น ๆ ของการศึกษาของบุคคลและการจ้างงานที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขา / เธอที่กำลังมองหางานหรือหางานใหม่. ประวัติเป็นเหมือนการโฆษณาด้วยตัวคุณเอง. ถ้ามันล้มเหลวในการ สนใจของผู้อ่านที่คุณไม่ได้มีโอกาสต่อไปที่จะโน้มน้าวให้ บริษัท ที่จะพิจารณาคุณสำหรับการจ้างงาน. ประวัติการทำงานจะเรียกว่า BIODATA หรือประวัติ (CV). มันควรจะรวมเป็นสิ่งที่แนบมากับจดหมายสมัครงาน. ประวัติการทำงานควรนำเสนอ สิ่งที่สำคัญที่สุดในพื้นหลังของคุณและคุณสมบัติของคุณสำหรับการจ้างงาน. ประวัติการทำงานควรจะเขียนก่อนที่จดหมายสมัครงานของคุณเพราะมันจะเป็นร่างที่ดีสำหรับการตัดสินใจที่ข้อมูลควรรวมอยู่ในจดหมายสมัครงาน. สำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ก็จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย หนึ่ง - ประวัติหน้ามักจะเป็นเวลานานพอ. มันเป็นสิ่งสำคัญว่าคุณมีข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น. ประวัติการทำงานของคุณจะไม่ได้ผลถ้ามีข้อมูลที่มากเกินไปหรือข้อเท็จจริงที่ไม่จำเป็น. ส่วนหลักของงานคือ: หัวเรื่องชื่อที่สมบูรณ์ของคุณในตัวอักษร ควรจะปรากฏขึ้นที่ด้านบนของกระดาษ. ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของคุณควรจะต่ำกว่าชื่อของคุณ. วัตถุประสงค์ถ้าคุณจะใช้สำหรับตำแหน่งที่ระบุ (นักวิจัยการตลาด, การฝึกอบรมการจัดการ ฯลฯ ) คุณอาจแสดงให้เห็นว่าที่นี่. หากคุณกำลังใช้ ให้กับ บริษัท แต่ไม่ทราบว่าสิ่งที่ตำแหน่งที่คุณต้องการคุณอาจบ่งบอกถึงวัตถุประสงค์ทั่วไปของคุณ (ในการทำงานในฝ่ายการตลาด, การทำงานเป็นนักวิเคราะห์ระบบและอื่น ๆ ). หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจะทำหรือ ถ้าคุณไม่ต้องการ จำกัด ทางเลือกของคุณคุณอาจละเว้นส่วนนี้อย่างสมบูรณ์. รายชื่อการศึกษาการศึกษาล่าสุดครั้งแรก. ให้ปีที่ผ่านมาเข้าร่วมและระดับที่คุณได้รับและที่สำคัญด้านการศึกษาของคุณ. ใต้มหาวิทยาลัยของคุณรายชื่อที่คุณอาจแสดงเฉพาะ หลักสูตรที่คุณเอาที่คุณคิดว่าจะเป็นประโยชน์ในการทำงานของคุณจะใช้สำหรับ. ประสบการณ์การทำงานประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของการใช้งานการจ้างงานมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะแสดงให้ประสบการณ์ใด ๆ ที่คุณมี. หากคุณมีเต็มรูปแบบ - การจ้างงานเวลาก็คือ . ไม่จำเป็นที่จะให้รายการเต็มรูปแบบของส่วนของคุณ - งานเวลาที่คุณควรจะรวมถึงวันที่ของการจ้างงานชื่อ บริษัท และที่อยู่และชนิดของงานที่ทำมีคุณสมบัติพิเศษในส่วนนี้จะเป็นตัวเลือก. ถ้าคุณมีทักษะพิเศษใด ๆ ที่คุณอาจจะพูดถึงพวกเขาที่นี่ . ทักษะดังกล่าวอาจรวมถึงความสามารถทางภาษาการเขียนความสามารถ (ถ้าคุณได้รับการตีพิมพ์บทความ), ความสามารถในศิลปะหรือการวิจัยในสาขาที่เฉพาะเจาะจง. รายละเอียดส่วนบุคคลในส่วนนี้คุณควรรายการอายุสถานภาพสมรส (แต่งงาน, เดี่ยว) สัญชาติ (เฉพาะ ถ้าคุณไม่ได้ไทย) สถานะทางทหาร (เฉพาะในกรณีที่สำคัญ) และงานอดิเรกใด ๆ กีฬาหรือองค์กรที่คุณมีส่วนร่วมด้วย. นี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณอาจบ่งบอกถึงนอกใน terests และให้ภาพของบุคลิกภาพของคุณ. อ้างอิง การอ้างอิงที่ดีที่สุดคือนายจ้างที่ผ่านมา. ถ้าเป็นไปไม่ได้ที่คุณอาจรายชื่อของอาจารย์หรือนักธุรกิจที่รู้ว่าคุณ. ชื่อของญาติไม่ควรให้เป็นข้อมูลอ้างอิง. สองเกี่ยวกับการเดินทางการเขียนประวัติส่วนตัว (CV) 1. คุณควรใส่ ลงสิ่งที่น่าสนใจหรือพิเศษใด ๆ ที่คุณได้ทำทั้งหมดหลักสูตรประสบการณ์ ฯลฯThay ไม่อาจดูเหมือนมีความสำคัญกับคุณ แต่นายจ้างของคุณอาจจะคิดว่ามีประโยชน์ Thay. 2.Make แน่ใจว่าทุกปีเป็นที่กล่าวถึง. ปีใด ๆ ที่คุณทำไม่ได้ erite ลงสิ่งที่คุณทำจะทำให้นายจ้างถามคำถาม. Resume ตัวอย่างมีสไตล์ที่แตกต่างของการเขียนเรซูเม่ที่มี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติย่อและจดหมายสมัครงานประวัติย่อ

ประวัติเป็นสั้นเขียนรายละเอียดของการศึกษาของคน และที่ผ่านมาการจ้างงานที่ใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขา / เธอกำลังมองหางานหรืองานใหม่

กลับมาเป็นเหมือนการโฆษณาเอง

ถ้ามันล้มเหลวที่จะสนใจ อ่าน คุณ ไม่ มี ต่อไปโอกาสที่จะโน้มน้าวให้ บริษัท ที่จะต้องพิจารณาคุณสำหรับการจ้างงาน .

ประวัติส่วนตัว ก็เรียกว่าข้อมูลหรือแหยะ .

มันน่าจะรวมเป็นจดหมายแนบกับใบสมัครของคุณ .

ประวัติย่อควรนำเสนอสิ่งที่สําคัญที่สุดในพื้นหลังของคุณและทั้งหมดของคุณวุฒิ


สำหรับการจ้างงานประวัติย่อควรจะเขียนก่อนจดหมายสมัครงานของคุณเพราะมันจะเป็นร่างที่ดีสำหรับการตัดสินใจซึ่งข้อมูลที่ควรจะรวมอยู่ในใบสมัครงาน

สำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ที่จบจากมหาวิทยาลัย หนึ่งหน้าประวัติจะยาวพอ

มันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณมีเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น .

ประวัติย่อของคุณจะไม่มีผล ถ้ามันมีข้อมูลมากเกินไป หรือ ไม่มีข้อเท็จจริง


ส่วนหลักของประวัติย่อ :

ไปชื่อที่สมบูรณ์ของคุณในตัวอักษรทุนควรจะปรากฏขึ้นที่ด้านบนของกระดาษ

ที่อยู่ของคุณและหมายเลขโทรศัพท์ควรด้านล่างชื่อของคุณ


วัตถุประสงค์ถ้าคุณ สมัครเฉพาะตำแหน่ง ( นักวิจัยการตลาด , ฝึกงาน , การจัดการ ฯลฯ )

คุณอาจพบว่า ที่นี่

ถ้าคุณสมัครกับบริษัท แต่ไม่รู้ว่าตำแหน่งที่คุณต้องการ คุณอาจระบุวัตถุประสงค์ทั่วไป ( ทำงานอยู่ฝ่ายการตลาด ทำงานเป็นผู้วิเคราะห์ระบบ ฯลฯ ) .

ถ้าคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจะทำ หรือ ถ้า คุณไม่ต้องการที่จะ จำกัด ทางเลือกของคุณคุณจะละเว้น

ส่วนนี้ทั้งหมด