OBJECTIVE:The principal aim of the

OBJECTIVE:
The principal aim of the study was to examine the contribution of aromatherapy to the promotion of maternal comfort during labor and as a tool to improve the quality of midwifery care.
DESIGN:
Evaluative study.
SETTING:
Delivery suite in a large British teaching hospital with approximately 6,500 deliveries per annum.
SUBJECTS:
A total of 8,058 mothers were evaluated between 1990 and 1998.
INTERVENTIONS:
Women were offered aromatherapy to relieve anxiety, pain, nausea and/or vomiting or to strengthen contractions. Routine data collected on the use of aromatherapy over the period were analyzed. Data from the unit audit were used to provide a comparison group of mothers not given aromatherapy (n = 15,799) from the study center.
OUTCOME MEASURES:
Outcome measures include mothers' ratings of effectiveness, outcomes of labor, use of pharmacologic pain relief, uptake of intravenous oxytocin, reported associated symptoms, and annual costs.
RESULTS:
The use of aromatherapy during childbirth was an increasingly popular care option with mothers and midwives. More than 50% of mothers rated it as helpful, and only 14% found it unhelpful. The use of aromatherapy was not confined to low-risk mothers. Sixty percent of the sample were primigravidae, and 32% overall had had their labor induced. The administration of aromatherapy in childbirth did appear to reduce the need for additional pain relief in a proportion of mothers. More than 8% of primigravidae and 18% of multigravidae used no conventional pain relief during labor after using essential oils. During the years of the study, the use of pethidine in the study center declined from 6% to 0.2% of women. The study also showed that aromatherapy may have the potential to augment labor contractions for women in dysfunctional labour. A very low number of associated adverse symptoms were reported (1%).
CONCLUSION:
This study represents a successful example of the integration of a complementary therapy into mainstream midwifery practice and forms a basis for future research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์:จุดมุ่งหมายหลักของการศึกษาคือการ ตรวจสอบผลของน้ำมันหอมระเหยเพื่อส่งเสริมความสะดวกสบายแม่ ระหว่างแรงงาน และ เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงคุณภาพของหมอตำแยออกแบบ:ศึกษา evaluativeการตั้งค่า:ห้องส่งขนาดใหญ่อังกฤษสอนโรงพยาบาลมีการจัดส่งประมาณ 6500 คันต่อปีเรื่อง:จำนวนมารดาที่ 8,058 ถูกประเมินระหว่างปี 1990 และ 1998งานวิจัย:ผู้หญิงถูกเสนออโรมา เพื่อบรรเทาความวิตกกังวล อาการปวด อาการคลื่นไส้ / อาเจียน หรือหนุนหด มีวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมการใช้น้ำมันหอมระเหยในช่วงประจำ ข้อมูลจากการตรวจสอบหน่วยใช้ให้แม่ไม่ให้หอมกลุ่มเปรียบเทียบ (n = 15,799) จากศูนย์ศึกษาการประเมินผล:ประเมินผลรวมของมารดาการจัดอันดับประสิทธิภาพ ผลของแรงงาน ใช้บรรเทาอาการปวดหลัง pharmacologic อาการดูดซับของฉีด oxytocin รายงานที่เกี่ยวข้อง และต้นทุนประจำปีผลลัพธ์:การใช้สุคนธบำบัดในระหว่างคลอดเป็นตัวเลือกยอดนิยมการดูแลมารดาและ midwives มากกว่า 50% ของมารดาคะแนนมันเป็นประโยชน์ และเพียง 14% พบแอร์ การใช้น้ำมันหอมระเหยไม่ขังมารดาความเสี่ยงต่ำ หกเปอร์เซ็นต์ของตัวอย่าง primigravidae และ 32% โดยรวมที่เคยมีแรงงานของพวกเขาเกิด ของน้ำมันหอมระเหยในการคลอดบุตรไม่ได้จะ ลดต้องการบรรเทาอาการปวดหลังเพิ่มเติมในสัดส่วนของมารดา Primigravidae มากกว่า 8% และ 18% ของ multigravidae ใช้บรรเทาอาการปวดหลังธรรมดาไม่ระหว่างแรงงานหลังจากการใช้น้ำมันหอมระเหย ในช่วงปีการศึกษา การใช้เพทิดีนในศูนย์ศึกษาปฏิเสธจาก 6% เป็น 0.2% ของผู้หญิง การศึกษายังพบว่า น้ำมันหอมระเหยที่อาจมีศักยภาพในการเพิ่มแรงงานหดสำหรับผู้หญิงในแรงงานนบา ตัวเลขต่ำมากอาการร้ายที่เกี่ยวข้องได้รายงาน (1%)สรุป:การศึกษานี้แสดงตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จของการรวมยาเสริมเป็นหมอตำแยหลักปฏิบัติและแบบฟอร์มข้อมูลพื้นฐานสำหรับการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์:
จุดมุ่งหมายหลักของการศึกษาคือการตรวจสอบผลงานของน้ำมันหอมระเหยโปรโมชั่นของความสะดวกสบายของมารดาในระหว่างแรงงานและเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงคุณภาพของการดูแลการผดุงครรภ์แขก.
การออกแบบ:
การศึกษาประเมินผล.
การตั้งค่า:
ชุดจัดส่งในโรงพยาบาลการเรียนการสอนของอังกฤษที่มีขนาดใหญ่ ที่มีประมาณ 6,500 การส่งมอบต่อปี.
วิชา:
รวม 8058 แม่ได้รับการประเมินระหว่างปี 1990 และปี 1998
รับมาตรการแทรกแซงผู้หญิงถูกนำเสนอน้ำมันหอมระเหยเพื่อบรรเทาความวิตกกังวลปวด, คลื่นไส้และ / หรืออาเจียนหรือเพื่อเสริมสร้างการหดตัว
ข้อมูลที่เก็บรวบรวมกิจวัตรประจำวันในการใช้น้ำมันหอมระเหยในช่วงเวลาที่ได้มาวิเคราะห์ ข้อมูลจากการตรวจสอบหน่วยถูกนำมาใช้เพื่อให้กลุ่มเปรียบเทียบของมารดาไม่ได้รับการบำบัดด้วยกลิ่นหอม (n = 15,799) จากศูนย์การศึกษา.
มาตรวัดผลลัพธ์:
มาตรการผลรวมถึงการจัดอันดับของมารดาของประสิทธิภาพผลของการใช้แรงงานที่ใช้ในการบรรเทาอาการปวดยา, การดูดซึม ของอุ้งดำรายงานอาการที่เกี่ยวข้องและค่าใช้จ่ายประจำปี. ผลการใช้น้ำมันหอมระเหยระหว่างการคลอดบุตรเป็นตัวเลือกการดูแลนิยมมากขึ้นกับมารดาและผดุงครรภ์ กว่า 50% ของมารดาอันดับที่เป็นประโยชน์และมีเพียง 14% พบว่ามันไม่ช่วยเหลือ การใช้น้ำมันหอมระเหยที่ไม่ได้ถูกคุมขังในมารดาที่มีความเสี่ยงต่ำ หกสิบเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างที่ถูก primigravidae และ 32% โดยรวมได้มีการเหนี่ยวนำแรงงานของพวกเขา การบริหารงานของน้ำมันหอมระเหยในการคลอดบุตรไม่ปรากฏเพื่อลดความจำเป็นเพื่อบรรเทาอาการปวดที่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนของแม่ มากกว่า 8% ของ primigravidae และ 18% ของ multigravidae ไม่ใช้บรรเทาอาการปวดธรรมดาระหว่างแรงงานหลังการใช้น้ำมันหอมระเหย ในช่วงปีที่ผ่านมาของการศึกษา, การใช้งานของ pethidine ในศูนย์การศึกษาลดลงจาก 6% เป็น 0.2% ของผู้หญิง การศึกษายังพบว่าน้ำมันหอมระเหยอาจมีศักยภาพที่จะเพิ่มการหดตัวของแรงงานสำหรับผู้หญิงในการใช้แรงงานที่ผิดปกติ จำนวนที่ต่ำมากของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวข้องได้รับรายงาน (1%). สรุป: การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากการรวมกลุ่มของยาเสริมในการปฏิบัติผดุงครรภ์หลักและเป็นพื้นฐานสำหรับการวิจัยในอนาคต