Evolutionary significance[edit]Dyin

Evolutionary significance[edit]
Dying planktonic Foraminifera continuously rain down on the sea floor in vast numbers, their mineralized tests preserved as fossils in the accumulating sediment. Beginning in the 1960s, and largely under the auspices of the Deep Sea Drilling, Ocean Drilling, and International Ocean Drilling Programmes, as well as for the purposes of oil exploration, advanced deep-sea drilling techniques have been bringing up sediment cores bearing Foraminifera fossils.[26] The effectively unlimited supply of these fossil tests and the relatively high-precision age-control models available for cores has produced an exceptionally high-quality planktonic Foraminifera fossil record dating back to the mid-Jurassic, and presents an unparalleled record for scientists testing and documenting the evolutionary process.[26] The exceptional quality of the fossil record has allowed an impressively detailed picture of species inter-relationships to be developed on the basis of fossils, in many cases subsequently validated independently through molecular genetic studies on extant specimens[27] Larger benthic Foraminifera with complex shell structure react in a highly specific manner to the different benthic environments and, therefore, the composition of the assemblages and the distribution patterns of particular species reflect simultaneously bottom types and the light gradient. In the course of Earth history, larger Foraminifera are replaced frequently. In particular, associations of Foraminifera characterizing particular shallow water facies types are dying out and are replaced after a certain time interval by new associations with the same structure of shell morphology, emerging from a new evolutionary process of adaptation. These evolutionary processes make the larger Foraminifera useful as index fossils for the Permian, Jurassic, Cretaceous and Cenozoic.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิวัฒนาการ [แก้]ตาย planktonic Foraminifera ต่อเนื่องฝนตกลงบนพื้นทะเลในจำนวนมาก การทดสอบ mineralized ที่เก็บรักษาไว้เป็นซากดึกดำบรรพ์ในตะกอนสะสม เริ่ม ในปี 1960 และส่วนใหญ่ภาย ใต้การอุปถัมภ์ ของทะเลลึกเจาะ เจาะมหาสมุทร และนานาโอเชี่ยนเจาะโครงการ รวม ทั้ง เพื่อวัตถุประสงค์ในการสำรวจน้ำมัน เทคนิคเจาะลึกขั้นสูงได้ถูกนำขึ้นตะกอนแกนแบริ่ง Foraminifera ฟอสซิ [26]จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพของการทดสอบเหล่านี้ฟอสซิลและค่อนข้างแม่นยำสูงอายุควบคุมรุ่นพร้อมใช้งานสำหรับแกนได้ผลิตมีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ planktonic Foraminifera ดึกดำบรรพ์ย้อนกลับไปที่จูราสสิกลาง และแสดงระเบียนสมบูรณ์แบบสำหรับนักวิทยาศาสตร์ทดสอบ และจดบันทึกกระบวนการวิวัฒนาการ [26]คุณภาพของซากดึกดำบรรพ์ได้รูปภาพที่มีรายละเอียดอย่างน่าประทับใจของความสัมพันธ์ระหว่างสายพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของซากดึกดำบรรพ์ ในหลายกรณีมาตรวจสอบอย่างอิสระผ่านการศึกษาด้านพันธุกรรมโมเลกุลบนชิ้นงานที่ยังหลงเหลืออยู่ [27] Foraminifera หน้าดินขนาดใหญ่ มีโครงสร้างซับซ้อนเชลล์ตอบสนองในลักษณะเฉพาะที่สภาพแวดล้อมหน้าดินที่แตกต่างกัน และ ดังนั้น องค์ประกอบของการ assemblages และรูปแบบการกระจายของสายพันธุ์เฉพาะสะท้อนกันชนิดด้านล่างและไล่ระดับแสง ในประวัติศาสตร์โลก Foraminifera ใหญ่จะเปลี่ยนบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ของลักษณะน้ำตื้นโดยเฉพาะชนิด facies Foraminifera ตายออก และแทนหลังจากช่วงเวลาที่กำหนด โดยความสัมพันธ์ใหม่กับโครงสร้างของเปลือกสัณฐาน จากกระบวนการวิวัฒนาการใหม่ของการปรับตัว กระบวนการเหล่านี้วิวัฒนาการทำ Foraminifera ใหญ่ที่เป็นซากดึกดำบรรพ์ดัชนีสำหรับถึงพรีเมียนตอน จูราสสิ ครีเทเชีย และอินเดีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีวิวัฒนาการสำคัญ [แก้ไข]
ตาย foraminifera planktonic อย่างต่อเนื่องฝนลงบนพื้นทะเลในจำนวนมากมายทดสอบ mineralized ของพวกเขาเก็บรักษาไว้เป็นฟอสซิลในตะกอนสะสม จุดเริ่มต้นในปี 1960 และส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของทะเลลึกเจาะมหาสมุทรขุดเจาะและนานาชาติมหาสมุทรเจาะหลักสูตรเช่นเดียวกับเพื่อวัตถุประสงค์ในการสำรวจน้ำมันเทคนิคการขุดเจาะในทะเลลึกที่ทันสมัยได้รับการเลี้ยงดูแกนตะกอนแบกฟอสซิล foraminifera . [26] อุปทานที่ไม่ จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพของการทดสอบฟอสซิลเหล่านี้และค่อนข้างมีความแม่นยำสูงรุ่นอายุควบคุมใช้ได้สำหรับแกนมีการผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีคุณภาพสูง planktonic foraminifera บันทึกฟอสซิลย้อนกลับไปในช่วงกลางจูราสสิและนำเสนอการบันทึกที่เหนือชั้นสำหรับการทดสอบนักวิทยาศาสตร์และการจัดเก็บเอกสาร กระบวนการวิวัฒนาการ. [26] คุณภาพที่ดีเยี่ยมของบันทึกฟอสซิลได้รับอนุญาตให้ภาพที่มีรายละเอียดที่น่าประทับใจของสายพันธุ์ระหว่างความสัมพันธ์ที่จะได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของฟอสซิลในหลายกรณีภายหลังการตรวจสอบอย่างอิสระผ่านการศึกษาทางอณูพันธุศาสตร์ตัวอย่างที่ยังหลงเหลืออยู่ [27] foraminifera หน้าดินขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างเปลือกซับซ้อน ตอบสนองในลักษณะที่เฉพาะเจาะจงสูงเพื่อสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันและหน้าดินดังนั้นองค์ประกอบของ assemblages และรูปแบบการกระจายพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงประเภทด้านล่างพร้อมกันและการไล่ระดับสีแสง ในหลักสูตรของประวัติศาสตร์โลก foraminifera ขนาดใหญ่จะถูกแทนที่บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งของสมาคม foraminifera พัฒนาการตื้น facies น้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทที่กำลังจะตายออกมาและจะถูกแทนที่หลังจากช่วงเวลาที่กำหนดโดยสมาคมใหม่ที่มีโครงสร้างเดียวกันของเปลือกสัณฐานโผล่ออกมาจากกระบวนการวิวัฒนาการใหม่ของการปรับตัว กระบวนการวิวัฒนาการเหล่านี้ทำให้ foraminifera ขนาดใหญ่มีประโยชน์เป็นฟอสซิลดัชนีสำหรับ Permian, จูราสสิครีเทเชียและ Cenozoic