• two or more persons are involved,

• two or more persons are involved,
• there is a perceived incompatibility between ideas, actions, beliefs, or goals,
• the opposing sides see their way as the only way to achieve their goals and objectives.
Conflict occurs as a result of two or more people interacting together. There are two types of conflict in the work place:
1. substantive conflict
2. personality-based conflict.
The substantive conflict can be dealt with by addressing the specific problem that is the subject of the conflict. For example, Lucy can not complete her report until John gets all of the numbers to her. Lucy believes that John procrastinates until the last minute, forcing her to do a rushed job which increases her stress and makes her fear that she will look bad to the boss. John feels like Lucy puts too much pressure on both of them, and sets unrealistic deadlines. As the conflict increases, the productivity and efficiency decrease. Both employees feel bad about this, but are lost as to how to overcome the problem. This is where the parties may need to have a manager intervene and mediate the dispute.
Another example is when two employees must use the same printer. When one has a big printing job and ties up the printer, the other employee is sometimes delayed and can’t get a promised document out on time. In this case, the two parties can be trained how to mediate the dispute themselves. Any problem resolved by and between the two employees can only serve to empower them and to anchor effective conflict resolution techniques that can be used at work and at home.
From time to time, there may be conflict between employees that is simply personality-based conflict. While this particular problem is not one for mediation, nonetheless it must be addressed. In some situations, it may come to the point where both employees are told that they must learn to work together in spite of their differences, or both must leave. Most often this has the intended effect, in that the parties agree that keeping their jobs is more important than continuing to engage in conflict.
There is one other important consideration, and that is the importance of teaching employees how to appropriately talk with each other. The use of good communication skills is essential in keeping the peace at work

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

•อย่าง น้อยสองคนเกี่ยวข้อง•มีความเข้ากันไม่รับรู้ระหว่างความคิด การกระทำ ความเชื่อ หรือ เป้าหมาย•ฝ่ายตรงข้ามเห็นพวกเขาเป็นวิธีเดียวที่จะบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของพวกเขาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากสอง หรือมากกว่าสองคนโต้ตอบกัน มีสองประเภทของความขัดแย้งในสถานทำงาน:1. ความขัดแย้งแน่น2. บุคลิกภาพตามความขัดแย้งกันสามารถจัดการกับความขัดแย้งเราโดยเฉพาะปัญหาที่เป็นเรื่องของความขัดแย้ง ตัวอย่าง ลูซี่ไม่สามารถเสร็จสมบูรณ์รายงานของเธอจนกระทั่งจอห์นได้รับทั้งหมดของเธอ ลูซี่เชื่อว่า จอห์น procrastinates จนถึงนาทีสุดท้าย บังคับให้เธอทำงาน rushed ซึ่งเพิ่มความเครียดของเธอ และทำให้เธอกลัวว่า เธอจะดูไม่ดีกับเจ้านาย จอห์นรู้สึกเหมือนลูซี่ทำให้ความดันมากเกินไปในทั้งสองของพวกเขา และการตั้งค่ากำหนดเวลาสิ้นสุดไม่ เมื่อความขัดแย้งมากขึ้น ผลผลิตและประสิทธิภาพในการลด พนักงานทั้งสองรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สูญหายไปจะเอาชนะปัญหา ซึ่งคู่สัญญาอาจต้องมีผู้จัดการแทรกแซง และบรรเทาข้อโต้แย้งได้อีกตัวอย่างหนึ่งคือเมื่อพนักงานสองคนต้องใช้เครื่องพิมพ์เดียวกัน เมื่อมีงานพิมพ์ขนาดใหญ่ และผูกค่าเครื่องพิมพ์ พนักงานอื่น ๆ บางครั้งล่าช้า และไม่สามารถเรียกเอกสารตามสัญญาออกเวลา ในกรณีนี้ สองฝ่ายสามารถฝึกฝนวิธีบรรเทาข้อโต้แย้งตัวเองได้ ปัญหาใดแก้ไขโดย และ ระหว่างการเสิร์ฟเฉพาะสามารถสองพนักงานระเบียบ และยึดความขัดแย้งที่มีประสิทธิภาพแก้ปัญหาเทคนิค ที่ใช้ในการทำงาน และที่บ้านเวลา อาจมีความขัดแย้งระหว่างพนักงานที่มีความขัดแย้งเพียงบุคลิกภาพตาม ขณะนี้ปัญหาเฉพาะไม่ให้กาชาด กระนั้นมันจะต้องอยู่ ในบางกรณี มันอาจมาถึงจุดที่ทั้งพนักงานจะบอกว่า พวกเขาต้องเรียนรู้การทำงานร่วมกันแม้ว่าความแตกต่างของพวกเขา หรือทั้งสองต้องปล่อย บ่อย ๆ นี่มีผลตั้งใจ ที่คู่สัญญาตกลงเก็บรักษางานของตนว่าสำคัญกว่าต่อการมีส่วนร่วมในความขัดแย้งมีหนึ่งพิจารณาสำคัญอื่น ๆ และนั่นคือความสำคัญของพนักงานสอนวิธีการพูดคุยกันอย่างเหมาะสม ใช้ทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความสงบที่ทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

•สองคนหรือมากกว่ามีส่วนร่วมคน
•มีความไม่ลงรอยกันระหว่างความคิดการรับรู้การกระทำของความเชื่อหรือเป้าหมาย
•ฝ่ายตรงข้ามเห็นทางของพวกเขาเป็นวิธีเดียวที่จะบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของพวกเขา.
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากสองหรือ ผู้คนมากขึ้นมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน มีสองประเภทของความขัดแย้งในสถานที่ทำงานที่มี:
1 ความขัดแย้งที่สำคัญ
2 ความขัดแย้งบุคลิกภาพตาม.
ความขัดแย้งที่สำคัญสามารถจัดการกับได้โดยเฉพาะปัญหาที่เป็นเรื่องของความขัดแย้ง ตัวอย่างเช่นลูซี่ไม่สามารถดำเนินการรายงานของเธอจนจอห์นได้รับทั้งหมดของตัวเลขกับเธอ ลูซี่เชื่อว่าจอห์น procrastinates จนนาทีสุดท้ายที่บังคับให้เธอทำผลงานวิ่งที่เพิ่มความเครียดของเธอและทำให้เธอกลัวว่าเธอจะดูไม่ดีกับเจ้านาย จอห์นรู้สึกเหมือนลูซี่ทำให้ความดันมากเกินไปในทั้งของพวกเขาและการตั้งค่ากำหนดเวลาที่ไม่สมจริง ขณะที่ความขัดแย้งเพิ่มขึ้นของผลผลิตและประสิทธิภาพลดลง พนักงานทั้งสองรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จะหายไปเป็นวิธีการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นที่ที่บุคคลที่อาจต้องมีผู้จัดการแทรกแซงและไกล่เกลี่ยข้อพิพาท.
อีกตัวอย่างหนึ่งคือเมื่อพนักงานสองคนต้องใช้เครื่องเดียวกัน เมื่อหนึ่งมีงานพิมพ์ขนาดใหญ่และผูกเครื่องพิมพ์พนักงานอื่น ๆ บางครั้งมีความล่าช้าและไม่สามารถรับเอกสารสัญญาออกในเวลา ในกรณีนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถผ่านการฝึกอบรมวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของตัวเอง ปัญหาใด ๆ และการแก้ไขโดยระหว่างพนักงานสองคนเท่านั้นที่สามารถให้บริการที่จะช่วยให้พวกเขาและยึดเทคนิคการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่มีประสิทธิภาพที่สามารถนำมาใช้ในที่ทำงานและที่บ้าน.
บางครั้งอาจจะมีความขัดแย้งระหว่างพนักงานที่เป็นเพียงความขัดแย้งบุคลิกภาพตาม . ในขณะที่ปัญหานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ได้เป็นหนึ่งในการไกล่เกลี่ยกระนั้นมันจะต้องได้รับการแก้ไข ในบางสถานการณ์ก็อาจมาถึงจุดที่ทั้งพนักงานจะบอกว่าพวกเขาจะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันทั้งๆที่มีความแตกต่างของพวกเขาหรือทั้งสองต้องออกจาก ส่วนใหญ่มักจะมีผลกระทบที่ตั้งใจในการที่ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการรักษางานของพวกเขามีความสำคัญมากกว่าการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องในความขัดแย้ง.
มีหนึ่งในการพิจารณาที่สำคัญอื่น ๆ ที่เป็นและที่เป็นความสำคัญของพนักงานการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับวิธีการพูดคุยกับแต่ละอื่น ๆ การใช้ทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสงบในที่ทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- คนสองคนหรือมากกว่าที่เกี่ยวข้อง
- มีการรับรู้กันระหว่างความคิดความเชื่อ , การกระทำ , เป้าหมาย , หรือ ,
- ตรงข้ามด้านเห็นวิธีการของพวกเขาเป็นวิธีเดียวที่จะบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของพวกเขา .
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากสองคนหรือมากกว่านั้นมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน มีสองประเภทของความขัดแย้งในสถานที่ทำงาน :
1
ความขัดแย้งสำคัญ 2 บุคลิกภาพความขัดแย้งตาม
ความขัดแย้งที่สำคัญสามารถจัดการโดยการจัดการกับปัญหาเฉพาะ นั่นก็คือ เรื่องของความขัดแย้ง ตัวอย่างเช่น ลูซี่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์รายงานของเธอจนจอห์นได้รับทั้งหมดของตัวเลขให้กับเธอ ลูซี่เชื่อว่าจอห์นผัดวันประกันพรุ่งจนนาทีสุดท้าย บังคับให้เธอต้องรีบงานซึ่งเพิ่มความเครียดของเธอ และทำให้เธอกลัวว่าเธอจะไม่ดีกับเจ้านายจอห์นรู้สึกเหมือนลูซี่ ทำให้ความดันมากเกินไปในทั้งสองของพวกเขาและชุดสมจริงครบกําหนด ขณะที่ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ผลผลิตและลดประสิทธิภาพ ทั้งพนักงานรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับมัน แต่จะสูญเสียเป็นวิธีการเอาชนะปัญหา นี่คือที่ที่บุคคลอาจจะต้องมีผู้จัดการ แทรกแซง และไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
อีกตัวอย่างคือ เมื่อพนักงานสองคน ต้องใช้พิมพ์เดียวกันเมื่อหนึ่งมีงานพิมพ์ขนาดใหญ่และผูกขึ้นเครื่อง พนักงานอื่น ๆ บางครั้งก็ล่าช้าและไม่ได้รับสัญญาเอกสารที่ออกในเวลา ในกรณีนี้ สองฝ่ายได้ผ่านการอบรมวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้วยตนเองปัญหาแก้ได้โดยและระหว่างพนักงานสองคนเท่านั้นที่สามารถใช้เพื่อช่วยให้พวกเขา และยึดเทคนิคการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่มีประสิทธิภาพที่สามารถใช้ที่ทำงานและที่บ้าน .
เวลา อาจมีความขัดแย้งระหว่างพนักงานที่เป็นเพียงบุคลิกขัดแย้งใช้ ในขณะที่ปัญหานี้โดยเฉพาะไม่ได้เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับการไกล่เกลี่ย , กระนั้นมันต้อง addressed ในบางสถานการณ์มันอาจจะมาถึงจุดที่ทั้ง 2 คน เล่าว่า พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกัน ทั้งๆที่มีความแตกต่างของพวกเขาหรือทั้งสองต้องออกไป บ่อยที่สุด นี้ มี วัตถุประสงค์ ผล ที่ทุกฝ่ายยอมรับว่ารักษางานของพวกเขา สำคัญกว่าการต่อสู้ในความขัดแย้ง
มีหนึ่งที่สำคัญอื่น ๆและที่สำคัญของการสอนพนักงานวิธีการอย่างเหมาะสม พูดคุย กับแต่ละอื่น ๆ การใช้ทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาสันติภาพในการทํางาน