China cut the reference rate for it

China cut the reference rate for its currency for the third straight day on Thursday, after the surprise devaluation of the yuan this week unsettled global financial markets.

The central bank put the yuan’s central parity rate at 6.4010 yuan for US$1, the China Foreign Exchange Trade System said, a drop of 1.11% from the previous day’s 6.3306.

It was also lower than Wednesday’s close and comes after China adopted a more market-oriented method of calculating the currency rate in a move widely seen as a devaluation.

The cuts have put financial markets on edge, sparking worries of a “currency war” as other countries feel pressure to devalue and raising questions about the health of the world’s second-largest economy, where growth is already slowing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับสกุลเงินของตนในวันที่สามในวันพฤหัสบดีที่หลังจากการลดค่าเงินประหลาดใจของหยวนในสัปดาห์นี้ยังไม่เรียบร้อยตลาดการเงินทั่วโลก. ธนาคารกลางวางอัตราความเท่าเทียมกันกลางเงินหยวนที่ 6.4010 หยวนสหรัฐ $ 1, จีนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ระบบการค้าระหว่างประเทศกล่าวว่าการลดลง 1.11% จากวันก่อนหน้านี้ 6.3306. มันก็ยังต่ำกว่าใกล้วันพุธและมาหลังจากที่จีนนำมาใช้วิธีการอื่น ๆ อีกมากมายที่มุ่งเน้นการตลาดในการคำนวณอัตราสกุลเงินในการย้ายเห็นอย่างกว้างขวางว่าการลดค่าเงิน. ตัดมี ตลาดการเงินวางบนขอบไฟกังวลของ "สงครามเงินตรา" ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ รู้สึกกดดันที่จะลดค่าและเพิ่มคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของเศรษฐกิจอันดับสองของโลกที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่แล้วเจริญเติบโตชะลอตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จีนตัดอัตราอ้างอิงสำหรับสกุลเงินของตนให้ตรงวันที่สามในวันพฤหัสบดี หลังจากแปลกลดค่าหยวนในสัปดาห์นี้ที่ตลาดการเงินทั่วโลก

ธนาคารกลางใส่หยวนอัตราความเท่าเทียมกันกลาง 6.4010 หยวนสำหรับสหรัฐอเมริกา $ 1 , จีนแลกเปลี่ยนระบบการค้ากล่าวว่า ลดลง 1.11% จาก ก่อนหน้าวัน 6.3306 .

มันเป็นยังต่ำกว่าปิดวันพุธ และมาหลังจากจีนประกาศใช้วิธีการตลาดที่มุ่งเน้นมากขึ้นของการคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนในการย้ายอย่างกว้างขวาง ถือเป็นการลดค่าเงิน

ตัด ทำให้ตลาดการเงินบนขอบพื้นที่ความกังวลของสกุลเงิน " สงคราม " เป็นประเทศอื่น ๆ รู้สึกกดดันเพื่อลดค่า และเพิ่มคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของ เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่เติบโตได้ช้าลง