Several conceptual models have been

Several conceptual models have been proposed to support the rationale for applying simulation in education. One such premise, Mezirow’s Perspective Transformation Theory, poses that the goal of education is to identify activities that stimulate reflective learning (Parker & Faulk 2004). Knowledge is generated when an individual’s perspective is transformed as a result of exposure to a ‘disorienting dilemma’, a situation in which he or she is required to put thoughts into action and is confronted with uncertainty as reality may seem different from what was expected. Simulation activities are an appropriate mechanism for achieving this goal by providing an opportunity for the learner to confront a disorienting dilemma and explore his/her emotional and intellectual reaction without risks associated with clinical responsibility. The common thread across this and other theories which support the use of simulation in health professional education is the importance of fostering self-awareness.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ได้รับการเสนอแนวคิดหลายรูปแบบเพื่อสนับสนุนผลการใช้การจำลองในการศึกษา หนึ่งเช่นหลักฐาน ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงมุมมองของ Mezirow ส่อเค้าว่า เป้าหมายของการศึกษาคือเพื่อ ระบุกิจกรรมที่กระตุ้นการเรียนรู้สะท้อนแสง (ปาร์คเกอร์และ Faulk 2004) ความรู้จะถูกสร้างขึ้นเมื่อมีแปลงมุมมองของแต่ละบุคคลจากการสัมผัสกับการ 'disorienting ลำบากใจ' สถานการณ์ที่เขาหรือเธอจะต้องใส่ความคิดไปสู่การปฏิบัติ และเผชิญกับความไม่แน่นอน ตามความเป็นจริงอาจดูเหมือนแตกต่างจากการที่ถูกต้อง กิจกรรมจำลองจะมีกลไกที่เหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้โดยการให้โอกาสผู้เรียนเผชิญลำบากใจ disorienting และสำรวจปฏิกิริยาทางอารมณ์ และทางปัญญาเขา/เธอไม่ มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบคลินิก หัวข้อทั่วไปนี้และทฤษฎีอื่น ๆ ที่สนับสนุนการใช้การจำลองในการศึกษาอาชีพสุขภาพ คือ ความสำคัญของการทำนุบำรุง self-awareness

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบความคิดหลายคนได้รับการเสนอชื่อเพื่อสนับสนุนเหตุผลสำหรับการใช้แบบจำลองในการศึกษา หนึ่งในสถานที่ดังกล่าว Mezirow มุมมองของทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงโพสท่าว่าเป้าหมายของการศึกษาคือการระบุกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ที่สะท้อนแสง (ปาร์กเกอร์และ Faulk 2004) ความรู้ถูกสร้างขึ้นเมื่อมุมมองของแต่ละคนจะถูกเปลี่ยนเป็นผลมาจากการสัมผัสกับ 'ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสับสน' ในสถานการณ์ที่เขาหรือเธอจะต้องนำความคิดไปสู่​​การปฏิบัติและเผชิญกับความไม่แน่นอนตามความเป็นจริงอาจจะดูแตกต่างจากสิ่งที่คาดหวัง กิจกรรมจำลองเป็นกลไกที่เหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้โดยการให้โอกาสสำหรับผู้เรียนที่จะเผชิญหน้ากับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสับสนและสำรวจ / ปฏิกิริยาทางอารมณ์และสติปัญญาของตนโดยไม่มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบทางคลินิก หัวข้อทั่วไปทั่วทฤษฎีนี้และอื่น ๆ ที่สนับสนุนการใช้แบบจำลองในการดูแลสุขภาพการศึกษามืออาชีพคือความสำคัญของการอุปถัมภ์การรับรู้ด้วยตนเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีหลายรุ่นที่ได้รับการเสนอเพื่อสนับสนุนเหตุผลในการใช้แบบจำลองในการศึกษา สถานที่หนึ่งเช่น เมซิโรว์ก็แปลงมุมมองทฤษฎี ส่อเค้าว่า เป้าหมายของการศึกษาคือ เพื่อระบุกิจกรรมที่กระตุ้นการเรียนรู้สะท้อนแสง ( ปาร์คเกอร์&โฟล์ค 2004 )ความรู้จะถูกสร้างขึ้นเมื่อมุมมองของบุคคลจะเปลี่ยนเป็นผลของการทำให้สับสนเรื่อง ' ' สถานการณ์ที่เขาหรือเธอจะต้องนำความคิดไปสู่การปฏิบัติ และต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนเป็นความจริงอาจจะแตกต่างจากที่คาดไว้กิจกรรมจำลองเป็นกลไกที่เหมาะสมเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้โดยการให้โอกาสสำหรับผู้เรียนเผชิญภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกและสำรวจของเขา / เธอทำให้สับสนทางอารมณ์และทางปัญญา ปฏิกิริยา โดยไม่มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของคลินิกพบกระทู้ในนี้ และทฤษฎีอื่นที่สนับสนุนการใช้แบบจำลองในการศึกษาวิชาชีพสุขภาพความสำคัญของการสร้างความตระหนักในตนเอง .