The conceptual roots for social cog

The conceptual roots for social cognitive theory come from Edwin B. Holt and Harold Chapman Brown's 1931 book theorizing that all animal action is based on fulfilling the psychological needs of “feeling, emotion, and desire”. The most notable component of this theory is that it predicted a person cannot learn to imitate until they are imitated [3]

In 1941, Neal E. Miller and John Dollard presented their book with a revision of Holt’s theory called Social Learning and Imitation Theory. They argued four factors contribute to learning: drives, cues, responses, and rewards. One driver is social motivation, which includes imitativeness, the process of matching an act to an appropriate cue of where and when to perform the act. A behavior will be imitated depending on whether the model receives a positive or negative response consequences [4] Miller and Dollard argued that if one were motivated to learn a particular behavior, then that particular behavior would be learned through clear observations. By imitating these observed actions the individual observer would solidify that learned action and would be rewarded with positive reinforcement.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รากฐานแนวคิดในทฤษฎีสังคมรับรู้มาจากเอ็ดวินบีโฮลต์และฮาโรลด์แชปแมนน้ำตาล 1931 หนังสือเก่าที่ สัตว์กระทำตามการตอบสนองความต้องการทางจิตใจของ "ความรู้สึก อารมณ์ และความปรารถนา" ส่วนประกอบสุดโดดเด่นของทฤษฎีนี้คือ ว่า มันทำนายบุคคลไม่เรียนรู้ที่จะเลียนแบบจนเลียน [3]1941 จอห์น Dollard และนีลมิลเลอร์ E. แสดงหนังสือของพวกเขา ด้วยการปรับปรุงทฤษฎีของ Holt ที่เรียกว่าการเรียนรู้ทางสังคมและทฤษฎีเทียม พวกเขาโต้เถียงสี่ปัจจัยนำไปสู่การเรียนรู้: ไดรฟ์ สัญลักษณ์ คำตอบ และรางวัล โปรแกรมควบคุมหนึ่งสังคมแรงจูงใจ ซึ่งรวมถึง imitativeness กระบวนการของกฎหมายเป็นสัญลักษณ์ที่เหมาะสมของสถานที่และเมื่อทำการกระทำที่ตรงกัน ได้ ลักษณะการทำงานจะเลียนแบบขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบได้รับผลตอบสนองที่เป็นค่าบวก หรือค่าลบมิลเลอร์ [4] และ Dollard โต้เถียงที่หนึ่งได้แรงบันดาลใจให้เรียนรู้ลักษณะเฉพาะ นั้นพฤติกรรมใดที่จะเรียนรู้ผ่านสังเกตชัดเจน โดยเลียนแบบการกระทำเหล่านี้สังเกต นักการละจะเข้าที่ได้เรียนรู้การดำเนินการ และจะได้รับรางวัลเสริมแรงทางบวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รากแนวคิดทฤษฎีองค์ความรู้ทางสังคมมาจากเอ็ดวินบีโฮลท์และแฮโรลด์แชปแมนบราวน์ทฤษฎี 1931 หนังสือที่กระทำสัตว์ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองความต้องการทางจิตวิทยาของ "ความรู้สึกอารมณ์และความปรารถนา" องค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของทฤษฎีนี้ก็คือมันคาดการณ์เป็นคนที่ไม่สามารถเรียนรู้ที่จะเลียนแบบจนกว่าพวกเขาจะเลียนแบบ [3] ในปี 1941 โอนีลอีมิลเลอร์และจอห์น Dollard นำเสนอหนังสือของพวกเขาด้วยการแก้ไขของทฤษฎีโฮลท์ที่เรียกว่าการเรียนรู้ทางสังคมและทฤษฎีการเลียนแบบ พวกเขาอ้างปัจจัยสี่ที่มีส่วนร่วมในการเรียนรู้: ไดรฟ์ตัวชี้นำการตอบสนองและผลตอบแทน คนขับรถหนึ่งคือแรงจูงใจทางสังคมซึ่งรวมถึง imitativeness กระบวนการของการจับคู่การกระทำกับคิวที่เหมาะสมของสถานที่และเวลาในการดำเนินการการกระทำ พฤติกรรมที่จะลอกเลียนแบบขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบที่ได้รับผลกระทบการตอบสนองบวกหรือลบ [4] มิลเลอร์และ Dollard แย้งว่าหากมีแรงจูงใจที่จะเรียนรู้พฤติกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะได้เรียนรู้ผ่านการสังเกตที่ชัดเจน โดยเลียนแบบการกระทำเหล่านี้สังเกตสังเกตการณ์บุคคลที่จะเสริมสร้างการกระทำที่ได้เรียนรู้และจะได้รับการตอบแทนด้วยการเสริมแรงบวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนวคิดของทฤษฎีปัญญาสังคมรากมาจากเอ็ดวินบีโฮลท์ และ ฮาโรลด์ แชปแมน บราวน์ 1931 หนังสือทฤษฎีว่าสัตว์การกระทำขึ้นอยู่กับการตอบสนองความต้องการทางด้านจิตใจของ " ความรู้สึก อารมณ์ และความปรารถนา " เด่นที่สุด องค์ประกอบของทฤษฎีนี้ก็คือมันทำนายคนที่ไม่สามารถเรียนรู้ที่จะเลียนแบบจนกว่าพวกเขาจะเลียนแบบ [ 3 ]

ในปี 1941 , นีลอี.มิลเลอร์และจอห์นดอลเลิร์ดนำเสนอหนังสือของพวกเขาด้วยการแก้ไขของโฮลเรียกว่าทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมและการเลียนแบบทฤษฎี พวกเขาถกเถียงกันอยู่สี่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ : ไดรฟ์ , คิว , การตอบสนอง , และรางวัล หนึ่งไดรเวอร์เป็นแรงจูงใจทางสังคม ซึ่งรวมถึง imitativeness , กระบวนการของการจับคู่การกระทำให้เหมาะสม คิวของที่ไหนและเมื่อใดที่จะทำการแสดงพฤติกรรมจะเลียนแบบ ขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบจะได้รับการตอบสนองในเชิงบวกหรือเชิงลบผล [ 4 ] มิลเลอร์และดอลเลิร์ดแย้งว่าหากมีแรงจูงใจที่จะเรียนรู้พฤติกรรม โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เฉพาะเจาะจง ก็จะได้เรียนรู้ผ่านการสังเกตที่ชัดเจนโดยการเลียนแบบการกระทำเหล่านี้สังเกตสังเกตการณ์บุคคลจะแข็งที่ได้กระทำและจะได้รับการเสริมแรงที่เป็นบวก