In a systematic review on manic and

In a systematic review on manic and depressive
prodromes, Jackson et al. (2003) report that four out of five
individuals with unipolar or bipolar disorder can identify
one or more early symptoms that precede a full recurrence.
The studies included in this review reported on all the
symptoms a patient may experience when becoming
(hypo)manic or depressed. Sleep disturbance was the most
prominent prodrome of mania, and mood change that of
bipolar depression. The studies included differ greatly on
sample sizes (meann = 40; range 20–206) andmethodology.
Two studies (Lam andWong, 1997; Molnar et al., 1988) used
a semi-structured interview, and two studies (Wong and
Lam, 1999; Keitner et al., 1996) used open ended questions
in questionnaires, while Smith and Tarrier (1992) used a
self-constructed 40 items symptom checklist, and Sclare
and Creed (1990) used the present state examination (Wing
et al., 1974) to asses psychiatric symptoms. After 2003 only
one study on this topic was published (Mantere et al., 2008).
In this study, 191 patients in an acute phase of illness were
asked to report prodromes of recurrence via open ended
questions. Only half of these symptomatic patients were
able to report prodromes

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการตรวจทานระบบ depressive และคลั่งไคล้prodromes, Jackson et al. (2003) รายงานราคาที่ 4 จาก 5สามารถระบุบุคคลที่ มีโรค unipolar หรือไฟที่ไบโพลาร์อย่าง น้อยหนึ่งอาการเริ่มต้นที่นำหน้าเกิดขึ้นเต็มที่ศึกษาที่รวมอยู่ในบทความนี้รายงานในทุกอาการที่ผู้ป่วยอาจเป็น(hypo ภูมิ) คลั่งไคล้ หรือซึมเศร้า หลับเป็นที่สุดเปลี่ยน prodrome เด่นบ้า และอารมณ์ของไฟที่ไบโพลาร์โรคซึมเศร้า ศึกษารวมแตกต่างกันอย่างมากในขนาดตัวอย่าง (meann = 40 ช่วง 20 – 206) andmethodologyการศึกษาที่ 2 (ลำ andWong, 1997 ใช้ Molnar et al., 1988)สัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และการศึกษาที่สอง (วงศ์ และลำ 1999 Keitner et al., 1996) ใช้คำถามเปิดที่สิ้นสุดในแบบสอบถาม สมิธและ Tarrier (1992) ใช้เป็นตนเองสร้าง 40 รายการตรวจสอบอาการ และ Sclareและลัทธิ (1990) ใช้ตรวจสถานะปัจจุบัน (วิงร้อยเอ็ด al., 1974) การประเมินอาการทางจิตเวช หลังจาก 2003 เท่านั้นหนึ่งการศึกษาในหัวข้อนี้ถูกเผยแพร่ (Mantere et al., 2008)ในการศึกษานี้ ผู้ป่วย 191 ในระยะเฉียบพลันการเจ็บป่วยได้ขอให้ prodromes รายงานของเกิดขึ้นผ่านการเปิดสิ้นสุดคำถามนี้ เพียงครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่อาการเหล่านี้ได้สามารถรายงาน prodromes

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการทบทวนระบบในความคลั่งไคล้และซึมเศร้า
prodromes แจ็คสันและอัล (2003)
รายงานว่าสี่ห้าบุคคลที่มีความผิดปกติของunipolar
หรือสองขั้วสามารถระบุหนึ่งหรืออาการเริ่มแรกที่นำหน้ากำเริบเต็ม. การศึกษาที่รวมอยู่ในการตรวจสอบนี้รายงานในทุกอาการผู้ป่วยอาจพบเมื่อกลายเป็น(สำหรับผู้ที่) คลั่งไคล้หรือ หดหู่ รบกวนการนอนหลับเป็นส่วนใหญ่prodrome ที่โดดเด่นของความบ้าคลั่งและอารมณ์เปลี่ยนแปลงของภาวะซึมเศร้าไบโพลาร์ การศึกษารวมถึงการที่ต่างกันมากในขนาดตัวอย่าง (meann = 40; ช่วง 20-206) andmethodology. สองการศึกษา (ลำ andWong 1997. Molnar et al, 1988) ที่ใช้ในการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและการศึกษาทั้งสอง(วงศ์และลำ 1999. Keitner et al, 1996) ที่ใช้คำถามปลายเปิดในแบบสอบถามในขณะที่สมิธ และ Tarrier (1992) ใช้ตัวเองสร้าง40 รายการรายการตรวจสอบอาการและ Sclare และลัทธิ (1990) ที่ใช้ในการตรวจสอบสภาพปัจจุบัน (ปีกet al, , 1974) เพื่อประเมินอาการทางจิตเวช หลังจากที่ 2003 การศึกษาในหัวข้อนี้ได้ถูกตีพิมพ์ (Mantere et al., 2008). ในการศึกษานี้ 191 ผู้ป่วยในระยะเฉียบพลันของการเจ็บป่วยได้รับการขอให้รายงานprodromes ของการเกิดซ้ำผ่านปลายเปิดคำถาม เพียงครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้สามารถรายงาน prodromes

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า manic และ
prodromes แจ็คสัน et al . ( 2003 ) รายงานว่า สี่ในห้าของ
บุคคลกับ unipolar หรือไบโพลาร์สามารถระบุหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งอาการแรกที่

หน้าซ้ำเต็ม เรียนรวมในการตรวจสอบนี้รายงานอาการของผู้ป่วยอาจพบ

( ใต้ ) เมื่อเป็น manic หรือหดหู่ รบกวนการนอนหลับมากที่สุด
Prodrome เด่นของความบ้าคลั่งและอารมณ์เปลี่ยนแปลงของ
ภาวะซึมเศร้ามีสองขั้ว การศึกษารวมแตกต่างกันอย่างมากใน
ขนาดตัวอย่าง ( meann = 40 ; ช่วง 20 ( 206 ) andmethodology .
2 การศึกษา ( ลำ andwong , 1997 ; โมลนาร์ et al . , 1988 ) ใช้
สัมภาษณ์อย่างไร และสองศึกษา ( Wong และ
ลำ , 1999 ; keitner et al . , 1996 ) ใช้ปลายเปิด คำถามในแบบสอบถาม
ในขณะที่สมิ ธและ tarrier ( 1992 ) ใช้
สร้างรายการตรวจสอบอาการตนเอง 40 รายการ และ sclare
และหลักความเชื่อ ( 1990 ) ใช้ตรวจสอบสถานะปัจจุบัน ( ปีก
et al . , 1974 ) เพื่อประเมินอาการทางจิต หลังจากที่ 2003 เท่านั้น
การศึกษาหนึ่งในหัวข้อนี้จะถูกตีพิมพ์ ( mantere et al . , 2008 ) .
ในการศึกษาผู้ป่วย 191 ในระยะเฉียบพลันของเจ็บป่วย
ขอให้รายงาน prodromes ของการเกิดขึ้นอีกทาง
คำถามปลายเปิดเพียงครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้
สามารถรายงาน prodromes