The Thai Tuna Industry Association

The Thai Tuna Industry Association (TTIA) expects tuna export value to rise by 15% to 85-90 billion baht this year, thanks to growing demand in the Middle East, South Africa and Latin America, says president Chanintr Chalisarapong. It also expects the volume of tuna shipments to increase this year after five consecutive years of decline. We expect to see growth of about 2% from 650,000 tonnes last year. We bottomed out last year and it will only improve, said Mr Chanintr. Over the past five years, the value of Thailand's tuna shipments has declined because of the lower cost of raw tuna, but this year the price is expected to be stable. The production cost of tuna is also able in line with the price of fuel said Mr Chanintr. Thailand is the world's leading exporter of canned tuna, even though almost all raw tuna is imported and processed here for reexport. Major export markets in the Middle East, South Africa and Latin America continue to grow, accounting for 50% of tuna shipments, followed by the US and Europe (25%) and Canada, Japan and Australia (25%). Fortunately, emerging markets such as the Middle East, South Africa and Latin America are still having positive growth that could offset the deep plunge of demand in the US and EU in line with their poor economies, said Mr Chanintr. The Thai industry has sought ways to avoid being affected by global raw tuna prices by focusing on innovation to increase the value of products. We also have to manage to stay in markets where the impact from the global economy and currency exchange volatility are severe. We are selling tuna as commodity products, making us compete for small margins, said Mr Chanintr. Tuna byproducts can be used as materials in many industries, including cosmetics and nutrients The TTIA is closely monitoring the movement of the baht while hoping the Bank of Thailand will intervene to make it more stable when needed. Exporters are hoping to see the baht remain at 35-36 to the US dollar

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย (TTIA) คาดว่ามูลค่าการส่งออกปลาทูน่าเพิ่มขึ้น 15% ถึง 85-90 ล้านบาทในปีนี้ ขอบคุณเติบโตอุปสงค์ในตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และ อเมริกา ประธานาธิบดีโชว์รูมชนินทร์ลิ Chalisarapong กล่าว นอกจากนี้ยังคาดว่าปริมาณการส่งปลาทูน่าเพิ่มปีนี้หลังจากห้าปีลดลง เราคาดว่าจะเติบโตประมาณ 2% จาก 650,000 ตันปี นายโชว์รูมชนินทร์ลิเราเท่าตลาดปีสุดท้าย และมันจะ พัฒนา กล่าว ผ่านมาห้าปี ค่าขนส่งสินค้าทูน่าของไทยได้ปฏิเสธเนื่องจากราคาที่ลดลงของปลาทูน่าดิบ แต่ปีนี้คาดว่าจะมีเสถียรภาพราคา ต้นทุนการผลิตปลาทูน่าจะได้กับราคาน้ำมันกล่าวว่า นายโชว์รูมชนินทร์ลิ ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกชั้นนำของโลกของปลาทูน่ากระป๋อง แม้ว่าปลาทูน่าดิบเกือบทั้งหมดเป็นการนำเข้า และประมวลผลนี่สำหรับง้ ตลาดส่งออกใหญ่ในตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และเมริกายังคงเติบโต การบัญชีสำหรับ 50% ของการจัดส่งปลาทูน่า ตาม ด้วยสหรัฐอเมริกา และยุโรป (25%) และแคนาดา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย (25%) โชคดี ตลาดเกิดใหม่เช่นตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และอเมริกายังมีเติบโตในเชิงบวกที่สามารถชดเชยส่วนลึกของความต้องการในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่ไม่ดีของพวกเขา กล่าวว่า นายโชว์รูมชนินทร์ลิ อุตสาหกรรมไทยที่มีต้องการหลีกเลี่ยงการรับผลกระทบจากราคาปลาทูน่าดิบทั่วโลก โดยเน้นนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้เรายังมีการจัดการที่พักในตลาดรุนแรงผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เราขายปลาทูน่าเป็นผลิตภัณฑ์สินค้า ทำให้เราแข่งขันสำหรับขอบขนาดเล็ก นายโชว์รูมชนินทร์ลิกล่าว ปลาทูน่าผลพลอยได้ที่สามารถใช้เป็นวัสดุในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องสำอาง และสารอาหาร TTIA เป็นอย่างใกล้ชิดตรวจสอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหวังจะแทรกแซงเพื่อทำให้มั่นคงขึ้นเมื่อจำเป็น ผู้ส่งออกหวังที่จะเห็นเงินบาทอยู่ที่ 35-36 ดอลลาร์สหรัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปลาทูน่าไทยสมาคมอุตสาหกรรม (TTIA) คาดว่ามูลค่าการส่งออกปลาทูน่าจะเพิ่มขึ้น 15% ถึง 85-90000000000 บาทในปีนี้ต้องขอบคุณความต้องการเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางแอฟริกาใต้และละตินอเมริกาประธาน Chanintr Chalisarapong กล่าวว่า นอกจากนี้ยังคาดว่าปริมาณการจัดส่งปลาทูน่าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้หลังจากห้าปีติดต่อกันของการลดลง เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตประมาณ 2% จาก 650,000 ตันในปีที่ผ่านมา เราผ่านจุดต่ำสุดในปีที่ผ่านมาและมันจะดีขึ้นนาย Chanintr กล่าวว่า ที่ผ่านมาห้าปีที่ผ่านมามูลค่าของการจัดส่งปลาทูน่าของไทยได้ลดลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าของปลาทูน่าดิบ แต่ปีนี้เป็นราคาที่คาดว่าจะทรงตัว ค่าใช้จ่ายในการผลิตปลาทูน่ายังสามารถสอดคล้องกับราคาของน้ำมันเชื้อเพลิงกล่าวว่านาย Chanintr ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกชั้นนำของโลกของปลาทูน่ากระป๋องแม้ว่าเกือบทุกปลาทูน่าดิบที่นำเข้าและการประมวลผลที่นี่สำหรับซ้ำ ตลาดส่งออกที่สำคัญในตะวันออกกลางแอฟริกาและละตินอเมริกายังคงเติบโตคิดเป็น 50% ของการจัดส่งปลาทูน่าตามด้วยสหรัฐอเมริกาและยุโรป (25%) และแคนาดาญี่ปุ่นและออสเตรเลีย (25%) โชคดีที่ตลาดเกิดใหม่เช่นตะวันออกกลางแอฟริกาใต้และละตินอเมริกายังคงมีการเติบโตเป็นบวกที่สามารถชดเชยแช่น้ำลึกของความต้องการในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจที่ไม่ดีของพวกเขากล่าวว่านาย Chanintr อุตสาหกรรมไทยได้ขอวิธีการหลีกเลี่ยงถูกผลกระทบจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่าทั่วโลกโดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้เรายังมีการจัดการที่จะอยู่ในตลาดที่รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและบริการแลกเปลี่ยนเงินตราผันผวนรุนแรง เราจะขายปลาทูน่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ทำให้เราแข่งขันกันเพื่อให้ขอบเล็กนาย Chanintr กล่าวว่า ผลพลอยได้จากปลาทูน่าสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุในอุตสาหกรรมจำนวนมากรวมทั้งเครื่องสำอางและสารอาหารที่ TTIA เป็นอย่างใกล้ชิดตรวจสอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในขณะที่ความหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะแทรกแซงเพื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้นเมื่อมีความจำเป็น ผู้ส่งออกมีหวังที่จะเห็นค่าเงินบาทยังคงอยู่ที่ 35-36 ต่อดอลลาร์สหรัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อุตสาหกรรมปลาทูน่า สมาคมไทย ( ttia ) คาดว่ามูลค่าการส่งออกปลาทูน่าเพิ่มขึ้น 15% พระรามพันล้านบาทในปีนี้ เพราะความต้องการเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกา กล่าวว่า ประธาน chanintr chalisarapong . นอกจากนี้ยังคาดว่า ปริมาณปลาทูน่าการจัดส่งเพิ่มขึ้นในปีนี้หลังจากห้าปีติดต่อกันของการปฏิเสธ เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตประมาณ 2% จาก 650 , 000 ตันในปีที่แล้ว เรา bottomed ออกเมื่อปีที่แล้ว และมันเพียง แต่จะปรับปรุง นาย chanintr . ที่ผ่านมาห้าปี , มูลค่าของสินค้าทูน่าของไทยได้ลดลงเนื่องจากต้นทุนของวัตถุดิบปลาทูน่า แต่ปีนี้ราคาคาดว่าจะคงที่ ต้นทุนการผลิตปลาทูน่ากระป๋องยังสามารถสอดคล้องกับราคาเชื้อเพลิงกล่าวนาย chanintr . ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกชั้นนําของโลก ปลาทูน่ากระป๋อง แม้ว่าเกือบทั้งหมดนำเข้าและแปรรูปปลาทูน่าดิบที่นี่ reexport . ตลาดส่งออกสำคัญในตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกายังคงเติบโต , บัญชีสำหรับ 50% ของสินค้าทูน่า ตามด้วยสหรัฐ และยุโรป ( 25% ) และแคนาดา , ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ( 25% ) โชคดีที่ตลาดเกิดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกายังคงมีการขยายตัวเป็นบวกที่สามารถชดเชยสระลึกของอุปสงค์ในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป สอดคล้องกับเศรษฐกิจของคนจน นาย chanintr . อุตสาหกรรมไทยมีการแสวงหาวิธีการเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับผลกระทบจากราคาปลาทูน่าดิบทั่วโลกโดยเน้นนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ เรายังต้องจัดการให้อยู่ในตลาด ซึ่งผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนรุนแรง เราขายทูน่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ทำให้เราแข่งขัน ขอบเล็ก กล่าวว่า นาย chanintr . ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่า สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ เครื่องสําอาง และรัง ttia อย่างใกล้ชิดติดตามการเคลื่อนไหวของเงินบาท ขณะที่หวังธนาคารแห่งประเทศไทยจะแทรกแซงเพื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้นเมื่อต้องการ ส่งออก หวังที่จะเห็นเงินบาทอยู่ที่ 35-36 เพื่อดอลลาร์