after withering, crushing, rolling,

after withering, crushing, rolling, fermenting and drying of fresh
tea leaves [30]. Because during this process, the tea leaves have
been shredded, so there are more edges and more surface area as
well as a breakdown of leaf proteins, which increases the availability
of freed caffeine and therefore more caffeine can be
extracted in water [31]. As results, the increase of plasma caffeine
was concomitant with the reduction of adipose tissue gain and
related blood and liver triglycerides whereas fecal caffeine was not.
Consistent with other studies [22,32,33], we believe that the high
absorption of caffeine from GTD and more from BTD may be efficient
in the decrease of adipose tissue mass in rats fed HFD.
Therefore, caffeine from tea decoction, especially from BTD could
be considered as an additional potential factor for stimulating
thermogenesis and promotes fat oxidation. However, the caffeine
content of GTD and BTD cannot completely explain the reduction of
adipose tissue mass because it was demonstrated that thermogenic
effect of tea extract containing both caffeine and catechin polyphenols
is greater than that of an equivalent amount of caffeine
[34]. Thus, the caffeine may act independently or synergistically
with catechins and theaflavins of GTD and BTD [23]. The antiobesity
effect of caffeine from tea, especially in animals, has been
observed in different experimental conditions [35]. Hence, the
intake of caffeine doses (0.025e0.1%) for 21 days reduced body fat
mass gain in rats fed a high-fat diet in a dose dependant manner
[35]. This reduction was concomitant with an increase of serum
epinephrine, norepinephrine, dopamine and free fatty acid levels,
suggesting an active catecholamine synthesis and lipolysis [35]. In
addition, the caffeine consumption showed to inhibit the enzyme
phosphodiesterase and leading to increase intracellular cAMP as
well as sympathetic nervous system and lipase activities, which
promotes lipolysis [36]. Accordingly, and being richer in TFs and
caffeine than the GTD, BTD was found more efficient in term of
reduction of abdominal adipose tissue gain and lowering blood and
liver lipids.
Some other phenolic compounds, including vanillic acid ester,
kaempferol 3-glycoside and gentissic acids were found in GTD and
BTD although as little amounts. It has been reported that D-glucosyl-
kaempferol isolated from Sauropus at a dose of 60 mg/kg
significantly reduced food intake in rats by 15%, resulting in decreases
in body weight and free triglyceride without obvious histopathological
changes [37]. Unlike to synthetic or isolated glucosylkaempferol
compounds, it is difficult to highlight the distinctive
effect of kaempferol from GTD and BTD on the decrease of adiposity
or body weight gains because of the interference of several polyphenolic
compounds present in tea decoctions. However, we can
consider that the anti-adiposity effect of these simple phenolics
present in tea is far lower than that of gallic acid, known for its
powerful action on the modulation of dietary lipids digestion and
adiposity.
In summary, chronic administration of short-time tea decoctions
(15-min GTD or 15-min BTD) during 10-weeks, dramatically
reduced lipid digestion, lowering liver and blood lipids,
adipose tissue mass and body weight gains in rats fed HFD. The data
showed a higher efficiency of BTD compared to GTD, which confer
to these traditional cooking beverages, rich in TPC mostly EGCG and
TFs as well as caffeine, a natural alternative in the prevention of
obesity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากกวาดเรียบ บด กลิ้ง หมัก และอบแห้งของสดใบชา [30] เนื่องจากในระหว่างกระบวนการนี้ มีใบชาการเตรียม จึงมีขอบเพิ่มเติมและพื้นที่ผิวมากขึ้นเป็นตลอดจนรายละเอียดของใบโปรตีน ซึ่งเพิ่มความพร้อมใช้งานคาเฟอีนอิสระและคาเฟอีเพิ่มเติมจึงสามารถสกัดในน้ำ [31] เป็นผล การเพิ่มขึ้นของพลาสม่าคาเฟอีนถูกมั่นใจกับการลดลงของเนื้อเยื่อไขมันกำไร และที่เกี่ยวข้องกับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและตับ โดยที่ไม่มีคาเฟอีนอุจจาระสอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ [22,32,33], เราเชื่อว่าสูงการดูดซึมของคาเฟอีนจาก GTD จาก BTD อาจมีประสิทธิภาพในการลดมวลเนื้อเยื่อไขมันในหนูที่เลี้ยง HFDดังนั้น คาเฟอีนจากชายาต้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก BTD อาจถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่อาจมีเพิ่มเติมสำหรับกระตุ้นthermogenesis และส่งเสริมการเกิดออกซิเดชันของไขมัน อย่างไรก็ตาม คาเฟอีนเนื้อหาของ GTD และ BTD สมบูรณ์ไม่สามารถอธิบายการลดลงของเนื้อเยื่อไขมันมวลเนื่องจากมันถูกแสดงให้เห็นว่า thermogenicสารสกัดจากผลของชาที่ประกอบด้วยคาเฟอีนและสารสกัดจากโพลีฟีนมากกว่าของจำนวนเงินเทียบเท่าของคาเฟอีน[34] . ดังนั้น คาเฟอีนอาจทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ หรือร่วมคาเทชินและ theaflavins GTD และ BTD [23] Antiobesity การผลของคาเฟอีนจากชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัตว์ ได้รับสังเกตในเงื่อนไขทดลอง [35] ด้วยเหตุนี้ การการบริโภคปริมาณคาเฟอีน (0.025e0.1%) 21 วันลดไขมันในร่างกายมวลในหนูเลี้ยงด้วยอาหารที่มีไขมันสูงในลักษณะขึ้นกับปริมาณ[35] . ที่ลดลงนี้ก็มั่นใจกับการเพิ่มขึ้นของซีรั่มอะดรีนาลี norepinephrine โดพามีน และ ระดับกรดไขมันอิสระแนะนำการสังเคราะห์ active catecholamine และผลิตระหว่างประเทศ [35] ในนอกจากนี้ การบริโภคคาเฟอีแสดงให้เห็นว่าการยับยั้งเอนไซม์นี้phosphodiesterase และนำไปสู่เพิ่ม cAMP ภายในเซลล์เป็นตลอดจนกิจกรรมของเอนไซม์ไลเปส และระบบประสาทซึ่งส่งเสริมการผลิตระหว่างประเทศ [36] ดังนั้น และถูกยิ่งขึ้นใน TFs และคาเฟอีกว่า GTD, BTD พบมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะของลดเนื้อเยื่อไขมันหน้าท้องเพิ่มขึ้นและลดเลือด และไขมันตับบางอื่น ๆ ม่อฮ่อม รวมทั้งเอสเทอร์กรด vanillicพบ kaempferol 3 glycoside และ gentissic กรดใน GTD และBTD แม้เป็นจำนวนเล็กน้อย มีรายงานว่า D-glucosyl -kaempferol ที่แยกได้จากผักที่มีปริมาณ 60 มิลลิกรัม/กิโลกรัมอย่างมีนัยสำคัญการบริโภคอาหารที่ลดลงในหนู 15% ส่งผลให้ลดลงน้ำหนักและไตรกลีเซอไรด์ฟรีไม่ชัดเจน histopathologicalการเปลี่ยนแปลง [37] ซึ่งแตกต่างจากการสังเคราะห์ หรือแยก glucosylkaempferolสาร มันเป็นเรื่องยากเพื่อเน้นความโดดเด่นผลของ kaempferol GTD และ BTD บนลด adiposityหรือกำไรจากน้ำหนักตัวเนื่องจากการรบกวนของ polyphenolic หลายสารประกอบที่อยู่ในชา decoctions อย่างไรก็ตาม เราสามารถconsider that the anti-adiposity effect of these simple phenolicspresent in tea is far lower than that of gallic acid, known for itspowerful action on the modulation of dietary lipids digestion andadiposity.In summary, chronic administration of short-time tea decoctions(15-min GTD or 15-min BTD) during 10-weeks, dramaticallyreduced lipid digestion, lowering liver and blood lipids,adipose tissue mass and body weight gains in rats fed HFD. The datashowed a higher efficiency of BTD compared to GTD, which conferto these traditional cooking beverages, rich in TPC mostly EGCG andTFs as well as caffeine, a natural alternative in the prevention ofobesity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากกวาดบดกลิ้งหมักและการอบแห้งของสด
ใบชา [30] เพราะในช่วงขั้นตอนนี้ใบชาได้
รับการหั่นจึงมีขอบมากขึ้นและพื้นที่ผิวมากขึ้นเช่น
เดียวกับการสลายของโปรตีนใบซึ่งเพิ่มความพร้อมเป็น
ของคาเฟอีนเป็นอิสระและคาเฟอีนมากขึ้นจึงสามารถ
สกัดในน้ำ [31] ในฐานะที่เป็นผลการเพิ่มขึ้นของคาเฟอีนพลาสม่า
ก็ไปด้วยกันกับการลดลงของกำไรจากเนื้อเยื่อไขมันและ
เกี่ยวข้องกับเลือดและตับไตรกลีเซอไรด์ในขณะที่คาเฟอีนในอุจจาระไม่ได้.
สอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ [22,32,33] เราเชื่อว่าสูง
การดูดซึมของคาเฟอีนจาก GTD และอื่น ๆ จาก BTD อาจจะมีประสิทธิภาพ
ในการลดลงของมวลเนื้อเยื่อไขมันในหนูที่เลี้ยง HFD. the
ดังนั้นคาเฟอีนจากยาต้มชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก BTD อาจ
ถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่มีศักยภาพในการกระตุ้น
thermogenesis และส่งเสริมการออกซิเดชันไขมัน แต่คาเฟอีน
เนื้อหาของ GTD และ BTD ไม่สามารถอธิบายการลดลงของ
มวลเนื้อเยื่อไขมันเพราะมันแสดงให้เห็นว่า thermogenic
ผลของสารสกัดจากชาที่มีทั้งคาเฟอีนและโพลีฟีน Catechin
เป็นมากกว่าที่จำนวนเทียบเท่าของคาเฟอีน
[34] ดังนั้นคาเฟอีนอาจทำหน้าที่ได้อย่างอิสระหรือร่วม
กับ catechins และ theaflavins ของ GTD และ BTD [23] antiobesity
ผลของคาเฟอีนจากชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัตว์ที่ได้รับการ
ตั้งข้อสังเกตในเงื่อนไขการทดลองที่แตกต่างกัน [35] ดังนั้น
การหดตัวของปริมาณคาเฟอีน (0.025e0.1%) สำหรับ 21 วันลดไขมันในร่างกาย
ได้รับมวลในหนูที่เลี้ยงด้วยอาหารที่มีไขมันสูงในปริมาณขึ้นอยู่กับลักษณะ
[35] การลดลงนี้เป็นไปด้วยกันกับการเพิ่มขึ้นของซีรั่ม
อะดรีนาลีน norepinephrine, โดพามีนและฟรีระดับกรดไขมัน
บอกสังเคราะห์ catecholamine การใช้งานและการสลายไขมัน [35] ใน
นอกจากนี้การบริโภคคาเฟอีนแสดงให้เห็นในการยับยั้งเอนไซม์
phosphodiesterase และนำไปสู่การเพิ่ม intracellular ค่ายเป็น
อย่างดีเป็นระบบและเอนไซม์ไลเปสประสาทกิจกรรมที่
ส่งเสริมการสลายไขมัน [36] ดังนั้นและเป็นที่ดียิ่งขึ้นใน TFS และ
คาเฟอีนมากกว่า GTD ที่ BTD ก็พบว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นในแง่ของ
การลดลงของกำไรจากเนื้อเยื่อในช่องท้องไขมันและลดเลือดและ
ตับไขมัน.
บางสารประกอบฟีนอลอื่น ๆ รวมทั้งเอสเตอร์ของกรด vanillic,
เฟอรอล 3 glycoside และ gentissic กรดที่พบใน GTD และ
BTD แม้จะเป็นจำนวนน้อย มันได้รับรายงานว่า D-glucosyl-
เฟอรอลที่แยกได้จาก Sauropus ในขนาด 60 มิลลิกรัม / กก.
ลดลงอย่างมีนัยสำคัญการรับประทานอาหารในหนูโดย 15% ส่งผลให้การลด
น้ำหนักในร่างกายและไตรกลีเซอไรด์ฟรีโดยไม่ต้องจุลพยาธิวิทยาที่เห็นได้ชัด
การเปลี่ยนแปลง [37] ซึ่งแตกต่างจากการสังเคราะห์หรือแยก glucosylkaempferol
สารประกอบมันเป็นเรื่องยากที่จะเน้นความโดดเด่น
ผลของเฟอรอลจาก GTD และ BTD ในการลดความอ้วน
หรือน้ำหนักตัวกำไรเนื่องจากการรบกวนของโพลีฟีหลาย
สารประกอบในปัจจุบัน decoctions ชา แต่เราสามารถ
พิจารณาว่าฤทธิ์ต้านความอ้วนของฟีนอลง่ายๆเหล่านี้
อยู่ในชาอยู่ไกลกว่าที่ของกรดแกลลิ, ที่รู้จักกันสำหรับ
การดำเนินการที่มีประสิทธิภาพในการปรับไขมันในอาหารการย่อยอาหารและ
อ้วน.
ในการสรุปการบริหารเรื้อรังระยะสั้น เวลา decoctions ชา
(15 นาที GTD หรือ 15 นาที BTD) ในช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างมาก
ลดลงการย่อยอาหารไขมันลดตับและเลือดไขมัน
มวลเนื้อเยื่อไขมันและกำไรน้ำหนักตัวในหนูที่เลี้ยง HFD ข้อมูล
แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นของ BTD เมื่อเทียบกับ GTD ซึ่งมอบ
เครื่องดื่มปรุงอาหารแบบดั้งเดิมเหล่านี้อุดมไปด้วย TPC ส่วนใหญ่ EGCG และ
TFS เช่นเดียวกับคาเฟอีนเป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติในการป้องกันของ
โรคอ้วน