were detected. The accumulation of

were detected. The accumulation of volatiles was not a consequence
of carbohydrates consumed by respiration during storage
as no variation in individual and total sugars were observed in
baby spinach held in different MAP conditions. The effect low O2
and high CO2 at low temperatures on microorganisms of freshcut
spinach leaves has been studied. Izumi et al. (1997) reported
that low O2 atmospheres did not affect the total number of aerobic
mesophilic bacteria, lactic acid bacteria, or development of decay.
Baby spinach leaves harboured high numbers of psychrophilic aerobic
bacteria, identified mainly as a pectinolytic species (Babic and
Watada, 1996). These authors reported that low O2 atmospheres
could be used to control spoilage microorganisms on cut spinach
leaves atleastfor 7 d. We observed thatlow O2 with or without CO2
reduced the number of psychrophiles and Pseudomonas microorganisms
in baby spinach leaves compared to moderate O2 with
CO2. Several authors reported that enriched CO2 atmospheres had
a significant inhibitory effect on the growth of aerobic microorganisms
on broccoli (Berrang et al., 1990), chicory leaves (Carlin
and Nguyen-the, 1994) and fresh-cut spinach (Babic and Watada,
1996). Wells (1974) reported a decrease in growth rates of P. fluorescens
by concentrations of CO2 in excess of 10%. Ibe and Grogan
(1983) demonstrated that O2 concentrations of 4% or less combined
with CO2 concentrations of 10% or more reduced the growth of P.
fluorescens by 50% compared to air. The inhibitory effect of low O2
with CO2 was not due to an acidification of the microbial environment,
but probably to decreased oxygen availability in agreement
with Babic and Watada (1996) who reported that low O2, rather
than high CO2 seemed to be the limiting factor for the growth of
aerobic microorganisms on spinach leaves at 5 ◦C but not at 10 ◦C.
We found that baby spinach stored to moderate O2 with CO2 had
high microbiological counts probably because of the high degree
of nutrient release by the senescence tissue. Moreover, after 12 d,
leaves that were stored in moderate O2 with CO2 showed a discontinuous
cytoplasm along the cell margin, which indicated increased
membrane permeability and the characteristic process of necrotic
death in vegetative cells (Van Doorn et al., 2011).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถูกตรวจพบ การสะสมของสารระเหยที่ไม่ได้เป็นผล
ของคาร์โบไฮเดรตบริโภคโดยการหายใจระหว่างการเก็บรักษา
เป็นความแตกต่างของแต่ละบุคคลและน้ำตาลรวมไม่พบใน
ผักโขมทารกที่จัดขึ้นในสภาวะที่แตกต่างกัน ผล O2 ต่ำ
และ CO2 สูงที่อุณหภูมิต่ำจุลินทรีย์ของ freshcut
ใบผักขมได้รับการศึกษา Izumi, et al (1997) รายงาน
ว่าบรรยากาศที่ O2 ต่ำไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจำนวนรวมของแอโรบิก
แบคทีเรีย mesophilic แบคทีเรียกรดแลคติกหรือการพัฒนาของการสลายตัว.
ผักขมทารกใบเก็บงำตัวเลขที่สูงของแอโรบิก psychrophilic
แบคทีเรียระบุส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ pectinolytic (Babic และ
Watada, 1996) ผู้เขียนเหล่านี้รายงานว่าบรรยากาศที่ O2 ต่ำ
สามารถนำมาใช้ในการควบคุมจุลินทรีย์เน่าเสียกับการตัดผักโขม
ใบ atleastfor 7 วัน เราสังเกต thatlow O2 มีหรือไม่มี CO2
ลดจำนวนของ psychrophiles และจุลินทรีย์ Pseudomonas
ในผักโขมใบทารกเมื่อเทียบกับระดับปานกลางกับ O2
CO2 หลายคนเขียนรายงานว่าบรรยากาศ CO2 อุดมมี
ผลยับยั้งอย่างมีนัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์แอโรบิก
ในผักชนิดหนึ่ง (Berrang et al., 1990), ใบสีน้ำเงิน (คาร์ล
และเหงียนที่, 1994) และผักขมสดตัด (Babic และ Watada,
1996) เวลส์ (1974) รายงานการลดลงของอัตราการเจริญเติบโตของ P. fluorescens
โดยความเข้มข้นของ CO2 ในส่วนที่เกิน 10% Ibe และ Grogan
(1983) แสดงให้เห็นว่ามีความเข้มข้นของ O2 4% หรือน้อยกว่ารวม
ที่มีความเข้มข้นของ CO2 10% หรือมากกว่าลดการเจริญเติบโตของพี
fluorescens ขึ้น 50% เมื่อเทียบกับอากาศ ผลการยับยั้งของ O2 ต่ำ
ด้วย CO2 ไม่ได้เนื่องจากเป็นกรดของสภาพแวดล้อมของจุลินทรีย์ให้
แต่อาจจะลดลงออกซิเจนในสัญญา
กับ Babic และ Watada (1996) ที่รายงานว่าต่ำ O2 ค่อนข้าง
กว่า CO2 สูงดูเหมือนจะเป็นปัจจัย จำกัด สำหรับการเจริญเติบโตของ
เชื้อจุลินทรีย์แอโรบิกในผักโขมใบที่ 5 ◦C แต่ไม่ได้อยู่ที่ 10 ◦C.
เราพบว่าผักขมทารกที่เก็บไว้ถึงปานกลาง O2 กับ CO2 มี
การนับจำนวนของจุลินทรีย์สูงอาจจะเป็นเพราะระดับสูง
ของการปล่อยสารอาหารโดยเนื้อเยื่อเสื่อมสภาพ นอกจากนี้หลังจาก 12 D,
ใบที่ถูกเก็บไว้ในระดับปานกลางกับ O2 CO2 ต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่า
พลาสซึมตามขอบเซลล์ซึ่งชี้ให้เห็นเพิ่ม
การซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์และกระบวนการลักษณะของเศษ
ตายในเซลล์พืช (Van Doorn et al. 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถูกตรวจพบ การสะสมสารระเหยได้ผลของการบริโภคคาร์โบไฮเดรตโดยการหายใจในระหว่างการเก็บรักษาเป็นรูปแบบที่ไม่มีในบุคคลทั้งหมด และพบว่าในน้ำตาลผักขมทารกจัดขึ้นในสภาพแผนที่ที่แตกต่างกัน ผลกระทบต่ำ ออกซิเจนและ CO2 สูงที่อุณหภูมิต่ำ freshcut จุลินทรีย์ของใบผักโขม ได้เรียน อิซูมิ et al . ( 1997 ) รายงานต่ำ O2 ที่บรรยากาศไม่มีผลต่อจำนวนของแอโรบิกเมโซฟิลิกแบคทีเรีย แบคทีเรียกรดแลคติก หรือการพัฒนาของการสลายตัวใบผักขมทารกเก็บงำสูงตัวเลขของไซโครฟิลิกแอโรบิกแบคทีเรีย ระบุส่วนใหญ่เป็นชนิดและ babic เพกทิโนไลติกwatada , 1996 ) ผู้เขียนเหล่านี้รายงานว่าบรรยากาศต่ำ ออกซิเจนสามารถใช้ในการควบคุมจุลินทรีย์ในการตัดผักขมใบ atleastfor 7 D . เราสังเกต thatlow O2 CO2 มี หรือ ไม่มีลดจำนวนของ psychrophiles ของจุลินทรีย์และในใบผักขมทารกเทียบกับ O2 กับปานกลางCO2 ผู้เขียนหลายรายงานที่อุดมด้วยบรรยากาศ CO2 มีมีผลยับยั้งต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์แอโรบิกในผักชนิดหนึ่ง ( berrang et al . , 1990 ) ใบ chicory ( Carlinและ เหงียน , 1994 ) และผักขมสดตัดกับ watada ( babic ,1996 ) เวลส์ ( 1974 ) รายงานการลดลงของอัตราการเจริญเติบโตของ P . fluorescensโดยความเข้มข้นของ CO2 เกิน 10% และ ibe โกรแกน( 1983 ) พบว่า ความเข้มข้นของ O2 4 % หรือน้อยกว่า รวมที่มีความเข้มข้น CO2 10 % หรือมากกว่า ลดการเจริญเติบโตของพีโรคโดย 50% เมื่อเทียบกับอากาศ ผลยับยั้งของออกซิเจนต่ำกับคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ได้เกิดจากการสร้างสภาพแวดล้อมของจุลินทรีย์แต่อาจจะต้องใช้ออกซิเจนลดลงในข้อตกลงกับ babic และ watada ( 1996 ) ที่รายงานว่าค่อนข้างต่ำ O2 ,กว่า CO2 สูงดูเหมือนจะเป็นปัจจัยจำกัดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์แอโรบิกในใบผักโขมที่ 5 ◦ C แต่ไม่ที่ 10 ◦ Cเราพบว่าผักขมเด็กเก็บค่า O2 กับ CO2 ได้สูงอาจเป็นเพราะจุลินทรีย์นับระดับสูงของการปลดปล่อยธาตุอาหารจากการเสื่อมสภาพเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ หลังจาก 12 วันใบที่ถูกเก็บไว้ในระดับ CO2 O2 กับแสดงความไซโตปลาสซึมตามขอบเซลล์ซึ่งพบเพิ่มขึ้นการซึมผ่านเมมเบรนและลักษณะที่กระบวนการความตายในลักษณะเซลล์ ( รถตู้ Doorn et al . , 2011 )