What do explosions and roasting mar

What do explosions and roasting marshmallows have in common?

All explosions, regardless of their source, are characterized by a large release of energy, the production of gas molecules that expand quickly, and a rapid rate of reaction.

     Burning sugar—chemically known as sucrose (C12H22O11)—produces energy almost immediately. Anyone who has roasted a marshmallow—which is mostly made of sugar—over a fire knows the marshmallow ignites and burns like a torch. This process, called combustion, is described by the following chemical reaction: C12H22O11 (solid) + 12 O2 (gas) ➔ 12 CO2 (gas) + 11 H2O (gas) + energy

Note that there are 12 moles of gas on the left side of the equation for the combustion of sugar but 23 moles of gas on the right side. This explains the increase in volume typical in explosive reactions. What this chemical reaction does not show, though, is that this volume needs to increase rapidly for an explosion to occur.

   So, why doesn’t sugar explode or at least light on fire when we eat it? When we eat sugar, sucrose is first digested in the stomach into its component sugars, one of which is glucose (C6H12O6). Glucose subsequently reacts with oxygen in a series of small steps within our cells that produce carbon dioxide (CO2), water (H2O), and energy.

The process can be summarized according to the following equation

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระเบิด และเที่ยวคั่วมีเหมือนอะไรระเบิดทั้งหมด โดยไม่คำนึงถึงแหล่งที่มา มีลักษณะ โดยมีการปล่อยพลังงานขนาดใหญ่ ผลิตของโมเลกุลของแก๊สที่ขยายอย่างรวดเร็ว และอัตราเร็วของปฏิกิริยา เผาไหม้น้ำตาล — สารเคมีเป็นซูโครส (C12H22O11) — ผลิตพลังงานเกือบจะทันที ใครมีคั่วแมลเป็น — ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากน้ำตาล — มากกว่าไฟรู้ว่า มาร์ชแมลโลว์ราก และการเผาไหม้เช่นไฟฉาย กระบวนการนี้ เรียกว่าเผาไหม้ อธิบายไว้ โดยปฏิกิริยาเคมีต่อไปนี้: C12H22O11 (แข็ง) + 12 O2 (ก๊าซ) ➔ 12 CO2 (ก๊าซ) + 11 H2O (ก๊าซ) + พลังงาน ทราบว่า มี 12 โมลของก๊าซบนด้านซ้ายของสมการการเผาไหม้น้ำตาลแต่ 23 โมลของแก๊สที่ด้านขวา นี้อธิบายถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณในปฏิกิริยาระเบิด สิ่งนี้ปฏิกิริยาเคมีไม่แสดง แม้ว่า ไม่ว่า ปริมาณนี้ต้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับการระเบิดเกิดขึ้น ดังนั้น ทำไมไม่น้ำตาลกระจาย หรือแสงน้อยไฟเมื่อเรากินมัน เมื่อเรากินน้ำตาล น้ำตาลซูโครสเป็นครั้งแรกถูกย่อยในกระเพาะอาหารเป็นน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นกลูโคส (C6H12O6) กลูโคสทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในตอนเล็ก ๆ ภายในเซลล์ของเราที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), น้ำ (H2O), และพลังงาน ต่าง ๆ ในเวลาต่อมา สามารถสรุปกระบวนการตามสมการต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระเบิดและมาร์ชเมลโลว์ย่างมีอะไรเหมือนกัน?

ระเบิดทั้งหมดโดยไม่คำนึงถึงแหล่งที่มาของพวกเขาที่โดดเด่นด้วยการเปิดตัวที่มีขนาดใหญ่ของพลังงาน, การผลิตของโมเลกุลของแก๊สที่ขยายตัวได้อย่างรวดเร็วและในอัตราที่รวดเร็วของการเกิดปฏิกิริยา.

     การเผาไหม้น้ำตาลสารเคมีที่รู้จักกันเป็นน้ำตาลซูโครส (C12H22O11) -produces พลังงานเกือบจะในทันที ทุกคนที่ได้ย่างขนมหวานซึ่งเป็นส่วนใหญ่ทำจากน้ำตาลกว่าไฟรู้จี้ใจดำขนมหวานและการเผาไหม้เช่นไฟฉาย กระบวนการนี้เรียกว่าการเผาไหม้มีการอธิบายโดยปฏิกิริยาเคมีต่อไปนี้: C12H22O11 (ของแข็ง) + 12 O2 (แก๊ส) ➔ 12 CO2 (ก๊าซ) + 11 H2O (แก๊ส) + พลังงาน

ทราบว่ามี 12 โมลของก๊าซที่ด้านซ้าย ของสมการสำหรับการเผาไหม้ของน้ำตาล แต่ 23 โมลของก๊าซที่ด้านขวา นี้จะอธิบายถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณการทั่วไปในการเกิดปฏิกิริยาระเบิด สิ่งที่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีนี้ไม่ได้แสดง แต่เป็นว่าหนังสือเล่มนี้ต้องการที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับการระเบิดที่จะเกิดขึ้น.

   ดังนั้นทำไมไม่ระเบิดน้ำตาลหรืออย่างน้อยไฟบนไฟเมื่อเรากินมันได้หรือไม่ เมื่อเรากินน้ำตาลซูโครสจะถูกย่อยเป็นครั้งแรกในกระเพาะอาหารเป็นน้ำตาลเป็นส่วนประกอบของซึ่งหนึ่งในนั้นคือกลูโคส (C6H12O6) กลูโคสต่อมาทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในชุดของขั้นตอนเล็ก ๆ ภายในเซลล์ของเราที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), น้ำ (H2O) และพลังงาน.

กระบวนการสามารถสรุปได้ตามสมการดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำไมการระเบิดและ marshmallows ปิ้งมีอะไรเหมือนกัน ?ทั้งหมดระเบิด ไม่ว่าแหล่งที่มาของพวกเขามีลักษณะโดยการปล่อยขนาดใหญ่ของพลังงาน , การผลิตก๊าซโมเลกุลที่ขยายอย่างรวดเร็ว และอย่างรวดเร็ว อัตราของปฏิกิริยา     น้ำตาลไหม้สารเคมีที่เรียกว่าน้ำตาลซูโครส ( c12h22o11 ) - ผลิตพลังงานแทบจะทันที ใครที่ได้ย่างมัชเมลโล่ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ทำจากน้ำตาลผ่านไฟรู้มาชเมลโลติดไฟ และเผาไหม้เช่นไฟฉาย กระบวนการนี้เรียกว่าการเผาไหม้ คือการอธิบายโดยต่อไปนี้ปฏิกิริยาทางเคมี : c12h22o11 ( แข็ง ) + 12 O2 ( แก๊ส ) ➔  12 CO2 ( แก๊ส ) + H2O + พลังงาน ( ก๊าซ ) 11ทราบว่ามี 12 โมลของก๊าซบนด้านซ้ายของสมการการเผาไหม้น้ำตาลแต่ 23 โมลของก๊าซบนด้านขวา นี้จะอธิบายถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณปกติในปฏิกิริยาที่ระเบิด ว่าปฏิกิริยาทางเคมีไม่แสดง แม้ว่า คือ ปริมาณความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับการระเบิดจะเกิดขึ้น   ดังนั้นทำไมไม่น้ำตาลกระจาย หรืออย่างน้อยก็เบาไฟ เมื่อเรากินมัน ? เมื่อเราทานน้ำตาล ซูโครสเป็นครั้งแรกย่อยในกระเพาะอาหารเป็นองค์ประกอบของน้ำตาล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกลูโคส ( C6H12O6 ) กลูโคสสามารถทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในชุดของขั้นตอนขนาดเล็กภายในเซลล์ของเราที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2 ) , น้ำ ( H2O ) และพลังงานกระบวนการสามารถสรุปได้ตามสมการต่อไปนี้