-ฉันชื่อ กรี่ปับ อาศัยอยู่ในเมืองผ้

-ฉันชื่อ กรี่ปับ อาศัยอยู่ในเมืองผ้าอนามัย และนี่คือตำนานอันเก่าแก่ที่ถูกเล่าขานต่อกันมา ha ha ha ha…
- ในปี 1942 ราชินีและราชาได้ให้กำเนิดบุตรธิดานามว่า "โกเต็ก" ในเวลาที่skyสว่าง ดวงจันทร์เต็มดวง และนอกเหนือจากองค์หญิงโกเต็กแล้ว ยังมีลูกสาวของสนมอีก 3 คน(ราชามีภรรยาหลายคน) นามว่า โซฟี ลอริเอะ และ โมเดส ที่ได้ถือกำเนิดในเวลาเดียวกันกับองค์หญิงโกเต็ก แต่สิ่งที่แปลกกว่านั้น คือ หลังของบุตรทั้ง 4 ของพระราชานั้น มีปานรูป saxophon ขุนนางต่างพากันหาความหมายของปานนั้น แต่ก็ไม่มีใครทราบเลย
- 5 ปีต่อมา ราชา ราชินี และ สนม ต่างพากันล้มตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ บุตรทั้ง 4 เลยตกไปอยู่ในการดูแลของ "ควีนชาล็อต" ผู้ซึ่งเป็นญาติห่างๆของราชา ควีนชาล็อต เป็นหญิงสาวที่รูปร่างงดงาม และยังเป็นกุลสตรี แต่ภายใต้กุลสตรีที่สูงส่ง หล่อนกลับซ่อนนิสัยที่น่าสพึงกลัวไว้โดยไม่มีใครทราบ(คนที่ได้เห็นหรือพบกับนิสัยนั้นของหล่อนไม่เคยได้กลับมาอีกเลย) บวกกับการเลี้ยง lopster และ starfish ตัวใหญ่ยักษ์ ที่หล่อนทั้งloveและหวงมาก มีผู้คนต่างพูดกันว่า หล่อนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนของราชา ราชินี และ สนมทั้งหลาย ควีนชาล็อต อิจฉาบุตรทั้ง 4 ที่มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามกว่าหล่อน หล่อนจึงหาวิธีกลั่นแกล้งบุตรทั้ง 4 แต่บางวิธีก็ทำให้บุตรทั้ง 4 เกิบเอาชีวิตไม่รอด
-15 ปีต่อมา ในวันที่ sea ไม่มีคลื่น บุตรทั้ง 4 ได้มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในงานฉลองครบรอบอายุ 20 ปี ได้มีเหตุการประหลาดเกิดขึ้น คือ ปานที่หลังของ บุตรทั้ง 4 ได้หายไปและกลายมาเป็นเครื่องดนตรีที่มีความสามารถในการทำลายคล้ายกับสารเคม BUTANONWEี พวกหล่อนสงสัยในการการสิ้นพระชนของของบิดาและมารดาของตน เลยตามหาคำตอบในวันนั้น พวกหล่อนได้ติดต่อให้ home หรือ เชอร์ล็อกโฮม และ แฮรี่พอตเตอร์ มาช่วย พวกหล่อนตัดสินใจเข้าไปในป่าเพื่อตามหา elf ที่เคยอยู่รับใช้ราชาและราชินีในช่วงนั้น ระหว่างการเดินทาง พวกหล่อนได้พบกับ monster เชอร์ล็อกโฮม และ แฮรี่พอตเตอร์ จึงอาสาจัดการกับ monster เอง (แฮรี่พอตเตอร์ได้ใช้ขลุ่ยของประอภัยมณีฆ่า monster ) ดังนั้นพวกหล่อนเดินทางต่อ และได้พบกับ elf พวกหล่อนจึงถามความจริง
- elf พูดว่า “สาเหตุที่ราชา ราชินี และสนม สิ้นพระชนเป็นเพราะ บุตรทั้ง 4 ได้ใช้เครื่องดนตรีประหารพวกท่านโดยไม่ได้ต้งใจ พวกเราเหล่า elf เลยนำ memory ที่เลวร้านนั้นออกจาก memory ของพวกเธอ” เมื่อพวกหล่อนได้รู้ความจริงก็เสียใจมากเลยฆ่าตัวตายด้วยอาวุธที่เคยฆ่าบิดาและมารดาของพวกหล่อน ควีนชาล็อตเลยได้ทรัพสมบัติทั้งหมดและปกครองเมืองผ้าอนามัย ต่อมาควีนชาล็อตได้แต่งงานกับ elf ชื่อว่า กรี่ปับ
! คำพูดของ elf เป็นความจริง หรือ ต้องการโกหกบุตรทั้ง 4 กันแน่แต่ก็ไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้เลย !
…AND…

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

-ฉันชื่อกรี่ปับอาศัยอยู่ในเมืองผ้าอนามัยและนี่คือตำนานอันเก่าแก่ที่ถูกเล่าขานต่อกันมาฮา ฮา ฮา ฮา...-ในปีปี 1942 ราชินีและราชาได้ให้กำเนิดบุตรธิดานามว่า "โกเต็ก" ในเวลาที่skyสว่าง ดวงจันทร์เต็มดวงและนอกเหนือจากองค์หญิงโกเต็กแล้วยังมีลูกสาวของสนมอีก 3 คน(ราชามีภรรยาหลายคน)นามว่าโซฟีลอริเอะและโมเดสที่ได้ถือกำเนิดในเวลาเดียวกันกับองค์หญิงโกเต็กแต่สิ่งที่แปลกกว่านั้นคือหลังของบุตรทั้ง 4 ของพระราชานั้นมีปานรูป saxophon ขุนนางต่างพากันหาความหมายของปานนั้นแต่ก็ไม่มีใครทราบเลย -5 ปีต่อมาราชาราชินีและสนมบุตรทั้ง 4 ต่างพากันล้มตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุเลยตกไปอยู่ในการดูแลของ "ควีนชาล็อต" ผู้ซึ่งเป็นญาติห่างๆของราชาควีนชาล็อตเป็นหญิงสาวที่รูปร่างงดงามและยังเป็นกุลสตรีแต่ภายใต้กุลสตรีที่สูงส่งหล่อนกลับซ่อนนิสัยที่น่าสพึงกลัวไว้โดยไม่มีใครทราบ(คนที่ได้เห็นหรือพบกับนิสัยนั้นของหล่อนไม่เคยได้กลับมาอีกเลย)บวกกับการเลี้ยง lopster และปลาดาวตัวใหญ่ยักษ์ ที่หล่อนทั้งloveและหวงมาก มีผู้คนต่างพูดกันว่าหล่อนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนของราชาราชินีและสนมทั้งหลายควีนชาล็อตอิจฉาบุตรทั้ง 4 ที่มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามกว่าหล่อนหล่อนจึงหาวิธีกลั่นแกล้งบุตรทั้ง 4 แต่บางวิธีก็ทำให้บุตรทั้ง 4 เกิบเอาชีวิตไม่รอด-15 ปีต่อมา ในวันที่ sea ไม่มีคลื่น บุตรทั้ง 4 ได้มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในงานฉลองครบรอบอายุ 20 ปี ได้มีเหตุการประหลาดเกิดขึ้น คือ ปานที่หลังของ บุตรทั้ง 4 ได้หายไปและกลายมาเป็นเครื่องดนตรีที่มีความสามารถในการทำลายคล้ายกับสารเคม BUTANONWEี พวกหล่อนสงสัยในการการสิ้นพระชนของของบิดาและมารดาของตน เลยตามหาคำตอบในวันนั้น พวกหล่อนได้ติดต่อให้ home หรือ เชอร์ล็อกโฮม และ แฮรี่พอตเตอร์ มาช่วย พวกหล่อนตัดสินใจเข้าไปในป่าเพื่อตามหา elf ที่เคยอยู่รับใช้ราชาและราชินีในช่วงนั้น ระหว่างการเดินทาง พวกหล่อนได้พบกับ monster เชอร์ล็อกโฮม และ แฮรี่พอตเตอร์ จึงอาสาจัดการกับ monster เอง (แฮรี่พอตเตอร์ได้ใช้ขลุ่ยของประอภัยมณีฆ่า monster ) ดังนั้นพวกหล่อนเดินทางต่อ และได้พบกับ elf พวกหล่อนจึงถามความจริง -เอลฟ์พูดว่า "สาเหตุที่ราชาราชินีและสนมสิ้นพระชนเป็นเพราะบุตรทั้ง 4 ได้ใช้เครื่องดนตรีประหารพวกท่านโดยไม่ได้ต้งใจพวกเราเหล่าเอลฟ์เลยนำจำที่เลวร้านนั้นออกจากจำของพวกเธอ" เมื่อพวกหล่อนได้รู้ความจริงก็เสียใจมากเลยฆ่าตัวตายด้วยอาวุธที่เคยฆ่าบิดาและมารดาของพวกหล่อนควีนชาล็อตเลยได้ทรัพสมบัติทั้งหมดและปกครองเมืองผ้าอนามัยต่อมาควีนชาล็อตได้แต่งงานกับเอลฟ์ชื่อว่ากรี่ปับ! คำพูดของเอลฟ์เป็นความจริงหรือต้องการโกหกบุตรทั้ง 4 กันแน่แต่ก็ไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้เลย… เกราะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

- ฉันชื่อกรี่ปับอาศัยอยู่ในเมืองผ้าอนามัย ฮ่าฮ่า ...
- ในปี 1942 "โกเต็ก" ในเวลาที่ท้องฟ้าสว่างดวงจันทร์เต็มดวงและนอกเหนือจากองค์หญิงโกเต็กแล้วยังมีลูกสาวของสนมอีก 3 คน (ราชามีภรรยาหลายคน) นามว่าโซฟีลอริเอะและโมเดส แต่สิ่งที่แปลกกว่านั้นคือหลังของบุตรทั้ง 4 ของพระราชานั้นมีปานรูป saxophon แต่ก็ไม่มีใครทราบเลย
- 5 ปีต่อมาราชาราชินีและสนมต่างพากันล้มตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุบุตรทั้ง 4 เลยตกไปอยู่ในการดูแลของ "ควีนชาล็อต" ผู้ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ของ ราชาควีนชาล็อตเป็นหญิงสาวที่รูปร่างงดงามและยังเป็นกุลสตรี แต่ภายใต้กุลสตรีที่สูงส่ง บวกกับการเลี้ยง lopster และปลาดาวตัวใหญ่ยักษ์ที่หล่อนทั้งรักและหวงมากมีผู้คนต่างพูดกันว่า ราชินีและสนมทั้งหลายควีนชาล็อตอิจฉาบุตรทั้ง 4 หล่อนจึงหาวิธีกลั่นแกล้งบุตรทั้ง 4 แต่บางวิธีก็ทำให้บุตรทั้ง 4 เกิบเอาชีวิตไม่รอด
-15 ปีต่อมาในวันที่น้ำทะเลไม่มีคลื่นบุตรทั้ง 4 ได้มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ในงานฉลองครบรอบอายุ 20 ปีได้มี เหตุการประหลาดเกิดขึ้นคือปานที่หลังของบุตรทั้ง 4 BUTANONWE ี เลยตามหาคำตอบในวันนั้นพวกหล่อนได้ติดต่อให้บ้านหรือเชอร์ล็อกโฮมและแฮรี่พอตเตอร์มาช่วย เด็กซน ระหว่างการเดินทางพวกหล่อนได้พบกับมอนสเตอร์เชอร์ล็อกโฮมและแฮรี่พอตเตอร์จึงอาสาจัดการกับมอนสเตอร์เอง มอนสเตอร์) ดังนั้นพวกหล่อนเดินทางต่อและได้พบกับเอลฟ์พวกหล่อนจึงถามความจริง
- เอลฟ์พูดว่า "สาเหตุที่ราชาราชินีและสนมสิ้นพระชนเป็นเพราะบุตรทั้ง 4 พวกเราเหล่าเอลฟ์หน่วยความจำเลยนำที่เลวร้านนั้นออกจากหน่วยความจำของพวกเธอ " ต่อมาควีนชาล็อตได้แต่งงานกับเอลฟ์ชื่อว่ากรี่ปับ!
คำพูดของเอลฟ์เป็นความจริงหรือต้องการโกหกบุตรทั้ง 4 !
... และ ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- ฉันชื่อกรี่ปับอาศัยอยู่ในเมืองผ้าอนามัยและนี่คือตำนานอันเก่าแก่ที่ถูกเล่าขานต่อกันมา
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า . . . . . . .