Where Europeans and Indigenous peop

Where Europeans and Indigenous peoples first encountered each other, they fought over land and resources—and women. On many frontiers, or what I call “marital middle grounds,” settlers negotiated the novel marriage practices they encountered. By respecting local marriage protocols, white frontiersmen avoided violence and gained access to the local political, economic, and environmental knowledge networks needed to sustain themselves on unfamiliar land.

Yet, for colonial elites, such relationships threatened to disrupt what they hoped would be a forward expansion of the frontier. Indigenous peoples’ marriage systems allowed for the “uncivilized” practices they rejected, such as inheriting land and property through the female line and polygamy. Settlers and their new families integrated into worlds where Indigenous rights still mattered. However, the enforcement of its own legal and cultural system was fundamental to colonial power.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชาวยุโรปและชนพื้นเมืองก่อนพบกัน พวกเขาแย่งชิงที่ดินและทรัพยากร — และผู้หญิง บนพรมแดนหลาย หรือสิ่งที่ผมเรียกว่า "บริเวณกลางสมรส" ตั้งถิ่นฐานเจรจาปฏิบัติแต่งนวนิยายที่พวกเขาพบ โดยเคารพโพรโทคอแต่งงานท้องถิ่น ขาว frontiersmen หลีกเลี่ยงความรุนแรง และได้รับการเข้าถึงท้องถิ่นทางการเมือง เศรษฐกิจ และเครือข่ายความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นในการรักษาตัวเองบนที่ดินที่ไม่คุ้นเคยยัง สำหรับโคโลเนียลที่ร่ำรวย ความสัมพันธ์ดังกล่าวคุกคามเพื่อทำลายสิ่งที่พวกเขาหวังว่า จะขยายตัวไปข้างหน้าของชายแดน ระบบแต่งงานชนเผ่าที่อนุญาตสำหรับการปฏิบัติที่ "ป่าเถื่อน" พวกเขาปฏิเสธ เช่นที่ดินและทรัพย์สินผ่านเส้นหญิงและสามีที่สืบทอด ตั้งถิ่นฐานและครอบครัวใหม่รวมเข้ากับโลกที่ชนพื้นเมืองสิทธิยังคงเพลง อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้ระบบกฎหมาย และวัฒนธรรมของตนเองเป็นพื้นฐานอำนาจอาณานิคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ชาวยุโรปและชนพื้นเมืองครั้งแรกที่พบกันพวกเขาต่อสู้กับที่ดินและทรัพยากรและหญิง บนพรมแดนจำนวนมากหรือสิ่งที่ผมเรียก "บริเวณกลางสมรส" มาตั้งถิ่นฐานในการเจรจาต่อรองการปฏิบัติแต่งงานนวนิยายพวกเขาพบกับ โดยคำนึงถึงโปรโตคอลแต่งงานท้องถิ่น frontiersmen ขาวหลีกเลี่ยงความรุนแรงและได้รับการเข้าถึงเครือข่ายทางการเมืองเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมความรู้ในท้องถิ่นที่จำเป็นในการรักษาตัวเองบนที่ดินที่ไม่คุ้นเคย.

แต่สำหรับชนชั้นอาณานิคมสัมพันธ์ดังกล่าวขู่ว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่พวกเขาหวังว่าจะเป็นไปข้างหน้า การขยายตัวของชายแดน ชนเผ่าพื้นเมืองการสมรสได้รับอนุญาตสำหรับการปฏิบัติ "ป่าเถื่อน" พวกเขาได้ปฏิเสธเช่นสืบทอดที่ดินและทรัพย์สินผ่านสายเพศหญิงและสามี การตั้งถิ่นฐานและครอบครัวของพวกเขาใหม่แบบบูรณาการเข้าไปในโลกที่ยังคงสิทธิชนพื้นเมืองที่สำคัญ อย่างไรก็ตามระบบการบังคับใช้กฎหมายและวัฒนธรรมของตัวเองเป็นพื้นฐานสู่อำนาจอาณานิคม