However, due to the scarcity of res

However, due to the scarcity of research in this area further
studies are needed (Hämmerer and Eppinger, 2012).
Furthermore, previous research has not addressed an
important aspect of reinforcement learning, that is, the
ability to alter and re-learn behaviours following changes in
reinforcements. A robust finding in the executive function
literature is that children are poorer than adults in switching
to new behaviours when prompted by cues (Koolschijn
et al., 2011). This suggests that children will have particular
difficulty with learning when reinforcement contingencies
change. Furthermore, the learning tasks used previously
have been complicated, with multiple feedback conditions
presented for different S–R associations within task
blocks, creating considerable working memory demands
(Crone et al., 2004; Eppinger et al., 2009; Hämmerer
et al., 2010). Crone et al. (2004) and Eppinger et al.
(2009) controlled for this problem by allocating children
extra response time, but nevertheless the difficulty of
these tasks may have enhanced developmental differences.
1.3. The current study
The study aims were firstly to further investigate
neurocognitive differences in the typical development of
reinforcement learning using a simple task designed to
reduce the influence of age-related performance differences
on ERP correlates of learning. The intention was to
ensure all participants could perform the task adequately
regardless of age so that any ERP differences are more
likely to reflect differences in the recruitment of neural
networks underlying task performance, rather than floor or
ceiling effects in one age group. Secondly, to assess developmental
differences in the ability to change and re-learn
acquired behaviour in response to altered reinforcement
contingencies we compared children aged 9–11 years with
adults aged 21 years and over. Our aim was to establish
whether children differ from adults in behavioural
and brain correlates of learning before they undergo the
significant maturational changes that take place during
adolescence. During EEG recording typically developing
children and adults performed a task in which they learned
four S–R associations by positive and negative feedback
and then reversed the associations after an unexpected
change in reinforcement contingencies. Changes in performance
and feedback processing, indexed by the FRN,
related to learning and reversal were examined across the
task and between age groups. Additionally, changes in the
P3 ERP, a positive deflection at ∼300ms post-stimulus,
were examined. P3 amplitude increases with progressing
reinforcement learning in adults, which is thought to reflect
increasing consolidation of to-be-learned behaviours (Rose
et al., 2001). The P3 may further elucidate neurocognitive
differences between children and adults, for example,
children may show weaker consolidation of associations
than adults reflected by smaller P3 amplitude increases
with learning. We predicted children would show smaller
learning-related changes in performance and ERP amplitudes
during the initial acquisition of S–R mappings than
adults, reflecting poorer learning ability at this age. Further,
we expected children to show greater disruptions
to performance and greater reliance on feedback, indexed
by smaller FRN amplitude changes, when the reversal
occurred.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขาดแคลนงานวิจัยในพื้นที่นี้เพิ่มเติมการศึกษาจำเป็น (Hämmerer และ Eppinger, 2012)นอกจากนี้ งานวิจัยก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่ด้านสำคัญของการเสริมสร้างการเรียนรู้ นั่นคือ การต่อการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการเรียนรู้และความสามารถในการเปลี่ยนแปลงเพิ่มกำลังการ ค้นหามีประสิทธิภาพในการทำงานผู้บริหารวรรณคดีคือเด็กย่อมกว่าผู้ใหญ่สลับการพฤติกรรมใหม่เมื่อได้รับพร้อมท์ โดยสัญลักษณ์ (Koolschijnร้อยเอ็ด al., 2011) นี้แนะนำว่า เด็กจะมีโดยเฉพาะปัญหาในการเรียนรู้เมื่อ contingencies เสริมเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ งานการเรียนรู้ที่ใช้ก่อนหน้านี้มีความซับซ้อน มีหลายเงื่อนไขผลป้อนกลับนำเสนอสำหรับความสัมพันธ์ของ S – R แตกต่างกันภายในงานบล็อก การสร้างความต้องการหน่วยความจำทำงานมาก(Crone et al., 2004 Eppinger et al., 2009 Hämmererร้อยเอ็ด al., 2010) Crone et al. (2004) และ Eppinger et al(2009) ควบคุมปัญหานี้ โดยการปันส่วนเด็กเวลาตอบรับเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามปัญหาของงานเหล่านี้อาจได้ปรับปรุงพัฒนาความแตกต่าง1.3. การศึกษาปัจจุบันการศึกษามุ่งหมายประการแรกมีการ ตรวจสอบเพิ่มเติมneurocognitive ความแตกต่างในการพัฒนาโดยทั่วไปใช้งานง่ายออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้เสริมสร้างลดอิทธิพลของความแตกต่างของประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับอายุใน ERP ที่สัมพันธ์กับการเรียนรู้ ความตั้งใจที่จะให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดสามารถทำงานได้อย่างเพียงพอโดยไม่คำนึงถึงอายุเพื่อให้มีความแตกต่างของ ERP เพิ่มเติมแนวโน้มที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในการสรรหาบุคลากรของประสาทเครือข่ายประสิทธิภาพงานต้นแบบ มากกว่าชั้น หรือผลกระทบเพดานในประชากรกลุ่มหนึ่ง ประการที่สอง การประเมินพัฒนาความแตกต่างในความสามารถในการเปลี่ยนแปลง และการเรียนรู้พฤติกรรมที่ได้รับการเสริมแรงการเปลี่ยนแปลงcontingencies เราเปรียบเทียบเด็กอายุ 9 – 11 ปีด้วยผู้ใหญ่อายุ 21 ปี และมากกว่า จุดมุ่งหมายของเราคือสร้างว่าเด็กต่างจากผู้ใหญ่ในพฤติกรรมและสมองคู่การเรียนรู้ก่อนที่จะรับการmaturational การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดในระหว่างการวัยรุ่น ระหว่าง EEG บันทึกพัฒนาโดยทั่วไปเด็กและผู้ใหญ่ทำงานที่พวกเขาเรียนรู้4 S – R สมาคม โดยการบวกและการป้อนกลับเชิงลบและกลับรายการการเชื่อมโยงแล้ว หลังจากที่ไม่คาดคิดเปลี่ยนแปลงใน contingencies เสริม เปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพการทำงานและประมวลผล การสร้างดัชนี โดย FRN ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และกลับถูกตรวจสอบในการงานและ ระหว่างกลุ่มอายุ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในการP3 ERP, deflection บวกที่กระตุ้นเศรษฐกิจหลัง ∼300msได้ตรวจสอบ เพิ่มคลื่น P3 กับความก้าวหน้าเสริมการเรียนรู้ในผู้ใหญ่ ที่คิดถึงได้เรียนรู้ไป be วิญญาณ (โรสรวมเพิ่มขึ้นและ al., 2001) P3 อาจเพิ่มเติม elucidate neurocognitiveความแตกต่างระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ ตัวอย่างเด็กอาจแสดงรวมแข็งแกร่งของความสัมพันธ์กว่าผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นขนาดเล็ก P3 คลื่นสะท้อนมีการเรียนรู้คำ เราคาดว่า เด็กจะแสดงขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้เปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการทำงานและช่วง ERPในระหว่างการซื้อเริ่มต้นการแม็ป S – R มากกว่าผู้ใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเรียนรู้ย่อมที่ยุคนี้ เพิ่มเติมเราคาดว่าเด็กแสดงมากกว่าหยุดชะงักประสิทธิภาพการทำงานและพึ่งผลป้อนกลับมากขึ้น การทำดัชนีโดยเปลี่ยนแปลงขนาดเล็ก FRN คลื่น เมื่อกลับรายการเกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่เนื่องจากความขาดแคลนของการวิจัยในพื้นที่นี้ต่อไป
การศึกษามีความจำเป็น (Hammerer และ Eppinger, 2012).
นอกจากวิจัยก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ที่สำคัญของการเรียนรู้เสริมนั่นคือ
ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและเรียนรู้อีกครั้งพฤติกรรมดังต่อไปนี้ การเปลี่ยนแปลงใน
การเพิ่มกำลัง การค้นพบที่มีประสิทธิภาพในการทำงานของผู้บริหาร
วรรณกรรมคือการที่เด็กจะด้อยกว่าผู้ใหญ่ในการเปลี่ยน
พฤติกรรมใหม่เมื่อได้รับแจ้งจากตัวชี้นำ (Koolschijn
et al., 2011) นี้แสดงให้เห็นว่าเด็กจะมีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ความยากลำบากกับการเรียนรู้เมื่อการเสริมแรงผูกพัน
การเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้การเรียนรู้งานที่ใช้ก่อนหน้านี้
ได้รับการซับซ้อนที่มีเงื่อนไขหลายข้อเสนอแนะ
ที่นำเสนอให้กับสมาคม S-R แตกต่างกันภายในงาน
บล็อก, สร้างความต้องการหน่วยความจำมากทำงาน
(ยายเฒ่า et al, 2004;.. Eppinger et al, 2009; Hammerer
และคณะ , 2010) ยายเฒ่าและคณะ (2004) และ Eppinger et al.
(2009) การควบคุมสำหรับปัญหานี้โดยการจัดสรรเด็ก
เวลาตอบสนองพิเศษ แต่ยังคงความยากง่ายของ
งานเหล่านี้อาจมีการปรับปรุงพัฒนาการที่แตกต่างกัน.
1.3 การศึกษาในปัจจุบัน
มีจุดมุ่งหมายการศึกษาเป็นครั้งแรกเพื่อตรวจสอบ
ความแตกต่าง neurocognitive ในการพัฒนาโดยทั่วไปของ
การเสริมแรงการเรียนรู้การใช้งานที่ง่ายออกแบบมาเพื่อ
ลดอิทธิพลของความแตกต่างของผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับอายุ
ใน ERP มีความสัมพันธ์ของการเรียนรู้ ความตั้งใจที่จะ
ให้แน่ใจว่าผู้เข้าร่วมทั้งหมดสามารถดำเนินงานได้อย่างเพียงพอ
ไม่คำนึงถึงอายุเพื่อให้แตกต่าง ERP ใด ๆ มี
แนวโน้มที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในการรับสมัครงานของระบบประสาท
พื้นฐานเครือข่ายปฏิบัติงานมากกว่าพื้นหรือ
ผลกระทบเพดานในกลุ่มอายุหนึ่ง ประการที่สองเพื่อประเมินพัฒนาการ
ความแตกต่างในความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้อีกครั้ง
พฤติกรรมที่ได้มาในการตอบสนองต่อการเสริมแรงการเปลี่ยนแปลง
ภาระผูกพันเราเมื่อเทียบกับเด็กอายุ 9-11 ปีที่มี
ผู้ใหญ่อายุ 21 ปีขึ้นไป จุดมุ่งหมายของเราคือการสร้าง
ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ในพฤติกรรม
สัมพันธ์และสมองของการเรียนรู้ก่อนที่พวกเขาได้รับ
การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเต็มที่ที่เกิดขึ้นในช่วง
วัยรุ่น ในระหว่างการบันทึกคลื่นสมองมักจะพัฒนา
เด็กและผู้ใหญ่ดำเนินงานที่พวกเขาได้เรียนรู้
สี่สมาคม S-R โดยข้อเสนอแนะในเชิงบวกและเชิงลบ
และจากนั้นย้อนกลับสมาคมหลังจากที่ไม่คาดคิด
การเปลี่ยนแปลงในภาระผูกพันการเสริมแรง การเปลี่ยนแปลงในการทำงาน
และการประมวลผลข้อเสนอแนะ, ดัชนีโดย FRN,
ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และการกลับถูกตรวจสอบทั่วทั้ง
งานและระหว่างกลุ่มอายุ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงใน
P3 ERP, โก่งบวกที่โพสต์กระตุ้น ~300ms,
มีการตรวจสอบ P3 ความกว้างเพิ่มขึ้นกับความคืบหน้า
การเรียนรู้การเสริมแรงในผู้ใหญ่ซึ่งเป็นความคิดที่สะท้อนให้เห็นถึง
การรวมที่เพิ่มขึ้นของพฤติกรรมเพื่อจะได้เรียนรู้ (Rose
et al., 2001) P3 ต่อไปอาจอธิบาย neurocognitive
ความแตกต่างระหว่างเด็กและผู้ใหญ่เช่น
เด็กอาจแสดงการรวมปรับตัวลดลงของสมาคม
กว่าผู้ใหญ่โดยสะท้อนให้เห็นความกว้าง P3 ขนาดเล็กเพิ่มขึ้น
กับการเรียนรู้ เราคาดการณ์ว่าเด็กจะแสดงขนาดเล็ก
การเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในช่วงกว้างของคลื่นและ ERP
ในช่วงเริ่มต้นการเข้าซื้อกิจการของแมป S-R กว่า
ผู้ใหญ่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเรียนรู้ที่ยากจนในวัยนี้ นอกจากนี้
เราคาดว่าเด็กที่จะแสดงการหยุดชะงักมากขึ้น
เพื่อประสิทธิภาพการทำงานและความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะ, การจัดทำดัชนี
โดย FRN เปลี่ยนแปลงขนาดเล็กกว้างเมื่อกลับรายการ
ที่เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่เนื่องจากความขาดแคลนของการวิจัยในพื้นที่นี้ จะต้องศึกษาเพิ่มเติม
( H และ mmerer และเอปปิเงอร์ , 2012 ) .
นอกจากนี้ งานวิจัยก่อนหน้านี้ไม่ได้ให้ความสนใจการ
สิ่งสําคัญของการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง นั่นคือ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและเรียนรู้

ต่อไปนี้การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมเสริม การค้นหาที่แข็งแกร่งในการทำงานผู้บริหาร
มีวรรณกรรมที่เด็กยากจนกว่าผู้ใหญ่ ในการเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เมื่อได้รับแจ้งจาก
คิว ( koolschijn
et al . , 2011 ) นี้แสดงให้เห็นว่าเด็กจะมีปัญหากับการเรียนโดยเฉพาะ

เมื่อเสริมรับมือการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ การเรียนรู้งานที่ใช้ก่อนหน้านี้
มีความซับซ้อน มีหลายความคิดเห็นเงื่อนไข
ที่นำเสนอแตกต่างกันของสมาคมภายในงาน ( r
บล็อก การสร้างความต้องการมากทำงาน
( โคโรน่า et al . , 2004 ; เอปปิเงอร์ et al . , 2009 ; H และ mmerer
et al . , 2010 ) โคโรน่า et al . ( 2004 ) และเอปปิเงอร์ et al .
( 2009 ) ควบคุมปัญหานี้ โดยการจัดสรรเวลาการตอบสนองเด็ก
พิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม ความยากของงานเหล่านี้อาจจะปรับปรุงพัฒนาการ

1.3 ความแตกต่าง . .การศึกษามีวัตถุประสงค์ 5 .

neurocognitive เพิ่มเติมศึกษาความแตกต่างในการพัฒนาปกติของ
เสริมการเรียนรู้ใช้งานที่ง่ายที่ออกแบบมาเพื่อลดอิทธิพลของอายุ

ในการแสดงความแตกต่าง ERP ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ความตั้งใจคือเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เข้าร่วมทั้งหมดสามารถแสดง

งานอย่างเพียงพอโดยไม่คำนึงถึงอายุเพื่อที่แตกต่างกันมากขึ้น
ERP มีแนวโน้มที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในการสรรหาประสาท
เครือข่ายพื้นฐานการปฏิบัติงาน มากกว่า พื้น หรือเพดาน ผลในกลุ่มอายุ ประการที่สอง เพื่อศึกษาเปรียบเทียบพัฒนาการ
ในความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้พฤติกรรมที่ได้มาในการตอบสนองการเปลี่ยนแปลง

,ภาระผูกพันเปรียบเทียบเด็กอายุ 9 - 11 ปี กับผู้ใหญ่ อายุ 21 ปี และมากกว่า
. เป้าหมายของเราคือการสร้าง
ไม่ว่าเด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่ในพฤติกรรมและสมองที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้

ก่อนที่พวกเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญซึ่งเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในระหว่าง
วัยรุ่น ในระหว่างการพัฒนาสมองโดย
เด็กและผู้ใหญ่ปฏิบัติงานที่พวกเขาได้เรียนรู้
สี่ของสมาคม R –โดยบวกและลบความคิดเห็น
แล้วกลับสมาคมหลังจากการเปลี่ยนที่ไม่คาดคิด
ในการเสริมแรงอย่างต่อเนื่อง . การเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติ
และการประมวลผลความคิดเห็น โดยดัชนีพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และการพลิกกลับ
,
1 ปีผ่านงานและระหว่างกลุ่มอายุ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงใน
P3 ERP , การบวกที่∼ 300ms
โพสต์กระตุ้นตรวจร่างกาย P3 ขนาดเพิ่มขึ้นก้าวหน้า
เสริมการเรียนรู้ในผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นความคิดที่สะท้อนให้เห็นถึงการรวม
จะเรียนรู้พฤติกรรม ( โรส
et al . , 2001 ) ที่อาจทำให้ neurocognitive
P3 เพิ่มเติมความแตกต่างระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ เช่น เด็กอาจแสดงแข็งแกร่งรวม

ของสมาคมกว่าผู้ใหญ่สะท้อนลงของเพิ่ม P3
กับการเรียนรู้ เราคาดการณ์ไว้เด็กจะแสดงการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการเรียนรู้เล็ก

และ ERP แรงบิดระหว่างการเริ่มต้นของชีวิตมากกว่าผู้ใหญ่ ( r
, สะท้อนให้เห็นถึงด้อยความสามารถในการเรียนรู้ในวัยนี้ นอกจากนี้เราคาดว่าเด็กให้มากขึ้น

งานหยุดชะงักและความเชื่อมั่นมากขึ้นในดัชนี
ติชมโดยมีการเปลี่ยนแปลงของพันธบัตร เมื่อพลิกกลับ
เกิดขึ้น