EarningThe net interest margin (NIM

Earning
The net interest margin (NIM) measures how large the
spread between interest revenues and interest costs that
management has been able to achieve by close control
over earning assets and the pursuit of the cheapest
sources of funding (Rose et al., 2006).
NIM has been treated as an extremely important
measure to the bank and its minimum value for a healthy
bank is considered about 4%. A small change in the
interest margin has a huge impact on profitability. Higher
NIM is associated with profitable banks by maintaining
good asset quality. The public sector banks in Nepal are
entirely different from joint-venture banks and private
banks. Table 1, column 6 indicates that the domestic
banks had higher average NIM (26.65%) than that of
public banks (12.51%) and joint venture banks (21.30%).
It means domestic banks were able to maintain good
asset quality.
While comparing the individual banks, the result was
very different from the average values. Though ADBL is
public sector bank, it was occupied first position with the
highest interest margin of 5.61% while SBL, a domestic
private bank, was in the last position with lowest interest
margin of 1.90%.
The interest margin of EBL, a joint venture bank, was
4.75% and ranked in second position. Among the all
commercial banks only ADBL, NABIL, EBL and LBL were
maintained minimum level. It seems the profitability of the
banks in Nepal was not so satisfactory

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รายได้มาตรการดอกเบี้ยสุทธิ margin: NIM) ที่ขนาดกระจายระหว่างรายได้ดอกเบี้ย และต้นทุนดอกเบี้ยที่ได้รับการจัดการเพื่อให้บรรลุ โดยควบคุมรายได้ทรัพย์สินและการแสวงหาของถูกแหล่งที่มาของเงินทุน (กุหลาบ et al. 2006)นิ่มได้รับการปฏิบัติเป็นสำคัญอย่างมากวัดไปธนาคารและค่าต่ำสุดสำหรับการมีสุขภาพดีธนาคารถือเป็นประมาณ 4% เปลี่ยนแปลงขนาดเล็กในการส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยได้มากในการทำกำไร สูงขึ้นนิ่มจะเกี่ยวข้องกับธนาคารมีกำไร โดยการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ธนาคารเอกชนในประเทศเนปาลแตกต่างจากกิจการธนาคารทั้งหมด และส่วนตัวธนาคาร ตารางที่ 1 คอลัมน์ 6 บ่งชี้ว่า ในประเทศธนาคารมีสูงเฉลี่ยนิ่ม (26.65%) ที่ธนาคารกลาง (12.51%) และธนาคารร่วมทุน (21.30%)หมายถึง ธนาคารในประเทศได้มีการรักษาดีคุณภาพสินทรัพย์ในขณะที่เปรียบเทียบแต่ละธนาคาร ผลคือแตกต่างจากค่าเฉลี่ย แม้ว่าเป็น ADBLธนาคารภาครัฐ มันได้ครอบครองตำแหน่งครั้งแรกกับการส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 5.61% ขณะ SBL สถาบันเป็นธนาคารเอกชน ในตำแหน่งสุดท้ายดอกเบี้ยต่ำสุดกำไร 1.90%อัตราดอกเบี้ยของธนาคารร่วมทุน EBL4.75% และอันดับในตำแหน่งที่สอง ในบรรดาทั้งหมดธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ADBL, NABIL, EBL และ LBLรักษาระดับต่ำสุด ดูเหมือนว่าผลกำไรของการธนาคารในประเทศเนปาลไม่น่าพอใจดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รายได้
ดอกเบี้ยสุทธิอัตรากำไรขั้นต้น (NIM) มาตรการวิธีการที่มีขนาดใหญ่
ต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยและต้นทุนดอกเบี้ยที่
ผู้บริหารได้รับสามารถที่จะประสบความสำเร็จโดยการควบคุมอย่างใกล้ชิด
มากกว่าสินทรัพย์รายได้และการแสวงหาความถูกที่สุด
แหล่งที่มาของเงินทุน (โรส et al., 2006)
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
มาตรการที่ธนาคารและมูลค่าขั้นต่ำของการมีสุขภาพดี
ของธนาคารถือว่าเป็นประมาณ 4% การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ใน
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบอย่างมากในการทำกำไร สูงกว่า
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยมีความเกี่ยวข้องกับธนาคารที่ทำกำไรได้โดยการรักษา
คุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ธนาคารภาครัฐในประเทศเนปาลมี
ทั้งแตกต่างจากธนาคารร่วมทุนและเอกชน
ธนาคาร ตารางที่ 1 คอลัมน์ 6 แสดงให้เห็นว่าประเทศที่
ธนาคารมีสูงกว่าค่าเฉลี่ยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (26.65%) มากกว่าที่
ธนาคารประชาชน (12.51%) และร่วมธนาคารร่วมทุน (21.30%).
มันหมายความว่าธนาคารในประเทศมีความสามารถในการรักษาที่ดี
คุณภาพสินทรัพย์.
ในขณะที่เปรียบเทียบ ธนาคารแต่ละผลที่ได้
แตกต่างจากค่าเฉลี่ย แม้ว่า ADBL เป็น
ธนาคารภาครัฐมันก็อยู่ในตำแหน่งแรกที่มี
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 5.61% ในขณะที่ SBL เป็นประเทศ
ธนาคารเอกชนอยู่ในตำแหน่งสุดท้ายที่มีดอกเบี้ยต่ำสุด
ขอบของ 1.90%.
อัตรากำไรดอกเบี้ย EBL เป็น บริษัท ร่วมทุน ธนาคารเป็น
4.75% และอันดับในตำแหน่งที่สอง ในบรรดาทั้งหมด
ธนาคารพาณิชย์เพียง ADBL, Nabil, EBL และ LBL ถูก
เก็บรักษาไว้ในระดับต่ำสุด ดูเหมือนว่าการทำกำไรของ
ธนาคารในประเทศเนปาลไม่ได้เป็นที่น่าพอใจดังนั้น