Second Stage Cost DriversIn the sec

Second Stage Cost Drivers
In the second stage, activities are traced to products using second stage cost drivers. As with first stage cost drivers, data needed for second stage drivers may not be readily available to represent the proportion of cost pools that correspond to the products. For instance, mileage can be difficult to trace to individual product. In the absence of actual data there becomes a need to estimate the amount of activity cost consumed by each product.
Information Gathering Procedures
Gathering information is essential in order to achieve accuracy of final product costs. An important part of the required data is the proportions needed in each stage of an ABC costing system. Each activity consumes a portion of an expense category. Similarly, each product consumes a portion of an activity. As discussed previously, a proportion usually represents this portion. For instance, the activity “quote preparation” consumes 0.1 (10%) of administration expenses. There are many ways to obtain these proportions and the selected procedure will impact the desired accuracy. Three levels of data accuracy can be used in estimating these proportions: educated guess, systematic appraisal, and collection of real data.
Educated guess
In the case where real data can not be obtained or data collection efforts can not be financially justified, an educated guess can be made in order to obtain proportions. These guesses should be done collaboratively by management, financial organizers, and operational employees associated with the costing center of interest. This team can provide an educated guess of the proportions of costs allocated in both stages of an ABC costing methodology. The level of accuracy obtained is based on a combination of the teams’ diversity and their knowledge of the cost center of interest.
Systematic Appraisal
A more scientific way to obtain the proportions for tracing costs is using a systematic technique such as Analytic Hierarchical Process (AHP) (Saaty, 1982; Golden, Wasil, and Harker, 1989). AHP is a suitable tool for pulling subjective individual opinion into more representative information. For example, assuming that the allocation of a gasoline expense is needed between three cost pools namely sales, delivery and maintenance. By questioning the departments that consume this resource and by asking them to evaluate what percentage of mileage they accumulate in a certain period of time, AHP can generate the percentage of this expense and allocate it to the appropriate cost pool.
A second area in which AHP can be used is to allocate the expense from the cost pool to each individual
product. At this step it is important to determine an appropriate cost driver in order to achieve the desired level of accuracy. For example, suppose we wish to trace the sales cost pool to each product. One approach is to estimate the level of sales activity needed for each of the individual products. Let assume the following scenario: a company produces five products. Product A is a very well established product requiring minimal effort from the sales representatives when they talk to potential consumers. On the other hand, products B, C and D are in the middle of their life cycle. Finally, product E, is a new product that consumes a lot of time from the sales representatives. Instead of allocating an equal amount of sales expenses to each one of the products, AHP can provide an estimation that can allow the company to more accurately trace this cost to the products. The methodology followed by AHP requires first determining factors that account for cost relationship between activities and products. In this specific illustration, locations of travel for sales and time spent with the client discussing each individual product may be some examples of these factors. Secondly, the sales representative assigns a ranking among products according to the distance needed to support them. A second raking among products is established in proportion to the time spent with the customer. Finally, the subjective rankings of sales representatives are combined by AHP and ratios for sales expenditure among the five products are obtained.
Actual data collection
The most accurate and most costly procedure for computing proportions is the collection of real data. In most cases, a data collection procedure must be developed and data collection equipment may need to be purchased. Moreover, collection of the data will need to be timely and skilled collectors may be required. The results often have to be analyzed using statistical methods. For example, job sampling can be used to estimate the time proportion dedicated to supervise the manufacturing of a particular product. In this case, the supervising engineer is asked, at random time intervals, to specify the product being currently supervised. Based on this data the needed information can be obtained.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นสองค่าโปรแกรมควบคุมในขั้นสอง กิจกรรมจะติดตามผลิตภัณฑ์ที่ใช้โปรแกรมควบคุมต้นทุนระยะที่สอง เป็นกับระยะแรกต้นทุนควบคุม ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับโปรแกรมควบคุมขั้นสองไม่ได้พร้อมแสดงสัดส่วนของประเภทต้นทุนที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ เช่น ไมล์สามารถยากที่จะติดตามแต่ละผลิตภัณฑ์ ของข้อมูลจริง จะต้องประมาณจำนวนต้นทุนกิจกรรมที่ใช้ โดยแต่ละผลิตภัณฑ์กระบวนการรวบรวมข้อมูลรวบรวมข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้บรรลุความถูกต้องของต้นทุนผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ส่วนสำคัญของข้อมูลจำเป็นมีสัดส่วนที่จำเป็นในแต่ละขั้นตอนของระบบการคิดต้นทุน ABC แต่ละกิจกรรมใช้ส่วนของ ในทำนองเดียวกัน แต่ละผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ในสัดส่วนที่แสดงถึงส่วนนี้มักจะ เช่น กิจกรรม "เตรียมเสนอ" ใช้ 0.1 (10%) ของค่าใช้จ่ายในการดูแล มีหลายวิธีการขอรับสัดส่วนเหล่านี้ และขั้นตอนที่เลือกจะมีผลต่อความแม่นยำที่ต้องการ สามระดับของความถูกต้องของข้อมูลที่สามารถใช้ในการประมาณสัดส่วนเหล่านี้: เดา ประเมินระบบ และการเก็บรวบรวมข้อมูลจริงได้เดาในกรณีที่ไม่สามารถได้รับข้อมูลจริง หรือความพยายามเก็บข้อมูลไม่สามารถมีการชิดขอบเงิน สามารถทำการเดาเพื่อให้ได้สัดส่วน โรมเหล่านี้ควรจะทำร่วมกัน โดยจัดการ เก็บเงิน พนักงานปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ต้นทุนของดอกเบี้ย ทีมนี้สามารถให้การเดาสัดส่วนของต้นทุนที่ปันส่วนในทั้งสองขั้นตอนของวิธีการคิดต้นทุน ABC ตามระดับของความแม่นยำที่ได้เข้ากับชุดของทีมความหลากหลายและความรู้ของศูนย์ต้นทุนที่น่าสนใจประเมินอย่างเป็นระบบวิธีทางวิทยาศาสตร์ในการได้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการสืบค้นกลับใช้เทคนิคอย่างเป็นระบบเช่นการวิเคราะห์ลำดับขั้นตอน (AHP) (Saaty, 1982 โกลเด้น Wasil และ Harker, 1989) AHP เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับดึงความเห็นแต่ละเรื่องลงในข้อมูลของพนักงานมากขึ้น เช่น สมมติว่าจำเป็นต้องมีการจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายน้ำมันระหว่าง ต้นทุนสามกลุ่มคือขาย การจัดส่ง และการบำรุงรักษา คำถามหน่วยงานที่ใช้ทรัพยากรนี้ และโดยการประเมินเปอร์เซ็นต์ของระยะทางที่พวกเขาสะสมในช่วงเวลา AHP สามารถสร้างเปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายนี้ และปันส่วนให้กับกลุ่มต้นทุนที่เหมาะสมพื้นที่สองซึ่งสามารถใช้ AHP จะจัดสรรค่าใช้จ่ายจากต้นทุนกับแต่ละบุคคลผลิตภัณฑ์ที่ ในขั้นตอนนี้ มันเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดโปรแกรมควบคุมต้นทุนที่เหมาะสมเพื่อให้บรรลุระดับที่ต้องการความแม่นยำ เช่น สมมติว่า เราต้องการติดตามการขายต้นทุนถึงแต่ละผลิตภัณฑ์ วิธีการหนึ่งคือการ ประเมินระดับความจำเป็นสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ที่แต่ละกิจกรรมการขาย ให้สมมติว่าสถานการณ์สมมติต่อไปนี้: บริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ 5 ผลิตภัณฑ์ A เป็นผลิตภัณฑ์ดีขึ้นต้องใช้ความพยายามน้อยที่สุดจากตัวแทนขายเมื่อพวกเขาพูดคุยกับผู้บริโภคที่อาจเกิดขึ้น บนมืออื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ B, C และ D อยู่ในระหว่างอายุ ในที่สุด สินค้า E เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้เวลาจากตัวแทนขาย แทนการปันส่วนจำนวนเท่าของค่าใช้จ่ายแต่ละหนึ่งผลิตภัณฑ์ขาย AHP สามารถให้การประเมินที่สามารถช่วยให้บริษัทสามารถติดตามต้นทุนของสินค้านี้ขึ้นอย่างถูกต้อง วิธีการตาม ด้วย AHP ต้องกำหนดแรกปัจจัยที่บัญชีสำหรับต้นทุนความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ ในภาพประกอบนี้เฉพาะ สถานท่องเที่ยวสำหรับการขายและเวลาที่ใช้กับลูกค้าคุยแต่ละผลิตภัณฑ์อาจเป็นตัวอย่างของปัจจัยเหล่านี้ ประการที่สอง พนักงานขายกำหนดในการจัดอันดับในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามระยะทางที่จำเป็นในการสนับสนุน Raking สองในกลุ่มผลิตภัณฑ์แบบกำหนดสัดส่วนเวลาที่ใช้กับลูกค้า ในที่สุด จัดอันดับเรื่องของพนักงานขายรวมกัน โดย AHP และอัตราค่าใช้จ่ายขายห้าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรวบรวมข้อมูลจริงกระบวนการถูกต้องที่สุด และแพงสุดสำหรับสัดส่วนการใช้งานจะเก็บรวบรวมข้อมูลจริง ในกรณีส่วนใหญ่ ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลต้องมีพัฒนา และอุปกรณ์เก็บข้อมูลอาจจำเป็นต้องซื้อ นอกจากนี้ ชุดของข้อมูลจะต้องรวดเร็ว และสะสมฝีมืออาจจำเป็นต้อง ผลลัพธ์มักจะมีการวิเคราะห์โดยใช้วิธีการทางสถิติ เช่น สามารถใช้งานสุ่มตัวอย่างเพื่อประเมินสัดส่วนเวลาเฉพาะเพื่อดูแลการผลิตผลิตภัณฑ์เฉพาะ ในกรณีนี้ วิศวกรดูแลถาม สุ่มช่วงเวลา การระบุผลิตภัณฑ์ถูกดูแลอยู่ในขณะนี้ ตามข้อมูลนี้สามารถได้รับข้อมูลที่ต้องการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประการที่สองไดร์เวอร์ขั้นที่ค่าใช้จ่าย
ในขั้นตอนที่สองกิจกรรมจะโยงไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ขับค่าใช้จ่ายขั้นตอนที่สอง เช่นเดียวกับการขับค่าใช้จ่ายขั้นแรกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขับรถขั้นตอนที่สองอาจจะไม่พร้อมที่จะเป็นตัวแทนของสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในสระว่ายน้ำที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ ยกตัวอย่างเช่นระยะทางที่อาจเป็นเรื่องยากที่จะติดตามกับผลิตภัณฑ์ของแต่ละบุคคล ในกรณีที่ไม่มีข้อมูลที่แท้จริงมีกลายเป็นความจำเป็นที่จะประเมินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในกิจกรรมการบริโภคโดยแต่ละผลิตภัณฑ์.
ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล
รวบรวมข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้บรรลุความถูกต้องของค่าใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์สุดท้าย เป็นส่วนสำคัญของข้อมูลที่ต้องการเป็นสัดส่วนที่จำเป็นในขั้นตอนของระบบการคิดต้นทุนแต่ละเอบีซี แต่ละกิจกรรมกินส่วนหนึ่งของประเภทค่าใช้จ่าย ในทำนองเดียวกันแต่ละผลิตภัณฑ์กินส่วนหนึ่งของกิจกรรมการอื่น ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้สัดส่วนมักจะแสดงให้เห็นถึงส่วนนี้ ยกตัวอย่างเช่นกิจกรรม "การจัดทำใบเสนอราคา" สิ้นเปลือง 0.1 (10%) ค่าใช้จ่ายในการบริหาร มีหลายวิธีที่จะได้รับสัดส่วนเหล่านี้เป็นขั้นตอนและเลือกจะส่งผลกระทบต่อความแม่นยำที่ต้องการ สามระดับของความถูกต้องของข้อมูลสามารถนำมาใช้ในการประมาณสัดส่วนเหล่านี้:. เดาการศึกษาการประเมินระบบและการเก็บรวบรวมข้อมูลจริง
การศึกษาเดา
ในกรณีที่ข้อมูลจริงไม่สามารถหาได้หรือความพยายามในการเก็บรวบรวมข้อมูลไม่เป็นธรรมทางการเงินเดาการศึกษา สามารถทำเพื่อให้ได้สัดส่วน คาดเดาเหล่านี้ควรจะทำร่วมกันโดยผู้บริหารการจัดงานทางการเงินและการดำเนินงานของพนักงานที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ต้นทุนที่สนใจ ทีมนี้สามารถให้เดาการศึกษาของสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดสรรทั้งในขั้นตอนของวิธีการคิดต้นทุนเอบีซี ระดับของความถูกต้องได้อยู่บนพื้นฐานของการรวมกันของความหลากหลายของทีมและความรู้ของพวกเขาจากศูนย์ต้นทุนที่น่าสนใจ.
ระบบการประเมินผล
ทางวิทยาศาสตร์มากขึ้นเพื่อให้ได้สัดส่วนสำหรับการติดตามค่าใช้จ่ายในการใช้เทคนิคที่เป็นระบบเช่นการวิเคราะห์กระบวนการลำดับชั้น (AHP ) (Saaty 1982; โกลเด้น Wasil และฮาร์เกอร์, 1989) AHP เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการดึงความคิดเห็นของแต่ละบุคคลอัตนัยเป็นข้อมูลตัวแทน ตัวอย่างเช่นสมมติว่าการจัดสรรค่าใช้จ่ายน้ำมันเป็นสิ่งจำเป็นระหว่างสามสระว่าค่าใช้จ่ายในการขายคือการส่งมอบและการบำรุงรักษา โดยการสอบถามหน่วยงานที่ใช้ทรัพยากรนี้และขอให้พวกเขาประเมินสิ่งที่อัตราร้อยละของระยะทางที่พวกเขาสะสมในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง AHP สามารถสร้างอัตราร้อยละของค่าใช้จ่ายนี้และการจัดสรรไปยังสระว่ายน้ำค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม.
พื้นที่ที่สองที่ AHP สามารถนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรรค่าใช้จ่ายจากสระว่ายน้ำเพื่อให้แต่ละ
ผลิตภัณฑ์ ในขั้นตอนนี้มันเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดโปรแกรมควบคุมค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมเพื่อให้บรรลุในระดับที่ต้องการความถูกต้อง ตัวอย่างเช่นสมมติว่าเราต้องการที่จะติดตามค่าใช้จ่ายในการขายสระว่ายน้ำสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ วิธีหนึ่งคือการประเมินระดับของกิจกรรมการขายที่จำเป็นสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ของแต่ละบุคคล ให้ถือว่าสถานการณ์ต่อไปนี้: บริษัท ผลิตห้าผลิตภัณฑ์ สินค้า A เป็นสินค้าที่เป็นที่ยอมรับเป็นอย่างดีที่ต้องใช้ความพยายามน้อยที่สุดจากตัวแทนขายเมื่อพวกเขาพูดคุยกับผู้บริโภคที่มีศักยภาพ บนมืออื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ B, C และ D ยังอยู่ในช่วงของวงจรชีวิตของพวกเขา สุดท้ายสินค้าอีเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กินเป็นจำนวนมากเวลาจากตัวแทนขาย แทนการจัดสรรจำนวนเงินเท่ากับค่าใช้จ่ายในการขายแต่ละคนของผลิตภัณฑ์, AHP สามารถให้การประเมินที่สามารถช่วยให้ บริษัท ที่จะถูกต้องมากขึ้นติดตามค่าใช้จ่ายนี้กับผลิตภัณฑ์ วิธีการที่ใช้โดย AHP ต้องแรกการกำหนดปัจจัยที่บัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ ในภาพนี้โดยเฉพาะสถานที่ของการเดินทางสำหรับการขายและเวลาที่ใช้กับลูกค้าการอภิปรายของแต่ละผลิตภัณฑ์อาจจะเป็นตัวอย่างบางส่วนของปัจจัยเหล่านี้ ประการที่สองตัวแทนขายกำหนดจัดอันดับในผลิตภัณฑ์ตามระยะทางที่จำเป็นในการสนับสนุนพวกเขา raking สองในหมู่ผลิตภัณฑ์ที่จะจัดตั้งขึ้นในสัดส่วนที่เวลาที่ใช้กับลูกค้า ในที่สุดการจัดอันดับทัศนะของตัวแทนขายจะรวมกันโดย AHP และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายในห้าผลิตภัณฑ์จะได้รับ.
การเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง
ขั้นตอนที่ถูกต้องที่สุดและค่าใช้จ่ายมากที่สุดสำหรับการคำนวณสัดส่วนคือชุดของข้อมูลจริง ในกรณีส่วนใหญ่ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลที่จะต้องได้รับการพัฒนาและอุปกรณ์เก็บข้อมูลอาจต้องมีการซื้อ นอกจากนี้คอลเลกชันของข้อมูลที่จะต้องทันเวลาและนักสะสมที่มีทักษะอาจจะต้อง ผลมักจะต้องมีการวิเคราะห์โดยใช้วิธีการทางสถิติ ยกตัวอย่างเช่นการสุ่มตัวอย่างงานสามารถนำมาใช้ในการประมาณการสัดส่วนของเวลาที่ทุ่มเทให้กับการกำกับดูแลการผลิตของผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีนี้วิศวกรกำกับดูแลจะถามว่าในช่วงเวลาที่สุ่มเพื่อระบุผลิตภัณฑ์ที่ดูแลในปัจจุบัน บนพื้นฐานของข้อมูลนี้ข้อมูลที่จำเป็นสามารถรับได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นตอนที่สองค่าใช้จ่ายไดรเวอร์ในขั้นตอนที่สอง เป็นกิจกรรมการตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยใช้ขั้นตอนที่สองค่าใช้จ่ายไดรเวอร์ กับเวทีแรกขับค่าใช้จ่าย ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับไดรเวอร์ขั้นที่สองอาจไม่พร้อมใช้งานเพื่อแสดงสัดส่วนของต้นทุนต่างๆ ที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่นระยะสามารถยากที่จะติดตามของผลิตภัณฑ์แต่ละ ในกรณีที่ไม่มีข้อมูลจริงก็จะต้องประเมินปริมาณของกิจกรรมค่าใช้จ่ายบริโภค โดยผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุความถูกต้องของต้นทุนของผลิตภัณฑ์สุดท้าย ที่สำคัญข้อมูลต้องมีสัดส่วนที่จำเป็นในแต่ละขั้นตอนของระบบการคิดต้นทุนแบบ ABC . แต่ละกิจกรรมจะแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายประเภท ในทำนองเดียวกัน แต่ละผลิตภัณฑ์ ใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของกิจกรรม ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้สัดส่วนมักจะหมายถึงส่วนนี้ ตัวอย่าง กิจกรรม " เตรียม " อ้างใช้ 0.1 ( 10% ) ค่าใช้จ่ายในการบริหาร มีหลายวิธีเพื่อให้ได้สัดส่วนเหล่านี้และขั้นตอนที่เลือกจะผลกระทบที่ต้องการความแม่นยำ สามระดับของความถูกต้องของข้อมูลที่สามารถใช้ในการประมาณสัดส่วนเหล่านี้ : เดาการศึกษา การประเมินระบบ และรวบรวมข้อมูลที่แท้จริงมีการศึกษาว่าในกรณีที่ข้อมูลที่แท้จริงไม่สามารถได้รับหรือความพยายามในการเก็บข้อมูลไม่สามารถทางการเงินเมื่อเดาการศึกษาสามารถทำเพื่อให้ได้สัดส่วน การคาดเดาเหล่านี้ต้องทำร่วมกันโดยการบริหารจัดการเงินและพนักงานการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการเป็นศูนย์กลางของความสนใจ ทีมนี้สามารถให้เดาการศึกษาเปรียบเทียบสัดส่วนของค่าใช้จ่ายการจัดสรรทั้งในขั้นตอนของ ABC วิธีการต้นทุน ระดับของความถูกต้องที่ได้จะขึ้นอยู่กับการรวมกันของทีม " ความหลากหลายและความรู้ของศูนย์ต้นทุนของดอกเบี้ยการประเมินระบบวิธีทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมเพื่อให้ได้สัดส่วนสำหรับติดตามค่าใช้จ่ายคือการใช้เทคนิคกระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ เช่น ( AHP ) ( saaty , 1982 ; ทอง , wasil และ Harker , 1989 ) วิธีเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการดึงความคิดเห็นแต่ละหัวข้อเรื่องเป็นตัวแทนข้อมูล ตัวอย่างเช่น สมมติว่า จัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายต้นทุนน้ำมันเป็นสิ่งจำเป็นระหว่างสามสระ ได้แก่ การขาย จัดส่ง และการบำรุงรักษา โดยการสอบถามหน่วยงานที่บริโภคทรัพยากรนี้และขอให้พวกเขาประเมินว่าร้อยละของระยะที่พวกเขาสะสมในช่วงเวลาหนึ่งของเวลา วิธีสามารถสร้างค่าร้อยละของค่าใช้จ่ายและจัดสรรให้สระ ต้นทุนที่เหมาะสมสองพื้นที่ที่สามารถใช้เป็นวิธีการจัดสรรค่าใช้จ่ายจากสระ ต้นทุนในแต่ละคนผลิตภัณฑ์ ในขั้นตอนนี้มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะหาไดรเวอร์ที่เหมาะสมค่าใช้จ่ายเพื่อให้บรรลุระดับที่ต้องการความแม่นยำ ตัวอย่างเช่น สมมติว่า เราต้องการที่จะติดตามต้นทุนขายสระว่ายน้ําในแต่ละผลิตภัณฑ์ วิธีการหนึ่งคือเพื่อประเมินระดับของกิจกรรมการขายที่จำเป็นสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์แต่ละ ให้ถือว่าสถานการณ์ต่อไปนี้ : บริษัท ผลิตห้าผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นอย่างดีต้องใช้ความพยายามน้อยที่สุดจากพนักงานขาย เมื่อพวกเขาพูดคุยกับผู้บริโภคที่มีศักยภาพ บนมืออื่น ๆ , ผลิตภัณฑ์ B , C และ D อยู่ในกลางของวงจรชีวิตของพวกเขา สุดท้ายผลิตภัณฑ์ E เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สิ้นเปลืองเวลามากจากพนักงานขาย . แทนการจัดสรรจํานวนเท่าของค่าใช้จ่ายในการขายกับแต่ละของผลิตภัณฑ์ วิธีสามารถให้การประเมินที่สามารถช่วยให้ บริษัท ที่จะต้องติดตามค่าใช้จ่ายนี้กับผลิตภัณฑ์ และตามด้วยวิธีต้องกำหนดปัจจัยที่บัญชีต้นทุนความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ ภาพนี้ที่เฉพาะเจาะจงในสถานที่ของการเดินทางสำหรับการขายและเวลาที่ใช้กับลูกค้าเรื่องสินค้าแต่ละบุคคลอาจจะมีตัวอย่างบางส่วนของปัจจัยเหล่านี้ ประการที่สอง พนักงานขายส่งการจัดอันดับของผลิตภัณฑ์ตามระยะทางที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนพวกเขา ที่สอง raking ระหว่างผลิตภัณฑ์ ก่อตั้งขึ้นในสัดส่วนของเวลาที่ใช้กับลูกค้า สุดท้าย อันดับ 1 ของตัวแทนการขายจะรวมกันโดยวิธีและอัตราส่วนการขายในห้าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ .การรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงถูกต้องที่สุด และแพงที่สุด ขั้นตอนในการคำนวณสัดส่วนเป็นคอลเลกชันของข้อมูลที่แท้จริง ในกรณีส่วนใหญ่ , การรวบรวมข้อมูลขั้นตอนที่ต้องพัฒนา และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอาจต้องมีการซื้อ นอกจากนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูลจะต้องสะสมทักษะและทันเวลา อาจจะต้อง ผลที่ได้มักจะต้องถูกวิเคราะห์โดยใช้วิธีการทางสถิติ ตัวอย่างเช่น ตัวอย่างงานที่สามารถใช้ในการประมาณการเวลาที่ทุ่มเทให้กับสัดส่วนการผลิตของผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ ในกรณีนี้ มีวิศวกรเป็นถาม สุ่มเวลา ช่วงเวลาในการระบุผลิตภัณฑ์ที่ปัจจุบันดูแล บนพื้นฐานของข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่สามารถรับ