ปีกน้อย....ที่ไม่อาจโบยบิน
ภาพจาก oknation.net
หลังจากชายคนหนึ่งพบรังไหมของตัวอ่อนผีเสื้อเขาเฝ้าจับตาความคืบหน้ามาตลอด กระทั่งได้เห็นรอยปริ ขนาดเล็กปรากฏอยู่ที่ผิวภายนอก ชายคนนั้นจึงนั่งลงและเฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหวของตัวอ่อนผีเสื้ออยู่นานหลายชั่วโมงเขาเห็นมันพยายามดิ้นรนจะพ้นจากช่องเล็ก ๆของรังไหมให้ได้แต่เมื่อไม่สำเร็จ เจ้าตัวน้อยก็หยุดเคลื่อนไหว เหมือนจะยอมรับว่าไม่อาจขืนทำอะไรได้มากไปกว่านั้น
รูปภาพ : http://variety.teenee.com/foodforbrain/28365.html
เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะช่วยตัวอ่อนแล้ว... ชายคนนั้นจึงหยิบกรรไกรขึ้นมาตัด เปิดช่องรังไหมจนกว้างพอที่ตัวอ่อนจะสามารถออกมาได้อย่างง่ายดาย ตัวอ่อนผีเสื้อน้อยจึงออกมาเผชิญโลกทั้งสภาพร่างกายบวมกลม ตรงข้ามกับปีกที่มี ขนาดเล็กนิดเดียว!แต่เขาก็เฝ้าจับตามองตัวอ่อนนั้นต่อไปด้วยความหวังว่า อีกไม่ช้า... ปีกของมันจะขยายใหญ่ขึ้นและแข็งแรงพอจะพยุงร่างกายมันได้ เมื่อถึงเวลาอันควร แต่เมื่อเวลาผ่านไป... กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง!
ภาพจาก board.palungjit.com
ผีเสื้อน้อยต้องเดินและคลานไปมาทั้งชีวิต ด้วยสภาพร่างกายบวมกลมและปีกแห้ง เล็กที่ไม่เคยมีโอกาสจะบินได้ภายใต้การดูแลอย่างอ่อนโยนของชายผู้หวังดี สิ่งที่ชายคนนี้ไม่เคยเข้าใจก็คือ ธรรมชาติได้กำหนดมาแล้วว่าตัวอ่อนจะออกไปเผชิญโลกได้ก็ต่อเมื่อ ของเหลวในร่างกายลดน้อยลงจนลำตัวมีขนาด สมดุลกับปีกเท่านั้น จึงจะสามารถลอดออกจากช่องว่างขนาดเล็กของรังไหมได้ สำเร็จ? และถ้าตัวอ่อนได้ผ่านการดิ้นรนจนถึงเวลานั้น มันจึงจะเติบโตเป็น ผีเสื้อ ที่พร้อมโบกบินจากรังได้อย่างอิสระโดยแท้ การมีชีวิตอยู่โดยไม่ ต้องผ่านอุปสรรคใดๆเลย จึงมีแต่จะทำให้เราพิการและไม่แข็งแรง การดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรคต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เรายืนหยัดอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะอย่างนั้น? ภูมิใจกับการดิ้นรนในวันนี้เถอะ ถ้าคุณหวังจะไปให้ถึงวันดี ๆ ของชีวิตที่สามารถโบยบิน ได้อย่างเสรี!