Transactions are the building block

Transactions are the building blocks of our accounts. Any transactions that occur within our business should be present in our accounting records.

There are many different types of transactions to keep track of such as sales, purchases, and even more. A regular point of confusion that we come across when we talk to small businesses about their accounts is the difference between cash and credit transactions. So, what is the difference?

The only difference between cash and credit transactions is the timing of the payment. A cash transaction is a transaction where payment is settled immediately. On the other hand, payment for a credit transaction is settled at a later date.

Try not to think about cash and credit transactions in terms of how they were paid, but rather, when they were paid. For example, you may buy some groceries at your local shop and pay for them in cash there and then, that’s a cash transaction. However, what if you paid by card rather than cash? That can also be classified as a cash transaction because you paid immediately.

On the other hand, credit transactions are paid at a later date than when the exchange of goods or services took place and almost all of time an invoice for the transaction is issued. The time period before payment can vary depending on the types of businesses or even the industry in which the transaction is taking place. Once again, when payment is finally settled for the invoice, it may be done with cash or card, or any other payment method but it is still a credit transaction.

Businesses will have a mixture of cash and credit transactions make up their accounting records. Some businesses may have the majority of their transactions be either one or the other and some will have a more even split. However, you would be hard pressed to find a business that didn’t have at least one cash or credit transaction occur during its lifetime.

Along with whether a transaction is classified as cash or credit another category is used to classify basic accounting transactions. We also need to know whether or not it is a sale, purchase or payment. This gives us a list of basic transactions:

1. Cash sale
2. Credit sale
3. Cash purchase
4. Credit purchase
5. Cash payment
6. Credit payment

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ธุรกรรมมีการสร้างบล็อกของบัญชีของเรา ธุรกรรมใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายในธุรกิจของเราควรอยู่ในบัญชีของเรามีหลายประเภทของธุรกรรมการติดตามเช่นการขาย การซื้อ และยิ่ง จุดปกติของความสับสนที่เราเจอเมื่อเราพูดคุยกับธุรกิจขนาดเล็กเกี่ยวกับบัญชี เป็นผลต่างระหว่างเงินสดและเครดิตธุรกรรม ดังนั้น อะไรคือความแตกต่างข้อแตกต่างระหว่างธุรกรรมเงินสดและสินเชื่อมีระยะเวลาของการชำระเงิน ธุรกรรมเงินสดคือ ธุรกรรมที่ชำระเงินจะชำระเงินทันที บนมืออื่น ๆ การชำระเงินสำหรับธุรกรรมเครดิตชำระในภายหลังพยายามไม่คิดเกี่ยวกับธุรกรรมเงินสดและสินเชื่อในวิธีการที่พวกเขาได้ชำระ แต่ เมื่อพวกเขาได้จ่าย ตัวอย่าง คุณอาจซื้ออาหารบางอย่างที่ร้านกาแฟของคุณ และจ่ายนั้นมีแล้ว เงินสดของธุรกรรมเงินสด อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณชำระเงิน ด้วยบัตรแทนเงินสด ที่ยังสามารถจัดการธุรกรรมเงินสดเนื่องจากที่คุณชำระเงินทันทีบนมืออื่น ๆ เครดิตธุรกรรมมีการชำระเงินในภายหลังกว่าเมื่อการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการใช้สถานที่และเวลาที่ออกใบแจ้งหนี้สำหรับธุรกรรมเกือบทั้งหมด ระยะเวลาก่อนการชำระเงินอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของธุรกิจหรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมที่ธุรกรรมจะมีสถานที่ อีกครั้ง เมื่อสุดท้ายมีจ่ายชำระเงินสำหรับใบแจ้งหนี้ อาจทำ ด้วยเงินสด หรือบัตร หรือวิธีการชำระเงินอื่น ๆ แต่ก็ยังคงเป็นธุรกรรมเครดิตธุรกิจจะมีส่วนผสมของเงิน และธุรกรรมเครดิตแต่งบันทึกบัญชี บางธุรกิจอาจมีส่วนใหญ่ของธุรกรรมของตนได้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออื่น ๆ และบางส่วนจะแบ่งได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณจะยากกดหาธุรกิจที่ไม่มีเงินสดน้อย หรือธุรกรรมเครดิตที่เกิดขึ้นในระหว่างรอบกับว่าธุรกรรมถูกจัดประเภทเป็นเงินสดหรือสินเชื่อประเภทอื่นจะใช้ในการจัดประเภทธุรกรรมการบัญชีพื้นฐาน เราต้องรู้ว่า จะขาย ซื้อ หรือชำระเงิน นี้ทำให้เรารายการธุรกรรมพื้นฐาน:1. เงินสดขาย2. สินเชื่อขาย3. เงินสดซื้อ4. สินเชื่อซื้อ5. เงินสดการชำระเงิน6. สินเชื่อการชำระเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทำธุรกรรมเป็นหน่วยการสร้างของบัญชีของเรา การทำธุรกรรมใด ๆ ที่เกิดขึ้นในธุรกิจของเราควรจะนำเสนอในการบันทึกบัญชีของเรา. มีหลายประเภทของการทำธุรกรรมในการติดตามเช่นการขายการซื้อและมากยิ่งขึ้น จุดปกติของความสับสนว่าเราเจอเมื่อเราพูดคุยกับธุรกิจขนาดเล็กที่เกี่ยวกับบัญชีของพวกเขาคือความแตกต่างระหว่างการทำธุรกรรมเงินสดและบัตรเครดิต ดังนั้นสิ่งที่เป็นความแตกต่าง? ข้อแตกต่างระหว่างการทำธุรกรรมเงินสดและสินเชื่อคือระยะเวลาของการชำระเงิน การทำธุรกรรมเงินสดคือการทำธุรกรรมการชำระเงินที่จะตัดสินได้ทันที ในทางตรงกันข้ามการชำระเงินสำหรับการทำธุรกรรมเครดิตจะตัดสินในภายหลัง. พยายามที่จะไม่คิดเกี่ยวกับการทำธุรกรรมเงินสดและเครดิตในแง่ของวิธีที่พวกเขาได้รับเงิน แต่เมื่อพวกเขาได้รับเงิน ตัวอย่างเช่นคุณอาจซื้อร้านขายของชำบางร้านค้าในท้องถิ่นของคุณและจ่ายสำหรับพวกเขาในรูปของเงินสดมีแล้วที่การทำธุรกรรมเงินสด แต่สิ่งที่ถ้าคุณชำระเงินด้วยบัตรเงินสดมากกว่า? ที่ยังสามารถแบ่งได้เป็นรายการเงินสดเพราะคุณจ่ายทันที. ในทางกลับกันการทำธุรกรรมบัตรเครดิตจะได้รับเงินในภายหลังกว่าเมื่อการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นและเกือบทั้งหมดของเวลาใบแจ้งหนี้สำหรับการทำธุรกรรมจะออก ระยะเวลาก่อนการชำระเงินสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจหรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมที่การทำธุรกรรมที่เกิดขึ้น อีกครั้งเมื่อชำระค่าใช้ตัดสินสุดท้ายสำหรับใบแจ้งหนี้ก็อาจทำได้ด้วยเงินสดหรือบัตรหรือวิธีการชำระเงินอื่น ๆ แต่ก็ยังคงเป็นการทำธุรกรรมบัตรเครดิต. ธุรกิจจะมีส่วนผสมของการทำธุรกรรมเงินสดและเครดิตให้ขึ้นการบันทึกบัญชีของพวกเขา ธุรกิจบางคนอาจมีส่วนใหญ่ของการทำธุรกรรมของพวกเขาเป็นได้ทั้งหนึ่งหรืออื่น ๆ และบางส่วนจะมีมากยิ่งขึ้นแยก แต่คุณจะกดยากที่จะหาธุรกิจที่ไม่ได้มีอย่างน้อยหนึ่งการทำธุรกรรมเงินสดหรือเครดิตได้เกิดขึ้นในช่วงอายุการใช้งานของก. พร้อมด้วยไม่ว่าจะเป็นรายการที่จัดเป็นเงินสดหรือเครดิตได้ประเภทอื่นที่ใช้ในการจัดประเภทรายการบัญชีขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้เรายังจำเป็นต้องรู้หรือไม่ว่ามันคือการขายการซื้อหรือการชำระเงิน นี้ทำให้เรามีรายชื่อของการทำธุรกรรมขั้นพื้นฐาน: 1 ขายเงินสด2 ขายเครดิต3 ซื้อเงินสด4 ซื้อเครดิต5 ชำระเป็นเงินสด6 การชำระเงินเครดิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ธุรกรรมมีการสร้างบล็อกของบัญชีผู้ใช้ของเรา ธุรกรรมใด ๆที่เกิดขึ้นภายในธุรกิจของเราควรอยู่ในบัญชีระเบียนของเรา

มีหลายประเภทของธุรกรรมที่จะติดตาม เช่น การขาย , การซื้อและมากขึ้นจุดปกติของความสับสนที่เราเจอตอนที่เราคุยกับธุรกิจขนาดเล็กเกี่ยวกับบัญชีของพวกเขาคือความแตกต่างระหว่างการทำธุรกรรมเงินสดและเครดิต ดังนั้น อะไรคือความแตกต่าง ?

ข้อแตกต่างระหว่างการทำธุรกรรมเงินสดและเครดิต คือ ระยะเวลาของการชำระเงิน การทำธุรกรรมเงินสดเป็นธุรกรรมที่ชำระเงินเรียบร้อยทันที บนมืออื่น ๆเงินสินเชื่อธุรกรรมตัดสินในภายหลัง

พยายามที่จะไม่คิดเกี่ยวกับการทำธุรกรรมเงินสดและเครดิตในแง่ของวิธีที่พวกเขาได้รับเงิน แต่เมื่อพวกเขาจ่าย ตัวอย่างเช่นคุณอาจจะซื้อของที่ร้านค้าในท้องถิ่นของคุณและจ่ายสำหรับพวกเขาในเงินสดและมีแล้ว นั่นคือการทำธุรกรรมเงินสด อย่างไรก็ตาม , ถ้าคุณจ่ายด้วยบัตรแทนเงินสด ?ที่สามารถจัดเป็นเงินสด รายการ เพราะคุณได้เงินทันที

บนมืออื่น ๆ , การทำธุรกรรมเครดิตจะได้รับเงินในภายหลังกว่าเมื่อการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการเกิดขึ้น และเกือบทั้งหมดของเวลาที่ใบแจ้งหนี้สำหรับการทำธุรกรรมจะออกระยะเวลาก่อนการชำระเงินอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ธุรกรรมที่เกิดขึ้น อีกครั้ง เมื่อการชำระเงินจะตัดสินสุดท้ายสำหรับใบแจ้งหนี้ก็อาจจะทำ ด้วยเงินสดหรือบัตร หรืออื่น ๆ วิธีการชําระเงิน แต่ก็ยังคงเป็นสินเชื่อธุรกิจ ธุรกิจ

จะมีส่วนผสมของการทำธุรกรรมเงินสดและเครดิตให้บันทึกในบัญชีของพวกเขาบางธุรกิจอาจจะมีส่วนใหญ่ของรายการของพวกเขาเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งหรืออื่น ๆและบางส่วนจะมีแยกมากขึ้น แต่คุณจะกดยากที่จะหาธุรกิจที่ไม่ได้มีอย่างน้อยหนึ่งเงินสดหรือบัตรเครดิตธุรกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของ

พร้อมกับว่า ธุรกรรมที่จัดเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตประเภทอื่นคือใช้เพื่อแยกประเภทรายการบัญชีเบื้องต้นเรายังต้องการทราบหรือไม่ว่ามันคือการขาย การซื้อ หรือการชำระเงิน นี้จะช่วยให้เรารายการธุรกรรมพื้นฐาน :

1 ขายเงินสด
2 ขายเครดิต
3 ซื้อเงินสด
4 เครดิตซื้อ
5 เงินสด
6 เครดิตการชำระเงิน