วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่อเย็น และเทคนิคการเติมน้ำในหม้อน้ำว การแปล - วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่อเย็น และเทคนิคการเติมน้ำในหม้อน้ำว ไทย วิธีการพูด

วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่

วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่อเย็น และเทคนิคการเติมน้ำในหม้อน้ำ
วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่อเย็น
ในหน้าปัดรถของเรานั้นจะมีสัญญาณเตือนหรือเป็นเข็มบอก โดยจะใช้สัญลักษณ์เป็นตัว C ย่อมาจาก Cool คือเย็น และ H ย่อมาจาก HOT คือร้อน ปกติแล้วถ้าระดับน้ำถูกต้องเข็มวัดความร้อนจะอยู่ในระดับปานกลางระหว่าง C กับ H แต่ถ้าขาดการดูแลจนระดับน้ำแห้งความร้อนจะมีมากขึ้นจนเข็มชี้ไปที่ H นั้น แปลว่ารถเกิดความร้อนมากต้องรีบจอดรถและหาน้ำมาเติม การเติมน้ำจะต้องรอให้เครื่องเย็นเสียก่อน ที่สำคัญห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องร้อนจัดเพราะอาจจะได้รับอันตราย จากไอน้ำที่พุ่งออกมาได้

ดังนั้น เพื่อให้หม้อน้ำรถยนต์อยู่คู่กับรถยนต์ของท่านไปนานๆ ก็ควรดูแลรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหม้อน้ำเกิดปัญหาขึ้นมา เครื่องยนต์จะเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดเป็นลำดับต่อไป เครื่องยนต์อาจจะร้อนจัดขนาด OVER HEAT สิ่งที่ต้องเสียตามมาติดๆ คือเงินในกระเป๋าสตางค์ของท่าน ต้องถูกควักจ่ายเพิ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้นรักคุณ รักรถจะมาบอกวิธีในการดูแลรักษาหม้อน้ำโดยมีดังนี้

ควรตรวจดูระดับน้ำทุกๆ ครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ หรืออย่างน้อยทุกๆ 2-3 วัน สำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 ปี และอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สำหรับรถใหม่อายุไม่เกิน 5 ปี ซึ่งปรกติระดับน้ำควรอยู่ตรงคอหม้อน้ำพอดี หรืออยู่ระหว่างกึ่งกลางขีด MAX และ MIN สำหรับรถที่มีหม้อพักน้ำ
ควรเติมน้ำที่สะอาดลงไปในหม้อน้ำเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้หม้อน้ำ หรือทางเดินของหลอดรังผึ้งหม้อน้ำเกิดการอุดตัน ถ้าเป็นไปได้ น้ำที่เราใช้ดื่มดีที่สุดสำหรับใช้เติมหม้อน้ำ
หมั่นตรวจดูรอยรั่วตามที่จุดต่างๆ อย่างเช่น ท่อยางหม้อน้ำ ครีบรังผึ้ง ปั๊มน้ำ ฯลฯ หากพบรอยรั่วซึม ควรทำการซ่อมทันที
ตรวจดูสายพานหน้าเครื่อง ไม่ควรให้หย่อนหรือตึงเกินไป ตามปรกติเมื่อใช้มือกดลงบนสายพานควรยุบตัวลงประมาณ 1 นิ้ว
ตรวจดูครีบรังผึ้ง (FIN) ของหม้อน้ำ อย่าให้พับงอปิดช่องทางผ่านของลม ไม่ควรให้สกปรกด้วยดินโคลนและคราบน้ำมัน เพราะจะทำให้ระบายความร้อนได้ยาก เครื่องยนต์อาจร้อนจัด และหากครีบพับงอ ให้ใช้ใบเลื่อยหรือโลหะบางๆ ดัดให้ตรง หรือถ้าครีบสกปรกมากให้ทำความสะอาดโดยใช้ลมเป่าหรือน้ำร้อนที่มีความดันสูงพอพ่นย้อนทิศทางลมเข้า
พัดลมระบายความร้อนควรอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกหัก หรือบิดงอเสียศูนย์ เพราะจะทำให้ปั๊มน้ำชำรุดได้ แต่ถ้าเป็นพัดลมไฟฟ้า ต้องคอยตรวจเช็คว่าพัดลมหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมหรือไม่ เพราะถ้าพัดลมหมุนด้วยรอบที่ช้าลง การระบายความร้อนให้หม้อน้ำรถยนต์ก็จะด้อยตามไปด้วย
ไม่ควรติดเครื่องยนต์โดยไม่ได้ปิดฝาหม้อน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดตะกรันในหม้อน้ำและภายในเครื่องยนต์ เนื่องจากน้ำในรังผึ้งหม้อน้ำระเหยออกมา เมื่อเกิดตะกรันในหม้อน้ำ หรือบริเวณท่อทางเดินน้ำในเครื่องยนต์มาก ๆ จะเป็นผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัด เพราะการระบายความร้อนไม่ดีพอ
เกจวัดความร้อนต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หากเสียใช้การไม่ได้ให้เปลี่ยนใหม่ทันที
หากน้ำในหม้อน้ำแห้ง ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน และมีอุณหภูมิสูง ไม่ควรดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในทันที ให้ติดเครื่องเดินเบาๆ สักระยะหนึ่ง พอให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ลดลง แล้วค่อยๆ เติมน้ำที่สะอาดลงไปทีละน้อยด้วยความระมัดระวัง
ควรถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุกๆ 4-6 เดือน หรือเมื่อเห็นว่าน้ำในหม้อน้ำสกปรกมากแล้ว เช่น มีสนิมหรือคราบน้ำมัน

เทคนิคการเติมน้ำในหม้อน้ำ
เทคนิคนี้หลายๆท่านอาจจะพอทราบวิธีเเล้ว แต่อยากจะนำเสนอให้อีกหลายๆท่านที่ยังไม่ทราบนะคับ

เปิดฝาหม้อน้ำเทน้ำให้เต็มทั้งหม้อพักเเละหม้อน้ำ
เปิดฝาหม้อน้ำทิ้งไว้เเล้วสตารท์เครื่องเเล้วเยี่ยบคันเร่งหรือเอามือดึงสายคันเร่งที่อยู่ตรงลิ้นปีกผีเสื้อ(ดึงเบาๆนะจ๊ะ ระวังมันจะดังหนวกหู)
ถ้ากรณีที่ดึงสายคันเร่งเเล้วมองไปที่รูเติมน้ำหม้อน้ำจะเห็นการเคลื่อนใหวของน้ำ ถ้าน้ำในหม้อน้ำเต็มเเล้วน้ำจะไม่ลดลง เเต่ถ้าน้ำในหม้อน้ำยังไม่เต็มน้ำจะลดลงไปอย่างชัดเจน ในเวลานั้นเองก็เทน้ำใส่ลงไปเลยโดยที่ไม่ต้องดับเครื่องพอเทจนเต็มก็เร่งเครื่องใหม่จนน้ำมันไม่ลดลงอีกเนอันเสร็จวิธีการเติมน้ำหม้อน้ำ เเล้วอย่าลืมปิดฝาด้วยนะจ๊ะ

โดยทั่วไปเเล้วปกติเราจะเติมน้ำในหม้อน้ำเราจะเติมในเวลาที่เครื่องยังไม่สตาร์ททำให้เวลาเราเติมจะรู้สึกว่ามันเติมเต็มเร็วทั้งๆที่อาจจะไม่ได้เติมน้ำมานานมากเเล้ว เวลาที่เครื่องดับการไหลเวียนของน้ำจะยังไม่ทำงานทำให้อาจเกิดช่องอากาศที่อยู่ท่อต่างๆของหม้อน้ำได้ พอเราสตาร์ทเครื่องน้ำก็จะไหลเวียนดันเอาช่องอากาศนี้ออกมาทางฝาของหม้อน้ำ ทำให้เราเห็นชัดเจนได้ว่าหม้อน้ำนั้นยังเติมน้ำไม่เต็มทั้งๆที่ก่อนหน้าที่จะสตาร์ทเครื่องเราเติมเต็มจนล้นออกมาเเล้วก็ตาม
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่อเย็น และเทคนิคการเติมน้ำในหม้อน้ำ
วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่อเย็น
ในหน้าปัดรถของเรานั้นจะมีสัญญาณเตือนหรือเป็นเข็มบอก โดยจะใช้สัญลักษณ์เป็นตัว C ย่อมาจาก Cool คือเย็น และ H ย่อมาจาก HOT คือร้อน ปกติแล้วถ้าระดับน้ำถูกต้องเข็มวัดความร้อนจะอยู่ในระดับปานกลางระหว่าง C กับ H แต่ถ้าขาดการดูแลจนระดับน้ำแห้งความร้อนจะมีมากขึ้นจนเข็มชี้ไปที่ H นั้น แปลว่ารถเกิดความร้อนมากต้องรีบจอดรถและหาน้ำมาเติม การเติมน้ำจะต้องรอให้เครื่องเย็นเสียก่อน ที่สำคัญห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องร้อนจัดเพราะอาจจะได้รับอันตราย จากไอน้ำที่พุ่งออกมาได้

ดังนั้น เพื่อให้หม้อน้ำรถยนต์อยู่คู่กับรถยนต์ของท่านไปนานๆ ก็ควรดูแลรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหม้อน้ำเกิดปัญหาขึ้นมา เครื่องยนต์จะเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดเป็นลำดับต่อไป เครื่องยนต์อาจจะร้อนจัดขนาด OVER HEAT สิ่งที่ต้องเสียตามมาติดๆ คือเงินในกระเป๋าสตางค์ของท่าน ต้องถูกควักจ่ายเพิ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้นรักคุณ รักรถจะมาบอกวิธีในการดูแลรักษาหม้อน้ำโดยมีดังนี้

ควรตรวจดูระดับน้ำทุกๆ ครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ หรืออย่างน้อยทุกๆ 2-3 วัน สำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 ปี และอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สำหรับรถใหม่อายุไม่เกิน 5 ปี ซึ่งปรกติระดับน้ำควรอยู่ตรงคอหม้อน้ำพอดี หรืออยู่ระหว่างกึ่งกลางขีด MAX และ MIN สำหรับรถที่มีหม้อพักน้ำ
ควรเติมน้ำที่สะอาดลงไปในหม้อน้ำเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้หม้อน้ำ หรือทางเดินของหลอดรังผึ้งหม้อน้ำเกิดการอุดตัน ถ้าเป็นไปได้ น้ำที่เราใช้ดื่มดีที่สุดสำหรับใช้เติมหม้อน้ำ
หมั่นตรวจดูรอยรั่วตามที่จุดต่างๆ อย่างเช่น ท่อยางหม้อน้ำ ครีบรังผึ้ง ปั๊มน้ำ ฯลฯ หากพบรอยรั่วซึม ควรทำการซ่อมทันที
ตรวจดูสายพานหน้าเครื่อง ไม่ควรให้หย่อนหรือตึงเกินไป ตามปรกติเมื่อใช้มือกดลงบนสายพานควรยุบตัวลงประมาณ 1 นิ้ว
ตรวจดูครีบรังผึ้ง (FIN) ของหม้อน้ำ อย่าให้พับงอปิดช่องทางผ่านของลม ไม่ควรให้สกปรกด้วยดินโคลนและคราบน้ำมัน เพราะจะทำให้ระบายความร้อนได้ยาก เครื่องยนต์อาจร้อนจัด และหากครีบพับงอ ให้ใช้ใบเลื่อยหรือโลหะบางๆ ดัดให้ตรง หรือถ้าครีบสกปรกมากให้ทำความสะอาดโดยใช้ลมเป่าหรือน้ำร้อนที่มีความดันสูงพอพ่นย้อนทิศทางลมเข้า
พัดลมระบายความร้อนควรอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกหัก หรือบิดงอเสียศูนย์ เพราะจะทำให้ปั๊มน้ำชำรุดได้ แต่ถ้าเป็นพัดลมไฟฟ้า ต้องคอยตรวจเช็คว่าพัดลมหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมหรือไม่ เพราะถ้าพัดลมหมุนด้วยรอบที่ช้าลง การระบายความร้อนให้หม้อน้ำรถยนต์ก็จะด้อยตามไปด้วย
ไม่ควรติดเครื่องยนต์โดยไม่ได้ปิดฝาหม้อน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดตะกรันในหม้อน้ำและภายในเครื่องยนต์ เนื่องจากน้ำในรังผึ้งหม้อน้ำระเหยออกมา เมื่อเกิดตะกรันในหม้อน้ำ หรือบริเวณท่อทางเดินน้ำในเครื่องยนต์มาก ๆ จะเป็นผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัด เพราะการระบายความร้อนไม่ดีพอ
เกจวัดความร้อนต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หากเสียใช้การไม่ได้ให้เปลี่ยนใหม่ทันที
หากน้ำในหม้อน้ำแห้ง ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน และมีอุณหภูมิสูง ไม่ควรดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในทันที ให้ติดเครื่องเดินเบาๆ สักระยะหนึ่ง พอให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ลดลง แล้วค่อยๆ เติมน้ำที่สะอาดลงไปทีละน้อยด้วยความระมัดระวัง
ควรถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุกๆ 4-6 เดือน หรือเมื่อเห็นว่าน้ำในหม้อน้ำสกปรกมากแล้ว เช่น มีสนิมหรือคราบน้ำมัน

เทคนิคการเติมน้ำในหม้อน้ำ
เทคนิคนี้หลายๆท่านอาจจะพอทราบวิธีเเล้ว แต่อยากจะนำเสนอให้อีกหลายๆท่านที่ยังไม่ทราบนะคับ

เปิดฝาหม้อน้ำเทน้ำให้เต็มทั้งหม้อพักเเละหม้อน้ำ
เปิดฝาหม้อน้ำทิ้งไว้เเล้วสตารท์เครื่องเเล้วเยี่ยบคันเร่งหรือเอามือดึงสายคันเร่งที่อยู่ตรงลิ้นปีกผีเสื้อ(ดึงเบาๆนะจ๊ะ ระวังมันจะดังหนวกหู)
ถ้ากรณีที่ดึงสายคันเร่งเเล้วมองไปที่รูเติมน้ำหม้อน้ำจะเห็นการเคลื่อนใหวของน้ำ ถ้าน้ำในหม้อน้ำเต็มเเล้วน้ำจะไม่ลดลง เเต่ถ้าน้ำในหม้อน้ำยังไม่เต็มน้ำจะลดลงไปอย่างชัดเจน ในเวลานั้นเองก็เทน้ำใส่ลงไปเลยโดยที่ไม่ต้องดับเครื่องพอเทจนเต็มก็เร่งเครื่องใหม่จนน้ำมันไม่ลดลงอีกเนอันเสร็จวิธีการเติมน้ำหม้อน้ำ เเล้วอย่าลืมปิดฝาด้วยนะจ๊ะ

โดยทั่วไปเเล้วปกติเราจะเติมน้ำในหม้อน้ำเราจะเติมในเวลาที่เครื่องยังไม่สตาร์ททำให้เวลาเราเติมจะรู้สึกว่ามันเติมเต็มเร็วทั้งๆที่อาจจะไม่ได้เติมน้ำมานานมากเเล้ว เวลาที่เครื่องดับการไหลเวียนของน้ำจะยังไม่ทำงานทำให้อาจเกิดช่องอากาศที่อยู่ท่อต่างๆของหม้อน้ำได้ พอเราสตาร์ทเครื่องน้ำก็จะไหลเวียนดันเอาช่องอากาศนี้ออกมาทางฝาของหม้อน้ำ ทำให้เราเห็นชัดเจนได้ว่าหม้อน้ำนั้นยังเติมน้ำไม่เต็มทั้งๆที่ก่อนหน้าที่จะสตาร์ทเครื่องเราเติมเต็มจนล้นออกมาเเล้วก็ตาม
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
โดยจะใช้สัญลักษณ์เป็นตัว C ย่อมาจากคูลคือเย็นและ H ย่อมาจาก HOT คือร้อน C กับ H H นั้น จากไอน้ำที่พุ่งออกมาได้ดังนั้น ก็ควรดูแลรักษา เครื่องยนต์อาจจะร้อนจัดขนาด OVER HEAT สิ่งที่ต้องเสียตามมาติดๆคือเงินในกระเป๋าสตางค์ของท่านต้องถูกควักจ่ายเพิ่มขึ้นนั่นเองดังนั้นรักคุณ ครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์หรืออย่างน้อยทุกๆ 2-3 วันสำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 ปีและอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งสำหรับรถใหม่อายุไม่เกิน 5 ปี หรืออยู่ระหว่างกึ่งกลางขีด MAX และ MIN เพื่อป้องกันไม่ให้หม้อน้ำ ถ้าเป็นไปได้ อย่างเช่นท่อยางหม้อน้ำครีบรังผึ้งปั๊มน้ำ ฯลฯ หากพบรอยรั่วซึม ไม่ควรให้หย่อนหรือตึงเกินไป 1 นิ้วตรวจดูครีบรังผึ้ง (FIN) ของหม้อน้ำอย่าให้พับงอปิดช่องทางผ่านของลม เพราะจะทำให้ระบายความร้อนได้ยากเครื่องยนต์อาจร้อนจัดและหากครีบพับงอให้ใช้ใบเลื่อยหรือโลหะบาง ๆ ดัดให้ตรง ไม่แตกหักหรือบิดงอเสียศูนย์เพราะจะทำให้ปั๊มน้ำชำรุดได้ แต่ถ้าเป็นพัดลมไฟฟ้า เพราะถ้าพัดลมหมุนด้วยรอบที่ช้าลง เมื่อเกิดตะกรันในหม้อน้ำ ๆ จะเป็นผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัด ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานและมีอุณหภูมิสูง ให้ติดเครื่องเดินเบา ๆ สักระยะหนึ่งพอให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ลดลงแล้วค่อยๆ 4-6 เดือน เช่น























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่อเย็นและเทคนิคการเติมน้ำในหม้อน้ำ

วิธีการบำรุงรักษาหม้อน้ำหรือระบบหล่อเย็นในหน้าปัดรถของเรานั้นจะมีสัญญาณเตือนหรือเป็นเข็มบอกโดยจะใช้สัญลักษณ์เป็นตัว C ย่อมาจากเย็นคือเย็นและ H ย่อมาจากร้อนคือร้อนปกติแล้วถ้าระดับน้ำถูกต้องเข็มวัดความร้อนจะอยู่ในระดับปานกลางระหว่าง C กับ HH นั้นแปลว่ารถเกิดความร้อนมากต้องรีบจอดรถและหาน้ำมาเติมการเติมน้ำจะต้องรอให้เครื่องเย็นเสียก่อนที่สำคัญห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องร้อนจัดเพราะอาจจะได้รับอันตรายจากไอน้ำที่พุ่งออกมาได้

ดังนั้นเพื่อให้หม้อน้ำรถยนต์อยู่คู่กับรถยนต์ของท่านไปนานๆก็ควรดูแลรักษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหม้อน้ำเกิดปัญหาขึ้นมาเครื่องยนต์จะเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดเป็นลำดับต่อไปผ่านความร้อนสิ่งที่ต้องเสียตามมาติดๆคือเงินในกระเป๋าสตางค์ของท่านต้องถูกควักจ่ายเพิ่มขึ้นนั่นเองดังนั้นรักคุณรักรถจะมาบอกวิธีในการดูแลรักษาหม้อน้ำโดยมีดังนี้

ควรตรวจดูระดับน้ำทุกๆครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์หรืออย่างน้อยทุกๆ 2-3 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าสำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 . และอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งสำหรับรถใหม่อายุไม่เกินซึ่งปรกติระดับน้ำควรอยู่ตรงคอหม้อน้ำพอดี 5 .แม็กซ์และสำหรับรถที่มีหม้อพักน้ำ
มินควรเติมน้ำที่สะอาดลงไปในหม้อน้ำเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้หม้อน้ำหรือทางเดินของหลอดรังผึ้งหม้อน้ำเกิดการอุดตันถ้าเป็นไปได้น้ำที่เราใช้ดื่มดีที่สุดสำหรับใช้เติมหม้อน้ำ
หมั่นตรวจดูรอยรั่วตามที่จุดต่างๆอย่างเช่นท่อยางหม้อน้ำครีบรังผึ้งปั๊มน้ำฯลฯหากพบรอยรั่วซึมควรทำการซ่อมทันที
ตรวจดูสายพานหน้าเครื่องไม่ควรให้หย่อนหรือตึงเกินไปตามปรกติเมื่อใช้มือกดลงบนสายพานควรยุบตัวลงประมาณนิ้ว
1ตรวจดูครีบรังผึ้ง ( ครีบ ) ของหม้อน้ำอย่าให้พับงอปิดช่องทางผ่านของลมไม่ควรให้สกปรกด้วยดินโคลนและคราบน้ำมันเพราะจะทำให้ระบายความร้อนได้ยากเครื่องยนต์อาจร้อนจัดและหากครีบพับงอให้ใช้ใบเลื่อยหรือโลหะบางๆหรือถ้าครีบสกปรกมากให้ทำความสะอาดโดยใช้ลมเป่าหรือน้ำร้อนที่มีความดันสูงพอพ่นย้อนทิศทางลมเข้า
พัดลมระบายความร้อนควรอยู่ในสภาพที่ดีไม่แตกหักหรือบิดงอเสียศูนย์เพราะจะทำให้ปั๊มน้ำชำรุดได้แต่ถ้าเป็นพัดลมไฟฟ้าต้องคอยตรวจเช็คว่าพัดลมหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมหรือไม่เพราะถ้าพัดลมหมุนด้วยรอบที่ช้าลงไม่ควรติดเครื่องยนต์โดยไม่ได้ปิดฝาหม้อน้ำเด็ดขาดเพราะจะทำให้เกิดตะกรันในหม้อน้ำและภายในเครื่องยนต์เนื่องจากน้ำในรังผึ้งหม้อน้ำระเหยออกมาเมื่อเกิดตะกรันในหม้อน้ำจะจะเป็นผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัดเพราะการระบายความร้อนไม่ดีพอ
เกจวัดความร้อนต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้หากเสียใช้การไม่ได้ให้เปลี่ยนใหม่ทันที
หากน้ำในหม้อน้ำแห้งในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานและมีอุณหภูมิสูงไม่ควรดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในทันทีให้ติดเครื่องเดินเบาๆสักระยะหนึ่งพอให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ลดลงแล้วค่อยๆควรถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุกๆ 4-6 เดือนหรือเมื่อเห็นว่าน้ำในหม้อน้ำสกปรกมากแล้วเช่นมีสนิมหรือคราบน้ำมัน


เทคนิคการเติมน้ำในหม้อน้ำเทคนิคนี้หลายๆท่านอาจจะพอทราบวิธีเเล้วแต่อยากจะนำเสนอให้อีกหลายๆท่านที่ยังไม่ทราบนะคับ


เปิดฝาหม้อน้ำเทน้ำให้เต็มทั้งหม้อพักเเละหม้อน้ำเปิดฝาหม้อน้ำทิ้งไว้เเล้วสตารท์เครื่องเเล้วเยี่ยบคันเร่งหรือเอามือดึงสายคันเร่งที่อยู่ตรงลิ้นปีกผีเสื้อ ( ดึงเบาๆนะจ๊ะระวังมันจะดังหนวกหู )
ถ้ากรณีที่ดึงสายคันเร่งเเล้วมองไปที่รูเติมน้ำหม้อน้ำจะเห็นการเคลื่อนใหวของน้ำถ้าน้ำในหม้อน้ำเต็มเเล้วน้ำจะไม่ลดลงเเต่ถ้าน้ำในหม้อน้ำยังไม่เต็มน้ำจะลดลงไปอย่างชัดเจนเเล้วอย่าลืมปิดฝาด้วยนะจ๊ะ

โดยทั่วไปเเล้วปกติเราจะเติมน้ำในหม้อน้ำเราจะเติมในเวลาที่เครื่องยังไม่สตาร์ททำให้เวลาเราเติมจะรู้สึกว่ามันเติมเต็มเร็วทั้งๆที่อาจจะไม่ได้เติมน้ำมานานมากเเล้วพอเราสตาร์ทเครื่องน้ำก็จะไหลเวียนดันเอาช่องอากาศนี้ออกมาทางฝาของหม้อน้ำทำให้เราเห็นชัดเจนได้ว่าหม้อน้ำนั้นยังเติมน้ำไม่เต็มทั้งๆที่ก่อนหน้าที่จะสตาร์ทเครื่องเราเติมเต็มจนล้นออกมาเเล้วก็ตาม
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: